บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ย่อยสลายได้ภายใน 6 เดือน
การผลักดันเรื่องสิ่งแวดล้อมของภาครัฐ นำมาซึ่งการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง ขณะเดียวกัน ในช่วงปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบได้ปรับเปลี่ยนมาใช้กล่องใส่อาหารที่ทำจากวัตถุดิบย่อยสลายได้ง่าย เกิดการพัฒนากล่อง จาน ช้อนส้อม หลอด เพื่อลดการใช้พลาสติก
ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการที่ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกหลายราย เริ่มหันมาให้ความสำคัญและเปิดตลาดบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนและร้านค้าต่างๆ ที่หันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกัน บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ในชื่อแบรนด์ “EGG Biopak” ที่เริ่มต้นจากครอบครัวซึ่งทำธุรกิจผลิตถุงพลาสติก ประเภทถุงหิ้ว และถุงช้อปปิ้งมากว่า 30 ปี กระทั่งนโยบายรัฐ และ เทรนด์ของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยน จึงผันมาทำบรรจุภัณฑ์ที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเมื่อต้นปี เปิดไลน์ผลิตจาน ชาม ช้อนส้อม กล่องข้าว โดยทำการศึกษาวัสดุต่างๆ ที่สามารถย่อยสลายได้ สู่การสร้างแบรนด์ EGG Biopak หรือ Everyone Go Green
ด้วยความมุ่งหวัง ที่อยากเห็นประเทศไทยมีการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ ที่ย่อยสลายได้อย่างแท้จริง โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปัญหาขยะล้นเมือง และหลุดรอดลงสู่ท้องทะเล ซึ่งเป็นสาเหตุการตายของสัตว์ทะเล อีกทั้งยังสามารถตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตสมัยใหม่ ที่มุ่งเน้นความสะดวกในการใช้งาน แต่หลังการใช้และย่อยสลาย ยังคงความสมดุลของระบบนิเวศทำให้เกิดความยั่งยืนในการใช้ชีวิตของมนุษย์
“มโนรถ เลิศนิลกาญจน์” Sale Manager EGG Biopak อธิบายว่า หากเปรียบเทียบกับอัตราการย่อยสลายผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบทั่วไป ที่ใช้เวลาในการย่อยสลายถึงประมาณ 350-400 ปี ทำให้เกิดปัญหาขยะตกค้าง บางทีหลุดรอดไปในแหล่งน้ำ สิ่งมีชีวิตเข้าใจว่าเป็นอาหาร กินเข้าไปอาจทำให้เสียชีวิต ขณะที่บรรจุภัณฑ์ EGG Biopak ช่วยร่นระยะเวลา จาก 400 ปี เหลือเพียง 6 เดือน สามารถย่อยสลายได้ 100%
ทั้งนี้ วัตถุดิบของบรรจุภัณฑ์ ทำมาจากพืชที่มีแป้ง ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง เน้นการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยผ่านการวิจัย ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตวัตถุดิบโดยการสังเคราะห์จากพืช ไปจนถึงกระบวนการแปรรูปออกมาเป็นตัวสินค้าที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานการย่อยสลายและความปลอดภัยจากสถาบันในหลายประเทศ
อีกทั้งวัสดุผลิตจากพืชที่ปลูกหมุนเวียนทดแทนใหม่ได้ ช่วยประหยัดทรัพยากรธรรมชาติจากแหล่งน้ำมันดิบ และลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปลดปล่อยในระหว่างการผลิต ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ได้มากกว่าวัสดุประเภทอื่นๆ เช่น พลาสติก ผ้า หรือ กระดาษ
บรรจุภัณฑ์ของ EGG Biopak สามารถใส่ของร้อน ของเหลว ของมันได้ และปรับให้สินค้าสามารถเข้าไมโครเวฟ สามารถอุ่นได้ ปัจจุบัน มีการพัฒนาสินค้า อาทิ กล่องข้าว 1 – 2 ช่อง กล่องฝาพับสามารถล็อคได้รอบตัวปิดสนิท อากาศเข้าได้น้อย เก็บอาหารได้นานมากขึ้น ลดการใช้หนังยาง และสก๊อตเทป
สำหรับช้อนส้อม ออกแบบให้มีความแข็งแรง ไม่หักง่าย และทำขนาดให้ใกล้เคียงกับการกินข้าวปกติ สามารถล้างนำกลับไปใช้ซ้ำได้ พกพาได้ น้ำหนักเบา และจาน 7 นิ้ว และ 9 นิ้ว ในส่วนของฝาปิดกล่องข้าว มีให้เลือก 2 แบบ คือ “ฝาใสย่อยสลายได้” หรือ “ฝาใสพลาสติก” สำหรับผู้ประกอบการบางรายอาจจะยังไม่พร้อมเปลี่ยนทั้งหมดเนื่องจากราคาค่อนข้างสูง แต่อย่างน้อยก็ได้ช่วยโลกไปครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีถุงหูหิ้วที่สามารถย่อยสลายได้ด้วยการฝังกลบในดินอีกด้วย
“เทรนด์ของผู้ประกอบในขณะนี้ ทุกคนมีความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่รักษ์โลกมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับราคา เพราะพลาสติกชีวภาพ จะราคาสูงกว่าพลาสติกทั่วไปประมาณ 2 – 3 เท่า บางรายอยู่ระหว่างการตัดสินใจ เพราะเป็นเรื่องของต้นทุน” มโนรถ กล่าว
หลังจากการใช้งาน ผลิตภัณฑ์ EGG Biopak สามารถนำมากำจัดได้โดยการทิ้งรวมกับขยะสดหรือขยะเปียกให้ย่อยสลายในดิน เปรียบเสมือนการทำปุ๋ยหมักที่จะอาศัยจุลินทรีย์ในดินที่มีอยู่ตามธรรมชาติมากัดกินเป็นอาหารและทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นค่อยๆย่อยสลายไป กลายเป็น ก๊าซคาร์บอน น้ำ หรือธาตุต่างๆ
ส่วนประกอบทางธรรมชาติที่ได้จากการย่อยสลายเหล่านี้ไม่ทิ้งสารพิษ และทำลายดินแต่กลับเป็นประโยชน์เพิ่มสารในดินให้กลายเป็นปุ๋ย สำหรับการเจริญเติบโตของพืช โดยใช้เวลาย่อยสลายภายใน 6 เดือน ขณะนี้ ขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก และมีการพูดคุยกับโมเดิร์นเทรด คาดในปีหน้าอาจเริ่มวางขายได้