บุกจับแก๊งปลอมเป็นตำรวจ 'ผกก.' ขู่โอนเงินตรวจสอบ เหยื่อสูญเงินครึ่งล้าน
ตำรวจไซเบอร์ บุกจับเครือข่ายแก๊งปลอมเป็นตำรวจ ตำแหน่ง ผกก.แหลมฉบัง ขู่ให้โอนเงินไปตรวจสอบ สุดท้ายเหยื่อสูญไปเกือบครึ่งล้าน
กรณีเครือข่ายแก๊ง"ปลอมเป็นตำรวจ" ผกก.แหลมฉบัง ขู่ให้โอนเงินไปตรวจสอบ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม 2566 ได้มีมิจฉาชีพโทรศัพท์หาผู้เสียหาย
โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีตำแหน่งเป็นผู้กำกับการ (ผกก.) สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง จ.ชลบุรี จากนั้นได้กล่าวหาว่า ผู้เสียหายเป็นผู้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำความผิดคดีฟอกเงินและคดียาเสพติด
จากนั้น มิจฉาชีพได้ข่มขู่ว่าผู้เสียหายต้องโอนเงินที่มีอยู่ในบัญชีให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ผู้เสียหายเกิดความกลัว จึงโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของกลุ่มคนร้าย จำนวน 476,821 บาท
หลังจากโอนเงินเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ไม่ได้รับการติดต่อหรือแจ้งผลการดำเนินการใดใดจากมิจฉาชีพอีก และไม่สามารถติดต่อกลับไปยังเบอร์โทรดังกล่าวได้ ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าตนถูกหลอกลวง
จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ผ่าน thaipoliceonline.go.th ซึ่งเป็นระบบแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนกรณีดังกล่าว
โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าว และเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 นำทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พร้อมจนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องได้หลายราย
จากการสืบสวน พบว่ามี 1 ในผู้ต้องหาของขบวนการดังกล่าวซึ่งทำหน้าที่เปิดบัญชีเพื่อนำไปใช้กระทำความผิด ได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ จ.สระบุรี
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5
มอบหมายให้ พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 พ.ต.ท.สุระ วราพร สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.5 และ พ.ต.ท.ชนาธิป ญาณัปปสุต สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.5 พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันจับกุม
เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์จึงนำกำลังเข้าจับกุม นางสาวเรวดีฯ (ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 43 ปี ตามหมายจับของศาลอาญา โดยแจ้งข้อหา
- ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
- แสดงตนบุคคลอื่น
- ร่วมกันฟอกเงิน
โดยควบคุมตัวได้บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่ง ต.ปากเพียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นบัญชีของตนเองจริง ซึ่งเปิดไว้เมื่อนานมาแล้ว จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี