จับตาม็อบราษฎร (24 มิ.ย.64)
วันพุธที่ผ่านมาดัชนีแกว่งตัวผันผวนในระหว่างวัน แต่มีแรงขายในช่วงท้ายตลาดจากปัจจัยความกังวลต่างๆในประเทศ
ได้แก่ ในวันที่ 24 มิ.ย. จะมีการชุมนุมทางการเมือง และกนง.ปรับลดคาดการณ์ GDP นอกจากนี้มีความกังวลเรื่องของเตียง สถานที่รองรับผู้ป่วยโควิด-19 อาจไม่เพียงพอ ปัจจัยเหล่านี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,592.08 จุด -7.15 จุด -0.45% มูลค่าการซื้อขาย 77,735 ลบ.ต่างชาติ -128.00 ลบ. TFEX -4,796 สัญญา ตราสารหนี้ -2,230.74 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ +0.3% ปิด $73.08 ต่อบาร์เรล หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดบ่งชี้การเพิ่มขึ้นของอุปสงค์น้ำมัน
+ บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า เปิดเผยว่า วัคซีนที่บริษัทผลิตมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา (Delta) และสายพันธุ์แคปปา (Kappa) ซึ่งตรวจพบครั้งแรกในอินเดียได้
+ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรป (ECDC) แถลงว่าไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดียมีแนวโน้มกลายเป็นสายพันธุ์หลักในยุโรป
+ PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 59.2 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 180 เดือน จากระดับ 57.1 ในเดือนพ.ค.
+ นายกฯ เชิญภาคเอกชนถกมาตรการช่วยเหลือ SMEs จากวิกฤตโควิด-19
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัว ลดลง 71.34 จุด -0.21% หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา แต่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
- PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 63.9 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 68.7 ในเดือนพ.ค.
- เวิลด์แบงก์ประกาศปรับลดคาดการณ์ GDP มาเลเซียในปีนี้ลงสู่ระดับ 4.5% จากเดิม 6% เนื่องจากคาดว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย
- CDC ระบุว่า มีการรายงานผู้ป่วยจำนวนมากกว่า 1,200 รายที่มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา
- กนง.ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 64 เหลือโต 1.8% จากเดิม 3% ปี 65 โต 3.9% จาก 4.7%
- ม็อบราษฎรนัดยื่นหนังสือรัฐสภาให้พิจารณาร่างแก้ไข รธน.ภาคประชาชน
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมียังแกว่งตัวผันผวน โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด ขณะที่นักลงทันยังกังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ และจับตาการม็อบราษฎรนัดยื่นหนังสือรัฐสภาให้พิจารณาร่างแก้ไข รธน.ภาคประชาชนวันนี้ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,580-1,600 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่เข้าคำนวณ SET50 มีผล 30 มิ.ย. : เข้า STGT, IRPC, STA, KCE ออก AWC, BAM, TOA, VGI , SET 100 : STGT, NRF, PSL, PTL, SYNEX, SINGER, ICHI, TKN, AAV ออก : AWC, BPP, TOA, EPG, GFPT, MBK, TPIPP, TTW, WHAUP
• หุ้นกลุ่ม Reopening MINT ERW CENTEL SHR AOT BA AAV CPN CRC MBK AU M ZEN SPA
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาทองแดงที่ปรับตัวลง KCE HANA DELTA TEAM
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น PTTEP PTT PTTGC IVL
หุ้นรายงานพิเศษ
STC
“Opportunity Day - ผลประกอบการครึ่งปีหลังมีโอกาสฟื้น ”
•ใน 1Q64 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการจำนวน 101.99 ล้านบาท -21.62% YoY ซึ่งมีสาเหตุมาจากการหดตัวของเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดการชะลอตัวของการลงทุนจากทุกภาคส่วน ประกอบกับสภาวะตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นจากการที่อุปสงค์จากผู้บริโภคลดลง อัตรากำไรขั้นต้น 29.5% ใกล้เคียงกับ 29.3% ใน 1Q63 ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น 2.41ลบ. +18.78% YoY เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการขนส่งสินค้า ค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 1.32 ลบ. -9.59% YoY และอัตรากำไรสุทธิ 1.8% ลดจาก 6.5% ใน 1Q63 และ 5.4% ในปี 63
