'เสนา' ปรับแผนรุกติดโซลาร์รูฟท็อปทาวน์เฮาส์ รับกระแส Work from home
“เสนา” ปรับแผนรุกติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเจาะกลุ่มทาวน์เฮาส์ แทนบ้านเดี่ยว หลังโควิด-19 ทำให้ยอดการใช้ไฟฟ้าพุ่ง พร้อมชะลแผน ลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมหวังตุนเงินสดในมือ
น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า บริษัท ได้ปรับแผนธุรกิจให้บริการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคา(โซลาร์รูฟท็อป) จากเดิมมุ่งเน้นลูกค้าในกลุ่มโครงการบ้านเดี่ยว มาเป็นการให้บริการลูกค้ากลุ่มโครงการบ้านขนาดเล็ก หรือ ทาว์น์เฮาส์ โดยจะเป็นการติดตั้ง โซลาร์รูฟท็อปขนาด 1 กิโลวัตต์ ซึ่งคิดเป็นต้นทุนค่าไฟฟ้าในอัตรา 20-30% ของราคาผ่อนบ้าน อยู่ที่กว่า 1 หมื่นบาทต่อเดือน
ดังนั้น ค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้ในส่วนนี้ ก็จะช่วยให้ลูกค้ามีเงินไปผ่อนบ้านเพิ่มขึ้น จึงน่าจะเป็นจุดสร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้าในการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปมากขึ้น
รวมถึงปัจจุบันการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ประชาชนที่หันมาทำงานที่บ้านตามมาตรการของรัฐ หรือ Work from home มากขึ้นนั้น ทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าอยู่บ้านจ่ายค่าไฟฟ้าต่อเดือนแพงขึ้น เนื่องจากไฟฟ้ามีการคิดคำนวณ “ค่าไฟแบบอัตราก้าวหน้า” หากใช้หน่วยมากขึ้นค่าไฟฟ้าก็จ่ายแพงขึ้น โดยมีตัวแปรสำคัญ คือ “หน่วยไฟฟ้าที่ใช้”
ทั้งนี้ ต้นทุนแผงโซลาร์เซลล์ปัจจุบันถูกลงกว่าอดีตมากจึงน่าจะเป็นจังหวะที่ดี หากผู้บริโภคมาให้ความสนใจและติดตั้งโซลาร์ในภาคบ้านอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานที่บ้านหรือฟรีแลนซ์ เพราะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากช่วงเวลากลางวัน
“ในอนาคตหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย แต่ก็เชื่อว่า กระแสการทำงานที่บ้าน หรือ Work from home จะมีมากขึ้น ตามทิศทางของเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น และเอื้อให้ประชาชนสามารถทำงานได้ทุกที่ อีกทั้ง เสนาฯไม่ได้บวกเพิ่มค่าบริการในค่าบ้านแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าลูกค้าจะตอบรับด้วยดี”
ทั้งนี้ บริษัท จะนำร่องติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปทุกยูนิตในโครงการทาวน์เฮาส์ 2 ชั้นแบรนด์ “เสนาวิลล์ ลำลูกกา คลอง 6” ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาทขึ้นไป โดยมีแผนเปิดพรีเซลเดือน มิ.ย.นี้
น.ส.เกษรา กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 จนกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทสและทั่วโลกชะลอตัวนั้น ทำให้ลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และห้างสรรพสินค้า ที่ต้องการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปบนหลังคา เจรจาขอชะลอการติดตั้งออกไปก่อน โดยบริษัท เอท โซลาร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเสนาฯ ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ และเป็นผู้ให้บริการติดตั้งแบบครบวงจร (อีพีซี ) ได้รายงานว่า การขอเลื่อนติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปออกไปก่อนนั้น เนื่องจากลูกค้าประเมินว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงนี้ทำให้ยอดขายลดลง จึงต้องการประหยัดงบประมาณในส่วนนี้ เพื่อนำไปเป็นกระแสเงินสดให้กับบริษัท ดังนั้น เชื่อว่า ผู้ประกอบการให้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปรายอื่นๆ ก็น่าจะได้รับผลกระทบในลักษณะเดียวกัน
เสนาฯ ยังเปิดเผยข้อมูลการสำรวจ พบว่า การลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาบ้าน สิ่งที่ได้มากกว่าคือนำไฟฟ้าที่ผลิตได้เองจากพลังงานสะอาดมาใช้เพื่อลดการซื้อไฟฟ้าจากระบบของรัฐ ดังนั้น จึงทำให้ผู้ซื้อบ้านของเสนาทุกหลังจะได้ใช้ค่าไฟฟ้าที่ถูกลงตลอดระยะเวลา 25 ปี ซึ่งคุ้มค่าอย่างมาก ยกตัวอย่างตามสเปกการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ที่มีกำลังผลิต 2-8 กิโลวัตต์ของบ้านเสนาโซลาร์ คำนวณระยะเวลา 10 ปี เทียบได้กับการปลูกต้นไม้ใหญ่ 16 -63 ต้น ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2 -9 ตันต่อปี