เปิด '3ปัจจัย' จะทำโควิด-19 แพร่ระบาดในไทย
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุ 3 ปัจจัย โรคโควิด-19 จะแพร่ระบาดกว้างขวางแค่ไหนในประเทศไทย ย้ำ 4 ข้อปฏิบัติคนไทยต้องทำ
นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวระบุว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะแพร่ระบาดกว้างขวางแค่ไหนในประเทศไทย ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย ได้แก่ 1.ปัจจัยที่เกี่ยวกับตัวเชื้อ เชื้อตัวนี้เรารู้กันเป็นอย่างดีว่าสามารถแพร่จากคนไปสู่คนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วย 1 คน สามารถแพร่เชื้อให้กับผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อได้มากกว่า 2 คน (ค่าเฉลี่ยคือประมาณ 2.2 - 2.6) นั่นก็คือ หากเราไม่ทำอะไร ทุกๆ ระยะฟักตัว (ประมาณ 5 วัน) จะมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 เท่า จะเห็นได้ว่าปัจจัยที่เกี่ยวกับตัวเชื้อชัดเจนมาก โรคนี้มีความสามารถที่จะแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเราไม่ทำอะไร หรือทำไม่เต็มที่ โรคนี้ระบาดได้รวดเร็ว และกว้างขวาง แน่ๆ
2. ระบบสาธารณสุข หากประเทศใดมีระบบสาธารณสุขที่ดีก็จะสามารถชะลอและจัดการกับโรคระบาดได้ดี เรื่องนี้ก็ชัดเจนเช่นกันกัน ประเทศไทยมีระบบสาธารณสุขที่ดีเป็นที่ยอมรับระดับโลก ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีสมรรถนะในด้านการป้องกันควบคุมโรคติดต่ออันตรายสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก และดีที่สุดในเอเซีย เป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศเดียวที่ได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีความพร้อมมากที่สุด (หรือ most prepared) ดังนั้น ปัจจัยเรื่องระบบสาธารณสุขก็ชัดเจน ว่าเราพร้อมอยู่ระดับนึง มีความพร้อมเป็นระดับต้นๆ ของโลก
3.สำหรับสถานการณ์เช่นนี้ (สองปัจจัยแรกยังก้ำกึ่งไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครจะชนะ) ปัจจัยที่ 3 จึงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ที่จะตอบว่าโรคนี้จะแพร่ระบาดกว้างขวางแค่ไหนในประเทศไทย ปัจจัยที่ 3 ก็คือ ความร่วมมือของคนไทย
คำถามที่สำคัญจึงเป็นคนไทยจะร่วมมือกับระบบสาธารณสุขสู้กับไวรัส (ท่านเลือกอยู่ #ทีมไทย ) หรือท่านจะเลือกอยู่ข้างไวรัส คอยช่วยเหลือและสนับสนุนไวรัสให้แพร่เชื้อไปได้อย่างกว้างขวางในประเทศไทย
มีอะไรบ้างที่ท่านในฐานะคนไทยต้องทำ มีหลายเรื่องมาก 1. ท่านจะต้องติดตามข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีสติและมีวิจารณญาณ ในการรับรู้ข่าวสาร พยายามคิด วิเคราะห์ เพื่อนำข่าวสารเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ ท่านยังสามารถช่วยทีมสาธารณสุขได้ด้วยการ “งด” แชร์ข่าวปลอม และช่วยชี้แจงข่าวที่ถูกต้อง 2.ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรค หากสามารถเลื่อนได้ ควรเลื่อนการเดินทาง
3. หากท่านยังมีสุขภาพดี ท่านควรพยายามอย่างเต็มที่ในการรักษาสุขภาพ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่น ไม่ควรเข้าใกล้ผู้ที่มีอาการไอ-จาม ล้างมือทุกครั้งหลังจากใช้ห้องน้ำ และควรล้างมือบ่อยๆ ไม่นำมือไปลูบหรือจับบริเวณใบหน้า รับประทานอาหารร้อน ใช้ช้อนกลาง ไม่ใช้ภาชนะหรืออุปกรณ์การรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น หากท่านทำงานในสถานที่ปิดทึบ เช่น ท่านขับรถแท็กซี่ ขับรถตู้ เป็นต้น ท่านอาจสวมใส่หน้ากากผ้าได้ การสวมใส่หน้ากาก (จะเป็นแบบผ้าหรือหน้ากากชนิดใช้แล้วทิ้ง) ร่วมกับการล้างมือบ่อยๆ จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้
4. ในสถานการณ์ปัจจุบัน (ประเทศไทยมีการแพร่ระบาดอยู่ในวงจำกัด) หากท่านมีอาการคล้ายจะเป็นหวัดไปจนถึงอาการของปอดอักเสบ เช่น มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ครั่นเนื้อครั่นตัว หายใจเร็ว หายใจลำบาก บวกกับท่านมีประวัติเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง หรือท่านมีอาชีพสัมผัสนักท่องเที่ยวบ่อยๆ ท่านควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด โดยท่านควรลดโอกาสที่ท่านจะแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่นๆ ด้วย โดยการสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือปิดปากปิดจมูกทุกครั้งที่ท่านไอหรือจามด้วยต้นแขนหรือข้อศอก (ห้ามใช้มือปิดปากปิดจมูกเวลาไอหรือจาม) และล้างมือบ่อยๆ เมื่อไปถึงโรงพยาบาลควรแจ้งอาการพร้อมประวัติการเดินทางต่อเจ้าหน้าที่โดยทันที
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะแพร่ไปได้รวดเร็วแค่ไหน สุดท้ายจะขึ้นอยู่กับคนไทยทุกคน โดยเฉพาะผู้ป่วย ถ้าทุกคนคิดอยู่เสมอว่า แม้เราจะติดเชื้อมาแล้ว แต่เราจะไม่แพร่เชื้อนี้ต่อไปให้คนอื่น เราจะให้โรคหยุดอยู่ที่เรา เราก็จะสามารถนับได้ว่าเราคือองค์ประกอบที่สำคัญของการหยุดการแพร่ระบาดของโรคนี้ในประเทศไทยได้อย่างแท้จริง