ไต้หวันแฉ ‘อนามัยโลก-จีน’ สกัดดาวรุ่งสู้ไวรัส

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายโจ จีฮอ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรค (ซีดีซี) ไต้หวันแถลงว่า ซีดีซีทำหนังสือถึงองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) และจีน ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการค้นพบการแพร่ระบาดของไวรัสที่เมืองอู่ฮั่นของจีน รวมทั้งถามว่ามีการติดต่อจากคนสู่คนหรือไม่

“เราถามพวกเขาแล้วว่า เป็นไปได้มั้ยที่จะติดต่อจากคนสู่คน เราถามแล้ว เตือนพวกเขาแล้วในเรื่องนี้” นายโจกล่าวและว่า ดับเบิลยูเอชโอยืนยันว่าได้รับจดหมายแล้วจริงๆ แต่ไม่ได้ตอบกลับ

นายเฉิน ชีชอง รัฐมนตรีสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า โชคดีที่ไต้หวันตัดสินใจในวันเดียวกันนั้น เริ่มคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินมาจากเมืองอู่ฮั่น แล้วเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในวันที่ 2 ม.ค. ความเคลื่อนไหวนี้ได้รับการยกย่องจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญว่าช่วยให้ไต้หวันควบคุมการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ช่วงแรกๆ และแม้ไต้หวันส่งผู้เชี่ยวชาญไปจีนในเดือน ม.ค. แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้พบคนไข้เลยสักคน แถมยังไม่ให้ไปตลาดที่เชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดไวรัส การเดินทางไปจีนครั้งนั้นทำให้ทางการไต้หวันตระหนักว่า พวกเขาต้องเร่งดำเนินการอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ดับเบิลยูเอโอแจ้งเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ว่า ไม่มีหลักฐานปรากฏชัดเรื่องการติดต่อจากคนสู่คน ต่อมาจีนยืนยันการติดต่อจากคนสู่คนในวันที่ 20 ม.ค.

สำนักข่าวรอยเตอร์สอบถามไปยังดับเบิลยูเอชโอ ไม่มีการพูดถึงประเด็นการละเลยไต้หวันโดยตรง แต่ระบุว่า สำนักงานดับเบิลยูเอชโอในจีนได้รับแจ้งเรื่องโรคปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.

“ตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งวันนี้ดับเบิลยูเอชโอคำนึงถึงเหตุการณ์นี้อย่างจริงจัง และให้ความสนใจเต็มที่ทั่วทั้งองค์กร” ดับเบิลยูเอชโอระบุ

นอกจากนี้ไต้หวันยังโอดครวญเรื่องที่ดับเบิลยูเอชโอจัดให้ผู้ติดเชื้อในไต้หวันอยู่ในจีน ทำให้หลายๆ ประเทศสับสน คิดว่าไต้หวันระบาดหนักพอๆ กับจีน ที่รายงานผู้ติดเชื้อกว่า 80,000 คน ทั้งๆ ที่ไต้หวันมีผู้ติดเชื้อ 215 คน เสียชีวิตเพียง 2 คน

ด้านนายเกิ้งฉวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ประณามการกระทำของไต้หวันว่าใช้การระบาดมาเล่นการเมือง ดับเบิลยูเอชโอติดต่อกับไต้หวันตามหลักการ “จีนเดียว”