จีนปลดล็อคหูเป่ย์ สวนกระแส 'ล็อคดาวน์' เมืองทั่วโลก
สถานการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 ในจีนกำลังดีวันดีคืน ล่าสุด ทางการประกาศยกเลิกล็อคดาวน์มณฑลหูเป่ย์ ศูนย์กลางการระบาดแล้ว (ยกเว้นเมืองอู่ฮั่น) ในขณะที่รัฐบาลทั่วโลกล็อคดาวน์ประชาชนกว่า 1.7 พันล้านคนให้อยู่ในบ้าน เพื่อชะลอการระบาด
ตั้งแต่เวลา 23.59 วันนี้ (24 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น มณฑลหูเป่ย์ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของโรคโควิด-19 เมื่อปลายปีที่แล้ว จะอนุญาตให้พลเมืองที่แข็งแรงดีเดินทางระหว่างเมืองต่าง ๆ ในมณฑลได้ ถือเป็นการปลดล็อคดาวน์ครั้งแรกนับตั้งแต่ทางการสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว
การผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว ซึ่งจะยังไม่มีผลบังคับใช้กับเมืองอู่ฮั่นที่มีการระบาดหนักที่สุด จนกว่าจะถึงวันที่ 8 เม.ย.นี้ มีขึ้นในช่วงที่อังกฤษ นิวซีแลนด์ รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในยุโรป ตะวันออกกลาง อเมริกาเหนือ และเอเชียประกาศมาตรการล็อคดาวน์ทั่วประเทศ ในความพยายามเพื่อสกัดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่
แต่มาตรการพิเศษที่ใช้กันทั่วโลกนี้ยังคงส่งผลให้เกิดเรื่องราวสุดหดหู่ตามมา เช่น ในสเปน ทหารที่ได้รับภารกิจให้ออกมาควบคุมสถานการณ์การระบาดของไวรัสมรณะ รายงานว่าพบผู้สูงอายุจำนวนหนึ่งถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างเดียวดายในบ้าน และบางคนเสียชีวิตในสถานดูแลคนชรา
นอกจากนี้ ในนครนิวยอร์กซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดในสหรัฐ มีนักจิตวิทยาคนหนึ่งซึ่งออกมาสำรวจบนท้องถนนที่ร้างผู้คน เตือนว่า สถานการณ์นี้อาจกระทบสุขภาพจิตของทุกคนในระยะยาว
"ฉันรู้สึกกลัวแทนตัวเองและผู้ป่วยว่า สถานการณ์นี้จะยืดเยื้อไปอีกหลายเดือน" ลอเรน ซึ่งปฏิเสธเปิดเผยนามสกุลบอกกับเอเอฟพี "ความวิตกกังวลและความหดหู่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาแบบนี้"
ขณะที่รัฐบาลอังกฤษ ซึ่งถูกวิจารณ์หนักว่าตัดสินใจล่าช้าในการรับมือวิกฤติสาธารณสุขครั้งนี้ ยังสั่งปิดโรงเรียนช้ากว่าบรรดาเพื่อนบ้านในยุโรป โดยเพิ่งมาสั่งปิดทั่วประเทศเมื่อวันศุกร์ (20 มี.ค.) ที่ผ่านมา
วานนี้ (23 มี.ค.) นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน สั่งปิดร้านค้าและบริการ “ที่ไม่จำเป็น” เป็นเวลา 3 สัปดาห์ และห้ามประชาชนรวมตัวกันเกินกว่า 2 คนในที่สาธารณะ เพื่อยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19
“อยู่ในบ้านเถอะครับ” จอห์นสันกล่าวกับประชาชนผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ทั่วประเทศ
คำประกาศนี้มีขึ้นหลังจากชาวอังกฤษจำนวนมากยังแห่เที่ยวสวนสาธารณะและต่างเมืองในช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการที่เข้มงวดขึ้น
ด้านนายแพทย์เทดรอส อัดนาฮอม กีเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า การแพร่กระจายของโรคโควิดทั่วโลกขณะนี้ เริ่มเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ตัวเลขของเอเอฟพีระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกทะลุ 16,200 คนแล้ว ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ที่กว่า 360,000 คนใน 174 ประเทศและดินแดน นับถึงเช้าวันที่ 24 มี.ค.
กีเบรเยซุส ระบุว่า ต้องใช้เวลา 67 วันนับตั้งแต่วันเริ่มระบาดในจีนเมื่อเดือน ธ.ค. 2562 กว่าจะมีผู้ติดเชื้อไวรัส 100,000 คนแรกทั่วโลก เทียบกับระยะเวลา 11 วันที่จำนวนเพิ่มจาก 100,001 คนเป็น 200,000 คน และเพียง 4 วันจากจำนวน 200,001 คนเป็น 300,000 คนทั่วโลก
ในนครนิวยอร์กซึ่งอยู่ภายใต้คำสั่งล็อคดาวน์ มีเพียงเภสัชกร พนักงานร้านชำ และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์กลุ่มเล็ก ๆ ที่ยังออกมาสัญจรในเมืองตามปกติ
แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐซึ่งเตรียมลงเลือกตั้งสมัยที่ 2 ในเดือน พ.ย.นี้ และไม่ต้องการให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมในประเทศ แถลงว่า เร็ว ๆ นี้ เขาจะเปิดให้ภาคธุรกิจทั่วประเทศดำเนินการตามปกติ เพราะสหรัฐคือประเทศเสรี
ขณะที่รัฐบาลจีนประกาศมาตรการตอบสนองวิกฤตการณ์นี้ตั้งแต่แพทย์เริ่มรับมือผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มแรก ๆ และในวันนี้ (24 มี.ค.) สื่อทางการรายงานอย่างภาคภูมิใจว่า กำแพงเมืองจีนส่วนที่คนนิยมเช็คอินกัน จะเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง แต่มีกฎว่า ผู้มาเยือนต้องสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างจากผู้อื่น 1 เมตร
ภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 ในจีนขณะนี้เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ทางการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 78 คนในวันที่ 24 มี.ค. ส่วนใหญ่รับเชื้อมาจากต่างประเทศ