แม้ผันผวนระยะสั้น แต่คงมุมมองเชิงบวกระยะกลางไม่เปลี่ยน

แม้ผันผวนระยะสั้น แต่คงมุมมองเชิงบวกระยะกลางไม่เปลี่ยน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวจากถ้อยแถลงของประธานเฟด

ดัชนี Nasdaq ฟื้นตัวจาก -4% เหลือ -0.5% ขณะที่ DJIA และ S&P กลับขึ้นมาบวกเล็กน้อย หลังนักลงทุนคบายความกังวลการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรหลังถ้อยแถลงของเจอร์โรม พาวเวล ที่คาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตขึ้น 6% และมองการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อเป็นปัจจัยชั่วคราว ขณะที่แสดงความกังวลต่อความอ่อนแอเกินไปของเศรษฐกิจ มากยิ่งกว่าการเพิ่มขึ้นมากเกินไปของตลาดหุ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนมองเฟดจะยังไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินที่สำคัญ และจะดำเนินมาตรการที่จำเป็นสำหรับการฟื้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราคาดว่าจะยังเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่ม Reflation ไม่ว่าจะเป็นโภคภัณฑ์และธนาคาร

ตัวเลขส่งออกม.ค.64 กลับมาบวกเป็นเดือนที่ 2 ที่ 0.35% แต่จุดที่น่าสนใจคือการส่งออกที่ไม่รวมทองคำ น้ำมันและอาวุธ เติบโต 7.57% สะท้อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจริง โดยมีสินค้าส่งออกที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ 1) อาหาร 2) สินค้าเกี่ยวกับการทำงานที่บ้าน 3) สินค้าเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและการระบาด 4) กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ ทยอยกลับมาฟื้นตัว ทั้งรถยนต์ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็กกล้า เคมีภัณฑ์และเม็ดพลาสติก โดยรวมสัญญาณของการส่งมีทิศทางที่ดีและมีความต่อเนื่อง  

ตลาดเลือกเก็งกำไรรายตัว โดยธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กัญชง และกัญชา บวกต่อ DOD, SAPPE, TIPCO, MALEE, STA, PTG 2) ค่าระวางเรือ เราชอบ TTA, PSL 3) กลุ่มอาหารและราคาสินค้าเกษตร อาทิ น้ำตาลปรับขึ้นทำ new high ในรอบกว่า 1 ปี บวกต่อจิตวิทยาหุ้นน้ำตาล อย่างไรก็ตาม การเก็งกำไรควรระมัดระวังความเสี่ยงของพ.ร.บ.อ้อนและน้ำตาลฉบับใหม่ รวมทั้งผลประกอบการปีนี้ที่ยังอ่อนแอจากผลผลิตที่ต่ำสุดในรอบหลายปี เราชอบ CPF  4) กลุ่มท่องเที่ยว-ธนาคาร จากการผ่อนคลายเศรษฐกิจ และมาตรการออก REIT buy back อาจส่งผลบวกต่อการบริหารสภาพคล่องและการฟื้นตัวของผลการดำเนินงาน ซึ่งในกลุ่มนี้ เราชอบธนาคารที่ยัง Laggard อย่าง BBL, SCB, AWC, MINT, CPN, BDMS 5) ไฟฟ้าชุมชน ยื่นซอง 22 มี.ค.-2 เม.ย. เรามองบวกต่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะ ETC และ ACE

ภาพรวมกลยุทธ์ ฟื้นตัวและแกว่งในกรอบ 1,470-1,520 จุด ซึ่งแม้อาจมีความผันผวนบ้างในระยะสั้น แต่ตามภาพระยะกลางยังคงมุมมองเชิงบวก โดยช่วงสั้นเน้นการเก็งกำไรรายตัว และอาจเพิ่มน้ำหนักบางส่วนในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ โดยเน้นหุ้นที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง และเสี่ยงต่อเพิ่มทุนต่ำ// หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร CPN*, MAJOR*, CPF*, IVL*

แนวรับ 1,502/ แนวต้าน : 1,528-1,550 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

ตัวเลขส่งออกไทย เดือน ม.ค. สนค.รายงานตัวเลขส่งออก เดือน ม.ค. ขยายตัว 0.35% จากตลาดคาด 0.6-2.7% ขณะที่การนำเข้าหดตัว 5.24% ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล $202.38 ล้าน แนวโน้มการส่งออกไทยปี 64 คาดส่งออกขยายตัวได้ 4% โดยในช่วงครึ่งปีแรก คาดว่าจะขยายตัว 3-5% ขณะที่ครึ่งปีหลัง ขยายตัวได้ 3-4% พร้อมมองว่าสัญญาณการส่งออกในเดือนก.พ.มีแนวโน้มดีขึ้น

วัคซีนถึงไทย กระจาย 4 กลุ่ม 13 จังหวัด. นายกฯย้ำคนไทยได้รับวัคซีนฟรีทุกคน ศบค.เผยวัคซีนล็อตแรกกระจาย 4 กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ 13 จังหวัด ผู้ได้รับวัคซีนล็อตแรกอายุ 18-59 ปี หากอายุมากหรือน้อยกว่านี้อาจมีความเสี่ยงสูง

รฟม.-NBM เซ็นต์ร่วมทุนสายสีชมพู รฟม. และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) เซ็นสัญญาร่วมทุนฯรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายวงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี คาดเปิดให้บริการปี 67

ERW เพิ่มทุน – ที่อัตราส่วน 1.25 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคา 1 บาท และให้ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ ERW-W3 ที่อัตรา 7:1 ราคาใช้สิทธิ์ 3 บาท โดยขึ้น XR 11 พ.ค.64 ของซื้อและชำระค่าหุ้น 7 -11 มิ.ย.64 ด้วย dilution effect ที่เกิดขึ้นสูง เรามองเป็นปัจจัยลบต่อราคาหุ้นและคาดตลาดจะปรับลดคำแนะนำของหุ้นลง

ประเด็นติดตาม: - 25 ก.พ. : US GDP 4Q20, US initial jobless claims, TH Industrial production เดือน ม.ค., รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทย เดือน ม.ค.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)