กทม. เร่งฉีดวัคซีนโควิด กลุ่มเสี่ยงตลาดย่านบางขุนเทียน - จอมทอง
กทม. เร่งลงพื้นที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กลุ่มเสี่ยงผู้ค้าและผู้ช่วยค้าในตลาดย่านบางขุนเทียนและจอมทอง พร้อมทั้งให้กำลังใจ แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่จากสำนักอนามัย และภาคีเครือข่าย ที่ปฏิบัติหน้าที่
(3 เม.ย. 64) ณ วัดกำแพง เขตบางขุนเทียน นายชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้กับกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้ค้าและผู้ช่วยค้าที่เป็นคนไทยในตลาดในพื้นที่บางขุนเทียน พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน อาทิ แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่จากสำนักอนามัย ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงธนใต้ สำนักงานเขตบางขุนเทียน และภาคีเครือข่าย
รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้กับกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้ค้าและผู้ช่วยค้าที่เป็นคนไทยในตลาดในพื้นที่เขตบางขุนเทียน จำนวน 22 ตลาด ประมาณ 1,400 คน ส่วนวันพรุ่งนี้จะฉีดวัคซีนให้กับผู้ค้าและผู้ช่วยค้าที่เป็นคนไทยในตลาดในพื้นที่เขตจอมทอง จำนวน 19 ตลาด ประมาณ 1,200 คน ซึ่งวัคซีนที่นำมาฉีดให้ประชาชนจะมีทั้ง 2 ชนิด โดยซิโนแว็กจะฉีดให้ผู้ที่มีอายุ 18-59 ปี 10 เดือน ส่วนผู้สูงอายุจะฉีดแอสตร้าเซเนก้า
ภาพรวมการดำเนินการวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนทยอยเดินทางมารับการฉีดวัคซีนเรื่อย ๆ และยังไม่พบผู้ที่มีอาการรุนแรง อาจมีอาการเล็กน้อยบ้าง เช่น ปวดบวม ผื่นคันเล็กน้อย แต่กลับบ้านได้ทุกราย ซึ่งวันนี้ได้เตรียมวัคซีนไว้ประมาณ 3,000 โดส
ทั้งนี้ หากตรวจพบคนใดร่างกายไม่พร้อม เช่น มีความดันสูง หรือมีไข้สูง จะไม่ทำการฉีดวัคซีนให้ โดยผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนในวันนี้สามารถลงทะเบียนขอรับการฉีดวัคซีนในภายหลังได้ที่โรงพยาบาลที่ตนเคยมีประวัติเข้ารับการรักษา ส่วนกรณีพบผู้ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าแล้วเกิดผลข้างเคียงนั้น ทางคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติได้ยืนยันเบื้องต้นว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน แต่อย่างไรก็ตามรอทางผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ทราบและแจ้งให้ทราบต่อไป
หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเจ้าหน้าที่จะให้นั่งพักรอดูอาการก่อนเป็นเวลา 30 นาที หากไม่มีอาการใดๆ ก็ให้กลับบ้านได้ และเมื่อกลับบ้านไปแล้วให้สังเกดตนเองเพื่อเฝ้าระวังอาการของแอแนฟิแล็กซิส (Anaphylaxis) ซึ่งเป็นอาการแพ้ในระดับรุนแรงที่สุดและเป็นอันตรายถึงชีวิต อาการที่เกิดขึ้นได้ มีดังนี้ เกิดผื่นแดงตามผิวหนัง ลมพิษ มีอาการคัน ผิวหนังแดงหรือซีด วิงเวียนศีรษะ หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือท้องเสีย ความดันโลหิตลดต่ำลง ลิ้น ปาก
หรือคอบวม หายใจติดขัดและอาจมีเสียงดังหวีด ๆ รู้สึกเหมือนมีสิ่งอุดตัน ในลำคอ กลืนลำบาก แน่นหน้าอก ใจสั่น ชีพจรอ่อน หัวใจเต้นเร็ว ไอ จาม น้ำมูกไหล รู้สึกปวดคล้ายเข็มทิ่มตามมือ เท้า ปาก หรือหนังศีรษะ พูดไม่ชัด ตะกุกตะกัก บางรายที่มีอาการรุนแรงมากอาจเสี่ยงต่อภาวะช็อก ซึ่งสังเกตได้จากอาการหาย ใจลำบาก ไม่มีแรง ชีพจรเต้นถี่และเบา มีอาการสับสน มึนงง หรือหมดสติ
หากมีอาการดังกล่าวให้รีบไปพบแพทย์ โดยผู้ที่รับวัคซีนซิโนแว็กเข็มแรกต้องรับวัคซีนเข็มที่ 2 ภายใน 2-4 สัปดาห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำหนดให้ผู้ที่มารับวัคซีนวันนี้และวันพรุ่งนี้มารับวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 24-25 เม.ย. 64 ส่วนผู้ที่รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรกแล้วจะต้องมารับวัคซีนเข็มที่ 2 ภายใน 10-12 สัปดาห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำหนดให้มารับวัคซีนในวันนี้และวันพรุ่งนี้มารับวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 12-13 มิ.ย. 64