แฉ 'ผกก.โจ้' เจ้าของสำนวนรถหรู 368 คัน อธิบดีศุลกากรแจงเงินค่านำจับสูง 40-55%
กรมศุลกากร เผย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554-2560 "ผู้กำกับโจ้" เป็นเจ้าของสำนวนคดีนำส่งรถ 368 คัน ขายทอดตลาดไปแล้ว 363 คัน ยังขายไม่ออก อีก 5 คัน แจงเงินค่านำจับสูง 40-55%
เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 64 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ว่า จากกระแสข่าวการครอบครองรถหรูของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ ทำให้กรมศุลกากรเข้าตรวจสอบข้อมูล พบว่าตั้งแต่ปี 2554-2560 พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เป็นเจ้าของสำนวนคดีนำจับ 368 คัน ขายทอดตลาดไปแล้ว 363 คัน ยังขายไม่ออก อีก 5 คัน
จากกระแสข่าวที่นำเสอนออกไปว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ครอบครองรถหรูถึง 29 คัน นั้น อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบการครอบครองรถหรูที่ไม่ใช่รถตลาดทั่วไปมี 10 คัน มีเพียง 1 คันที่เป็นรถการประมูล และเสียภาษีปกติ 2 คัน จากทั้งหมด 29 คันตามที่เป็นข่าว
และพบข้อมูลว่าในการของครอบครองของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อีก 13 คัน ซึ่ง 5 คัน นำเข้าผ่านศุลกากรปกติ และอีก 2 คันมาจากการขายทอดตลาด
ระเบียบกรมศุลกากร หากตำรวจจับได้แล้วนำส่ง โดยกระบวนการแล้วจะมีการขายทอดตลาดเงินส่วนหนึ่งจะแบ่งเป็นเงินค่ารางวัลนำจับ ค่าสายข่าว นายพชร ยอมรับว่า เมื่อคดีมีการสิ้นสุดก็จะมีการนำมาประมูลขาย ต้องบอกว่าตามกฎหมายเก่า กฎหมายการประมูลนี้แบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงก่อนปี 2560 ก็จะมีเงินรางวัลปรากฎอยู่ในระเบียบ จริงๆ ไม่ได้ใช้เฉพาะกับรถยนต์แต่ใช้กับทุกประเภทสินค้า
ซึ่งก่อนช่วงปี 2560 สินบน 30% เงินรางวัล 25% ด้วยอัตราที่สูงถึง 55% อาจทำให้เกิดการกระทำอย่างอื่นตามมา ดังนั้นหลังปี 2560 จึงกำหนดอัตรารางวัลที่ 20% สินบน 20% ต่อ 1 คดีไม่เกิน 5 ล้านบาท