ย้ำ ลงทะเบียน ดิจิทัลวอลเล็ต ผ่านแอปฯ ทางรัฐ - จุดให้บริการ 5,207 แห่งเท่านั้น

ย้ำ ลงทะเบียน ดิจิทัลวอลเล็ต ผ่านแอปฯ ทางรัฐ - จุดให้บริการ 5,207 แห่งเท่านั้น

ย้ำเตือนประชาชน ลงทะเบียนยืนยันตัวตนเข้าร่วมโครงการ "ดิจิทัลวอลเล็ต" ผ่านแอปฯ "ทางรัฐ" และจุดที่รัฐบาลเปิดให้บริการ 5,207 แห่งเท่านั้น อย่าหลงเชื่อโจรออนไลน์หลอกลวงให้ลงทะเบียนผ่านโซเซียล

ความคืบหน้า เงินดิจิทัล 10000 วันนี้ (2 ส.ค. 67) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้เปิดให้ประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567 สำหรับผู้มีสมาร์ทโฟน ผ่านแอปพลิเคชัน ทางรัฐ และจุดให้บริการ Walk in ของหน่วยงานรัฐ จำนวน 5,207 จุด ทั่วประเทศนั้น

 

ซึ่งจากการติดตามตรวจสอบสื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลต่างๆ พบการกระทำต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมออนไลน์ ดังนี้

  • การจัดตั้งกลุ่ม หรือแฟนเพจ Facebook แอบอ้างให้ความรู้ ข้อมูลเรื่องโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต โดยใช้บัญชีแอคเคาท์ที่ไม่เปิดเผยตัวตน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ
  • การแชร์ และเผยแพร่ลิงก์ข่าวที่มีข้อมูลบิดเบือน ข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ
  • การโพสต์ข้อความหลอกลวงให้ช่วยเหลือประชาชนในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ

 
รัฐบาลขอย้ำเตือนประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อรูปแบบการหลอกลวงต่างๆ ที่แอบอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ โดยประชาชนผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่สนใจเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ต้องสมัครยืนยันตัวตน และลงทะเบียนด้วยตนเองในแอปฯ "ทางรัฐ" เท่านั้น ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันทางรัฐ ได้โดยตรงจากแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟนดังนี้

  • App Store สำหรับระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) ดาวน์โหลดได้ที่ (คลิก)
  • Google Play สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ดาวน์โหลดได้ที่ (คลิก)

สำหรับ "ประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน" รัฐบาลได้เปิดจุดให้บริการ (Walk in) สอบถามข้อมูล และให้บริการรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ดังนี้

  1. ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ
  2. ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่ง ทั่วประเทศ (ยกเว้น ไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ)
  3. ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ
  4. ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่งทั่วประเทศ

รวมจำนวนจุดให้บริการทั้งหมด 5,207 แห่งทั่วประเทศ

 

อัปเดตยอดคนลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ทะลุ 20 ล้านคน

วันเดียวกันนี้ (2 ส.ค.) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำหรับการลงทะเบียนรับสิทธิ์ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ตอนนี้มียอดคนลงทะเบียนถึง 20.1 ล้านคนแล้ว (สถานะ วันที่ 2 ส.ค. 67 เวลา 13.00 น.) เป็นเครื่องยืนยันว่าประชาชนมีกระแสตอบรับที่ดีต่อโครงการนี้ ที่รัฐบาลตั้งใจ พยายามทำให้สำเร็จ

กรณีที่มีเป็นกระแสเตือนให้ประชาชนอย่ารีบลงทะเบียนรับสิทธิ์โครงการ Digital Wallet รวมทั้งพาดพิงว่าเป็นการนำข้อมูลลับส่วนบุคคลไปใช้นั้น รัฐบาลขอชี้แจงว่า อยากให้มองมุมกว้าง รัฐบาลตั้งใจดำเนินโครงการนี้นอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ เราต้องการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลและนำทางประเทศไทยไปสู่ง E-Government แอปฯ ทางรัฐ จะเป็นทางลัดที่นำประชาชนให้เข้าถึงบริการของรัฐบาล เป็นการนำทางสู่สังคมดิจิทัล ซึ่งจะมีบริการของภาครัฐนำเสนอประชาชนผ่านแอปฯ นี้อีกมากมาย และยืนยันถึงความปลอดภัยของแอปฯ ทางรัฐ ที่สามารถรองรับผู้เข้าใช้งานจำนวนมาก ไม่ล่ม แม้ในช่วงพีคช่วงชั่วโมงแรก (08.00 - 09.00 น. วันที่ 1 ส.ค. 67) ซึ่งประชาชน 2.3 ล้านคนได้สมัครรับสิทธิ และแอปฯ ทางรัฐ มีระบบยืนยันตัวตนสูงสุดตามกฎหมาย
 
ส่วนกระแสที่มีผู้ด้อยค่าว่า โครงการ Digital Wallet เป็นเพียง "เงินยาไส้" นั้น รัฐบาลไม่ขอให้ความสำคัญต่อคำพูดนี้ เพราะคำว่าเงินยาไส้เป็นการดูถูกประชาชน เงิน Digital Wallet นี้ ไม่ใช่เงินเยียวยา แต่เป็นเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเงินหมื่นสำหรับบางกลุ่มคน เรียกว่าเงินยาไส้ แต่สำหรับประชาชนที่รัฐบาลเข้าถึงและได้สัมผัสให้การช่วยเหลือตลอดมา เงินหมื่นเป็นโอกาสที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของทั้งครอบครัวได้

ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเตรียมการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งเป็นข้อมูลโดยตรงจากรัฐบาลที่เชื่อถือได้ ในเว็บไซต์ www.digitalwallet.go.th หรือ www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านศูนย์บริการข้อมูลโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โทรสายด่วน Digital Wallet 1111 พร้อมให้บริการและคำแนะนำปรึกษาแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง