'กก.สอบบ่อน'ถกนัดแรก21ม.ค.เล็งหาช่องยึดทรัพย์ ดูความเป็นไปได้ตั้ง'คาสิโน'

'กก.สอบบ่อน'ถกนัดแรก21ม.ค.เล็งหาช่องยึดทรัพย์ ดูความเป็นไปได้ตั้ง'คาสิโน'

"ชาญเชาวน์" เผย "กก.สอบบ่อน" ถก นัดแรก 21 ม.ค.นี้ วางกรอบการทำงาน เล็งหาแนวทางยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้อง จ่อตั้งอนุฯ ศึกษาปัญหา รับ มีอำนาจดูความเป็นไปได้ตั้ง "คาสิโน" ถูกกม. คาด รายงานลับ "นายกฯ" ครั้งแรก ภายใน1เดือน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำความผิดกรณีสถานที่เล่นการพนันเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงนโยบายการทำงานของคณะกรรมการฯ ว่า คณะกรรมการฯ มีหน้าที่กำกับเชิงนโยบายการบังคับใช้กฎหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการกับบ่อนการพนัน โดยนายวิษณุ ได้เน้นย้ำในเรื่องอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ว่าไม่ใช่เป็นผู้ลงไปจับกุมเอง แต่มีหน้าที่แนะนำและตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ดำเนินการไปในทิศทางไหน บังคับใช้กฎหมายครบถ้วนแล้วหรือไม่ โดยจะเรียกสำนวนการสอบสวนจากตำรวจมาร่วมพิจารณา

นายชาญเชาว์ กล่าวว่า คณะกรรมการฯ จะได้ตรวจสอบหน่วยงานใคคณะกรรมการฯ ด้วยว่า มีการประสานงานระหว่างกันหรือไม่อย่างไร เพราะการทำงานในเรื่องของคดีทำนองนี้ ต้องเน้นการประสานการทำงานระหว่างหน่วยงานต่างๆจำนวนมาก ซึ่งคณะกรรมการฯ จะไปช่วยในสิ่งเหล่านี้ อีกทั้งทางคณะกรรมการฯจะรายงานทางลับให้นายกฯ โดยตรง อย่างน้อยเดือนละ1 ครั้ง

นายชาญเชาว์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมคณะกรรมการฯ นัดแรก ตนได้เรียกประชุมในวันที่21 .. เวลา 10.00 .  ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(...) โดยป... เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการฯ ในที่ประชุมจะมีการหารือถึงแนวทางดำเนินการติดตามเส้นทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะดำเนินการยึดทรัพย์ได้หรือไม่อย่างไร และจะได้หารือและวางกรอบการทำงานว่าจะประชุมสัปดาห์ละกี่วัน ทั้งนี้ คณะกรรมการฯได้รับนโยบายมาด้วยว่า ประชาชนคาดหวังในเรื่องการปราบปรามบ่อนการพนันได้   คาดว่าภายใน1 เดือน จะสามารถรายงานนายกฯ จากนั้นนายกฯจะใช้อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินไปดำเนินการต่างๆตามรายงานที่เราได้นำเสนอ  และผลที่ออกเป็นรูปธรรมจะไปออกกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า คณะกรรมการชุดนี้จะสามารถทำอะไรให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างที่ตั้งเป้าเอาไว้นายชาญเชาวน์ กล่าวว่า ผลที่เกิดเป็นรูปธรรม จะไม่ออกมาจากคณะกรรมการฯเพราะคณะกรรมการของตนไม่เหมือนกับคณะกรรมการชุดนายวิชา มหาคุณ ที่ตรวจสอบเกี่ยวกับการดำเนินคดี บอส หรือนายวรยุทธ อยู่วิทยา  เพราะคณะกรรมการชุดของตนมีตัวประธานคนเดียวที่ระบุเป็นชื่อบุคคล ส่วนที่เหลือใช้หน่วยงานเป็นหลัก หมายความว่าใช้ภารกิจแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำอยู่แล้ว และเน้นการให้หน่วยงานเหล่านั้นต้องทำหน้าที่ในส่วนที่เขาควรทำ แล้วเราไปตรวจสอบเชิงนโยบาย หรือบางเรื่องมีผู้ให้คำแนะนำ หรือโค้ชให้หน่วยงานเหล่านั้น

นายชาญเชาว์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการฯ ได้รับการยืนยันแล้ว จะได้รับการสนับสนุนจากทุกหน่วยงานที่ร่วมในอย่างเต็มที่ไม่มีปัญหา

ผู้สื่อข่าวถาม ว่าหากหน่วยงานใดไม่ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการฯ จะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง นายชาญเชาวน์ กล่าวว่า คณะกรรมการฯจะเป็นผู้ตรวจสอบการประสานการทำงานและการให้ข้อมูลของหน่วยงานต่างๆที่อยู่คณะกรรมการชุดนี้ จากนั้นจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการโดยคณะกรรมการฯ จะตรวจสอบติดสอบการทำงานคณะอนุกรรมการด้วย

เมื่อถามว่า คิดว่ากรณีที่อ้างว่ามีคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้องกับบ่อนการพนัน จะมีอุปสรรคในการทำงานของคณะกรรมการฯ หรือไม่ นายชาญเชาวน์ กล่าวว่า ถ้ามีคนมีสีที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็คงจะเป็นคนที่อยู่ในหน่วยงานซึ่งเป็นองค์ประกอบในคณะกรรมการฯ ดังนั้น หากหน่วยงานรู้ว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องหรือเจอตอ ก็ให้แจ้งมา ตนจะนำไปรายงานต่อนายกฯ ว่าเจอตอตรงไหนบ้าง ซึ่งการรายงานลับก็ถือเป็นข้อดีเพราะหากพบอะไร ก็สามารถรายงานายกฯได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอให้มีการจับกุมผู้เกี่ยวข้องก่อน

นายชาญเชาวน์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสบ้อนการพนันผ่านช่องทางสายด่วนรัฐบาล 1111 และ ... จะตั้งศูนย์รับแจ้งเบาะแสด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการลงไปหาข้อมูลในพื้นที่จริงในจังหวัดต่างๆด้วยหรือไม่ นายชาญเชาวน์  กล่าวว่า การลงพื้นที่เป็งานของคณะอนุกรรมการที่ตนจะมอบให้ไปเก็บข้อมูลและรายงานกลับเข้ามา ซึ่งในการประชุมนัดแรกจะมีการคุยเรื่องการตั้งผู้ทำหน้าที่ในคณะอนุกรรมการต่างๆด้วย  ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในคณะกรรมการฯ จะไปเป็นหัวหน้าทีม ซึ่งจะศึกษาปัญหาการบังคับใช้กฎหมายรวมถึงมีอำนาจให้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมายเกิดขึ้นในประเทศด้วย