•ปี 64 ผู้บริหารตั้งเป้าเติบโตอยู่ที่ 10% พร้อมทั้งขยายโรงงานนาวังเฟส3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้ครบวงจร บริษัทคาดว่าปีนี้จะทยอยรับรู้รายได้จาก Backlog ดังกล่าวราว 536.2 ลบ. ที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดไป ขณะเดียวกัน บริษัทก็ยังมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น โดยขณะนี้ทางทีมวิศวกรรมได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในงาน landscape ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูง
•ความเห็น : คาดผลประกอบการครึ่งปีหลังมีโอกาสฟื้นขึ้น หลังรัฐบาลเปิดประเทศ ขณะที่โครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ เช่น โครงการ EEC ยังคงมีการดาเนินงานอย่างต่อเนื่อง และส่วนของการขยายรถไฟฟ้าต่าง ๆ ก็ยังคงมีการพัฒนาขยายเส้นทางตามแผน คาดจะช่วยหนุนผลประกอบการทั้งปีสามารถเติบโตได้ โดยปัจจุบันราคาหุ้นที่ปรับขึ้น 24%YTD ซื้อขายที่ P/E 58 เท่า
หุ้นมีข่าว
(+) RBF ( ฺBloomberg Consensus 22.08 บาท) RBF ชี้สัญญาณดี อย. ปลดล็อกโรงสกัดกัญชง คาดไตรมาส 3/64 เห็นข้อสรุปชัดเจน เดินหน้าเจรจารับซื้อผลผลิตเกษตรกรรองรับการผลิต พร้อมศึกษาลงทุนพืชกระท่อม ด้านผลงานไตรมาส 2/64 โตดี เนื้อหอมลูกค้าเรียงคิวป้อนออเดอร์หนุนผลงานปี 2564 โตเข้าเป้า 10-12% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) AAV ( ฺBloomberg Consensus 2.82 บาท) AAV เล็งกลับมาบินในประเทศ 30% ในเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมอัดโปรโมชั่น รับโมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เชื่อว่าความต้องการเดินทางและท่องเที่ยวไม่ได้หายไปไหน มั่นใจการท่องเที่ยวจะกลับมาได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว (ที่มา ทันหุ้น)
(+) PJW (Bloomberg Consensus - บาท) แตกไลน์ธุรกิจ Medical ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องมือทางการแพทย์จากพลาสติกใช้แล้วทิ้ง เตรียมเปิดตลาดไตรมาส 4/64 มั่นใจ 3 ปี ปั้นรายได้เข้าเพิ่ม 1,000 ล้านบาท ขณะที่ 24 มิ.ย.นี้ ขอเสียงโหวตผู้ถือหุ้นออกวอร์แรนต์ PJW-W1 จ้านวน 191.35 ล้านหน่วย หวังเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน รองรับการขยายการลงทุนใหม่ในอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SFT (Bloomberg Consensus 8.00 บาท) เดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ไลน์การผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูประบบกราเวียร์ เพิ่มกำลังการผลิตอีก 25-30 ล้านเมตร รับความต้องการฉลากฟิล์มหดรัดรูปเพื่อใช้สร้างตราสินค้าพุ่ง หลังทิศทางเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว หนุนกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มเพื่อส่งออกไปต่างประเทศเพิ่ม หนุนรายได้ปีนี้โตตามแผน 15-20% (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตา
ในประเทศ
24 มิ.ย. ก.พาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า, ส.อ.ท. แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
สัปดาห์ที่ 5 สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
30 มิ.ย. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ต่างประเทศ
24 มิ.ย. ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค. (GDP) ไตรมาส 1/64
25 มิ.ย. สหรัฐรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค.
27 มิ.ย. จีนรายงานกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.
29 มิ.ย. อียูเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.
สหรัฐรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จาก Conference Board
1 ก.ค. กำหนดประชุมกลุ่มโอเปคพลัสหารือร่วมกับรัสเซียเกี่ยวกับนโยบายการผลิตน้ำมัน