'วัคซีน พาสปอร์ต'ความหวังฟื้นท่องเที่ยวยุโรป
ขณะที่หลายประเทศเร่งฉีดวัคซีนให้พลเมืองประเทศของตัวเองให้ได้มากที่สุด เพื่อบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอีกด้านหนึ่ง รัฐบาลของหลายประเทศก็พยายามสร้างความปลอดภัยในการเปิดพรมแดน ด้วยความหวังว่าจะช่วยพลิกฟื้นอุตสาหกรรมเดินทาง-ท่องเที่ยว
วานนี้(2มี.ค.) คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เสนอให้มีการออกใบอนุญาตเดินทางระบบดิจิทัล เพื่อให้ยุโรปกลับมาเปิดพรมแดนได้อย่างปลอดภัย โดยยังคงต้องยึดถือปฏิบัติตามมาตรการสำคัญที่ปฏิบัติกันมาจนถึงปัจจุบัน
“มาร์การิทิส ชีนาส” รองประธานอีซี กล่าวว่า จะประกาศแพคเกจเดินทางดังกล่าวในที่ประชุมอียู ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 17 มี.ค.นี้ โดยประเด็นการประชุมจะมุ่งเน้นไปที่การเดินทางท่องเที่ยว และการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์
"ใบอนุญาตเดินทางระบบดิจิทัลจะมีข้อมูลการฉีดวัคซีน ผลการตรวจโควิด-19 และใบรับรองแพทย์หลังหายจากอาการป่วย โดยจะคำนึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว การออกใบอนุญาตดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อกำหนดแนวทางการเปิดพรมแดนของยุโรปได้อย่างปลอดภัยและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน” ชินาส กล่าว
ด้าน“เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน” ประธานอีซี โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า “ใบอนุญาตเดินทางระบบดิจิทัลควรที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตให้กับชาวยุโรป และช่วยให้การเดินทางข้ามพรมแดนในสหภาพยุโรป (อียู)หรือต่างประเทศทำได้อย่างปลอดภัย ทั้งในเรื่องงานและท่องเที่ยว
ในการประชุมครั้งนี้ นอกจากมีการหารือเรื่องหนังสือเดินทางที่มีประวัติสุขภาพแล้ว รัฐมนตรีสาธารณสุขของอียูยังได้หารือถึงการฉีดวัคซีนให้ตรงตามกำหนดและครอบคลุมประชาชนจำนวนมาก รวมถึงการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ที่เพิ่มขึ้นทั่วยุโรป
ที่ผ่านมา มีหลายประเทศที่ออกหนังสือเดินทางประเภทนี้แล้วและบางประเทศอยู่ระหว่างการพัฒนา เช่น กรณีของอิสราเอล ออกแอพพลิเคชัน “กรีนพาส” ที่ให้ผู้ได้รับวัคซีนครบ หรือติดโรคโควิด-19 และหายแล้ว เข้าใช้บริการในโรงยิม โรงแรม โรงหนัง และศาสนสถานได้ ส่วนเดนมาร์ก กำลังพัฒนาวัคซีน พาสปอร์ต ในรูปแบบดิจิทัลเพื่อให้ประชาชนใช้พิสูจน์ว่าได้รับวัคซีนต้านโควิด-19แล้ว
เอสโทเนีย และองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ)กำลังพัฒนาใบรับรองการฉีดวัคซีนอิเล็กทรอนิกส์ ที่เรียกว่า “บัตรเหลืองอัจฉริยะ ส่วนกรีซ เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรปใช้ระบบการรับรองที่จะเปิดทางให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แล้วสามารถเดินทางได้โดยเสรี ขณะที่สเปน กำลังรวบรวมข้อมูลคนที่ปฏิเสธการรับวัคซีน ซึ่งจะมีการแบ่งปันข้อมูลนี้ให้แก่สหภาพยุโรป(อียู)ต่อไป
การเสนอให้ออกวัคซีน พาสปอร์ตมีขึ้นในวันเดียวกับที่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของจีน ระบุว่า จีนและสหรัฐควรยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างสองประเทศ เมื่อประชาชนในสหรัฐ ซึ่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้ว สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ต่อโรคโควิด-19 ได้ครอบคลุม 90% ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วงเดือนส.ค.นี้
“อู๋ ซุนหยู” หัวหน้านักระบาดวิทยาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของจีนบอกว่า “โอกาสที่จะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ที่ระดับ 90% น่าจะเป็นภายในเดือนส.ค. หากเป็นไปตาม จะสามารถยกเลิกมาตรการควบคุมต่างๆ ที่รัฐบาลกำหนด โดยอาศัยข้อมูลวิทยาศาสตร์ประกอบการพิจารณา ซึ่งจีนและสหรัฐอาจเป็นสองประเทศแรกที่ยกเลิกข้อจำกัดและเปิดให้มีการเดินทางได้อย่างเสรี”
สหรัฐเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 มากที่สุดในโลกในแง่ของจำนวนผู้ติดเชื้อ โดยนับจนถึงขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่เกือบ 30 ล้านคน ส่วนความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน นับจนถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (28 ก.พ.) ประชาชนในสหรัฐอย่างน้อย 15% ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19โดสแรกแล้ว
อู๋ แสดงความหวังว่า อัตราการฉีดวัคซีนในสหรัฐน่าจะครอบคลุมประชาชนกว่า 80% ในเดือนมิ.ย.นี้
ส่วนสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีน ส่วนใหญ่ควบคุมได้แล้ว โดยพบการติดเชื้อเล็กน้อยจากการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในประเทศเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และในขณะนี้ จีนไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศมาตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา และนับจนถึงวันที่ 9 ก.พ. จีนได้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปแล้ว 40.5 ล้านโดส