น้ำท่วมภาคใต้ เสียชีวิตแล้ว 29 ราย เดือดร้อนกว่า 5 แสนครัวเรือน
ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ประชาชนได้รับผลกระทบ 555,194 ครัวเรือน เสียชีวิต 29 ราย ยังมีน้ำท่วมขัง 5 จังหวัด เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 63 เวลา 09.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัยในพื้นที่ภาคใต้ 11 จังหวัด 101 อำเภอ 560 ตำบล 4,130 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 555,194 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 29 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสงขลา ภาพรวมระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมและสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. – ปัจจุบัน (8 ธ.ค. 63 เวลา 06.00 น.) มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัยรวม 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 101 อำเภอ 560 ตำบล 4,130 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 555,194 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 29 ราย (สุราษฎร์ธานี 2 ราย นครศรีธรรมราช 21 ราย ตรัง 1 ราย สงขลา 2 ราย และพัทลุง 3 ราย)
ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมใน 5 จังหวัด 43 อำเภอ 225 ตำบล 1,456 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 280,781 ครัวเรือน ดังนี้
1. สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอเคียนซา อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอพุนพิน อำเภอเวียงสระ อำเภอพระแสง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และอำเภอบ้านนาสาร รวม 71 ตำบล 526 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 19,822 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
2. นครศรีธรรมราช น้ำท่วมขังในพื้นที่ 18 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพระพรหม อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอชะอวด อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอปากพนัง อำเภอหัวไทร อำเภอทุ่งสง อำเภอท่าศาลา อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอนาบอน อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอฉวาง อำเภอบางขัน อำเภอพรหมคีรี อำเภอถ้ำพรรณา และอำเภอช้างกลาง รวม 83 ตำบล 608 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 184,750 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
3. ตรัง น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง อำเภอห้วยยอด อำเภอรัษฎา อำเภอวังวิเศษ และอำเภอกันตัง รวม 17 ตำบล 63 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,058 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ยกเว้นอำเภอกันตัง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
4. พัทลุง น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนขนุน อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอเขาชัยสน อำเภอปากพะยูน และอำเภอบางแก้ว รวม 22 ตำบล 99 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 46,284 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
5. สงขลา น้ำท่วมขังในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอบางกล่ำ อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสิงหนคร อำเภอระโนด อำเภอควนเนียง และอำเภอสทิงพระ รวม 32 ตำบล 160 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 28,867 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย พื้นที่ใกล้เคียง พื้นที่อื่น ๆ สนับสนุนการเผชิญเหตุ โดยระดมกำลังพลและทรัพยากรด้านสาธารณภัย อาทิ เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เรือไฟเบอร์ รถสูบส่งน้ำระยะไกล รถผลิตน้ำดื่ม รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถสุขาเคลื่อนที่ รถประกอบอาหาร รถไฟฟ้าส่องสว่าง ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่สูงและเร่งระบายน้ำท่วมขัง รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สำหรับในส่วนของผู้เสียชีวิต จังหวัดได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตตามระเบียบแล้ว ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป