ผลกระทบจาก 'โควิด-19' แรงงานต่างด้าว 'สมุทรสาคร'
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ การแพร่ระบาดระลอกใหม่ที่มีต้นตอจากตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร วันนี้ขยายวงกว้างไปหลายจังหวัด ในด้านเศรษฐกิจผลกระทบส่งถึงผู้ประกอบการและแรงงานจำนวนมาก นับเป็นโจทย์ที่รัฐต้องเร่งช่วยเหลือ พร้อมมาตรการป้องกันที่เข้มงวด
กรณีผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกสองจากแรงงานต่างด้าวสมุทรสาคร รัฐบาลควรอนุมัติงบฉุกเฉินเพื่อดูแลผลกระทบต่อผู้ประกอบการและการชดเชยรายได้ให้กับแรงงานรายวัน ที่ถูกให้หยุดงานจากมาตรการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ใน จ.สมุทรสาคร ควรเพิ่มงบประมาณเพื่อตรวจหาเชื้อเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด โดยเฉพาะใน จ.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ นครปฐม ระนอง ตาก ราชบุรี เชียงใหม่ เชียงราย
ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง และเจลล้างมือ รวมทั้งการจัดสรรเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอในบางจังหวัด ที่อาจต้องมีผู้ที่เข้ารักษาตัวเพิ่มขึ้น
ตั้งด่านในการตรวจโรคทุกคนที่อาศัยอยู่ใน จ.สมุทรสาคร (ทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าว) ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกพื้นที่สมุทรสาครและต้องตรวจผู้ใช้บริการรถเมล์สายมหาชัยปากน้ำเข้ามากรุงเทพฯ รวมทั้งรถสาธารณะจากสมุทรสาครไปยังจังหวัดอื่นๆ ของประเทศไทย
ผู้ที่โดยสารรถเมล์จากพื้นที่เสี่ยงเข้าสู่กรุงเทพฯ ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคนและต้องพกเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ เช่น สายปอ.68 สมุทรสาคร-บางลำพู สาย 105 มหาชัยเมืองใหม่-คลองสาน สาย 140 แสมดำ-จุฬาฯ และอนุสาวรีย์ชัย ปอ.7 (สมุทรสาคร-หัวลำโพง) สาย 43 ศึกษานารี 2-เทเวศร์ รวมทั้ง สาย 8328 สมุทรสาคร เชื่อมฝั่งธน เป็นต้น
นอกจากนี้ ทาง ขสมก.และรถร่วม ขสมก.ต้องเตรียมหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือให้ทุกคนด้วยหากผู้โดยสารไม่ได้พกพามาด้วย หากมีปัญหาเรื่องขาดแคลนงบประมาณ รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนการควบคุมให้การแพร่ระบาดอยู่ในวงจำกัด
มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ หากเกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างและต้องล็อกดาวน์ทั่วประเทศแบบเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจะเข้าสู่ภาวะการล้มละลายอีกจำนวนมากพร้อมกับการว่างงานของผู้ใช้แรงงานในวงกว้าง ธุรกิจที่กำลังจะกระเตื้องขึ้นจะทรุดตัวลงไปอีก เสนอรณรงค์ให้ทุกคนใส่หน้ากาก 100%
หากคุมระบาดระลอกสองไม่ได้ การติดเชื้อจะสูงกว่าระลอกแรก 4-5 เท่า และใช้เวลาควบคุมมากกว่า 2 เท่าจากตัวอย่างของหลายประเทศที่คุมการแพร่ระบาดระลอกสองไม่ได้ การกระตุ้นการท่องเที่ยวควรทำหลังเดือน มี.ค.ปีหน้า หากปล่อยให้มีการจัดงานปีใหม่รวมคนจำนวนมากโดยไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การควบคุมโรคระบาดโดยเคร่งครัดมีความเสี่ยงสูงที่จะคุมการแพร่ระบาดไม่ได้ ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจจะหนักกว่าเดิมหลายเท่า เนื่องจากมีข้อจำกัดทางด้านการคลังและงบประมาณเพิ่มขึ้นตามลำดับและหนี้สาธารณะต่อจีดีพีก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
หากจะหาเม็ดเงินงบประมาณมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจและเยียวยาผลกระทบจากการล็อกดาวน์ หากคุมการแพร่ระบาดไม่ได้ ต้องไม่เลื่อนหรือลดภาษีทรัพย์สินอีก เพราะการจัดเก็บภาษีทรัพย์สินไม่กระทบคนส่วนใหญ่และภาษีเหล่านี้มีเป็นแหล่งรายได้หลักขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดูแลสวัสดิการประชาชนและพัฒนาพื้นที่
การระบาดระลอกสองในไทยยังไม่รุนแรงเนื่องจากมีระบบติดตามไต่สวนโรคที่ดีจำกัดการแพร่ระบาดได้ และการแพร่ระบาดจากแรงงานต่างด้าวในตลาดกลางค้ากุ้ง จ.สมุทรสาคร การระบาดยังคงถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่จำกัดแต่มีการแพร่ระบาดค่อนข้างเร็วและผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการทำให้อาจไปสัมผัสผู้คนจำนวนมากโดยไม่รู้ตัวว่าป่วย ทิศทางของเศรษฐกิจไทยและการกระเตื้องขึ้นของระบบเศรษฐกิจจึงขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกสองในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่มีต่อตลาดการเงินจะรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากการแพร่ระบาดที่สมุทรสาครมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและอาจมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากที่ไม่ตรวจพบ คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นน่าจะมีการปรับฐานครั้งใหญ่และมีการเทขายทำกำไรในสัปดาห์หน้า โอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวลงต่ำกว่า 1,438 จุดมีความเป็นไปได้
นอกจากนี้เงินบาทน่าจะชะลอการแข็งค่าลงบ้าง พร้อมกับการปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์ น้ำท่วมภาคใต้ทำให้ผลผลิตยางพาราและปาล์มน้ำมันเข้าสู่ตลาดลดลง น่าจะส่งผลเสียหายราว 0.8-1 ล้านตัน ประเมินไม่เกินร้อยละ 0.05 ของจีดีพีหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ส่งผลให้ราคายางพาราและปาล์มน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ความเสียหายจากน้ำท่วมคาดว่าไม่เกิน 7,000 ล้านบาท
ส่วนสถานะ Monitoring List ของไทยเรื่องการบิดเบือนค่าเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐส่งแรงกดดันให้เงินบาทแข็งค่า เมื่อประเมินเบื้องต้นแล้ว น้ำท่วมภาคใต้มีผลเสียหายต่อภาพรวมเศรษฐกิจน้อยกว่าการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกสอง แต่ผลกระทบจากน้ำท่วมมีผลกระทบในเชิงพื้นที่สูงเนื่องจากเป็นพื้นที่อาศัยรายได้จากผลผลิตยางพาราและปาล์มน้ำมันเป็นหลัก รัฐบาลจึงต้องจัดสรรงบเพื่อฟื้นฟูจากภัยพิบัติน้ำท่วมด้วย คาดผลกระทบต่อพื้นที่อาจลากยาวถึงไตรมาสแรกปีหน้า