ทลายโรงงานเถื่อน ลักลอบนำเข้ากากอลูมิเนียมดรอส ต้นตอปล่อยก๊าซอันตราย

ทลายโรงงานเถื่อน ลักลอบนำเข้ากากอลูมิเนียมดรอส ต้นตอปล่อยก๊าซอันตราย

ตำรวจสอบสวนกลาง CIB ร่วมกระทรวงอุตสาหกรรม ทลายโรงงานเถื่อน เครือข่ายนายทุนชาวจีน ลักลอบนำเข้ากากอลูมิเนียมดรอส ต้นตอการปล่อยก๊าซแอมโมเนีย ก๊าซอันตรายร้ายแรง

กรณี"ทลายโรงงานเถื่อน" เครือข่ายนายทุนชาวจีน ลักลอบนำเข้ากากอลูมิเนียมดรอส ต้นตอการปล่อยก๊าซแอมโมเนีย ก๊าซอันตรายร้ายแรง

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม ร่วมกันตรวจค้นโรงงานคัดแยกเศษขี้เตาจากการหลอมหล่อเศษอลูมิเนียมโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 2 จุด และตรวจยึดรถบรรทุกกึ่งพ่วง 22 ล้อ ที่บรรทุกถุงบิ๊กแบ็คบรรจุฝุ่นจากหน้าเตาหลอมอลูมิเนียม-ดรอส จำนวน 18 ถุง น้ำหนัก 21,280 กก.

สืบเนื่องจาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครปฐมกำลังออกตรวจ บนทางหลวงหมายเลข 375 กม.32 ต.ถนนขาด อ.เมือง จ.นครปฐม ได้พบรถบรรทุกกึ่งพ่วง 22 ล้อ บรรทุกถุงบิ๊กแบ็คจำนวนมากผ่านมา

ลักษณะต้องสงสัยว่าจะมีการบรรทุกสิ่งของวัตถุอันตราย จึงได้ให้สัญญาณหยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ จากการตรวจ ผู้ขับขี่ชื่อ นายปรเมศวร์ฯ เมื่อตรวจสอบสิ่งของที่บรรทุกมา พบว่าเป็นสิ่งของลักษณะผงสีเทาคล้ายกากอุตสาหกรรมโรงงาน จึงประสานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐมเพื่อมาตรวจสอบ

เบื้องต้นยืนยันว่า สิ่งของที่บรรทุก คือ ฝุ่นจากหน้าเตาหลอมอลูมิเนียมตรอส สารวัตถุอันตราย 100097HA ซึ่งไม่ปรากฏหลักฐานการขนส่งจากต้นทางและปลายทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงตำรวจจึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินการตามกฎหมาย

เบื้องต้นนายปรเมศวร์ฯ ให้การว่า ตนได้เห็นประกาศในเฟสบุ๊กว่า โรงงาน ไท่เป่า อลูมิเนียม ประกาศรับสมัครคนรับงานขนส่ง ตนสนใจจึงติดต่อไปและได้ตกลงรับงาน โดยทราบว่าสิ่งของที่จะต้องไปบรรทุก คือ อลูมิเนียมก้อน ใส่บิ๊กแบ็ค โดยในวันดังกล่าว

ตนได้ขับรถบรรทุกกึ่งพ่วงไปรับฝุ่นอลูมิเนียมดรอส จากโรงงานแห่งหนนึ่งใน ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม เพื่อไปส่งที่ โรงงาน ไท่เป่า อลูมิเนียม ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐมเรียกตรวจสอบ

ทลายโรงงานเถื่อน ลักลอบนำเข้ากากอลูมิเนียมดรอส ต้นตอปล่อยก๊าซอันตราย

ต่อมา สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครปฐม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. ได้นำกำลังทำการตรวจค้นโรงงานต้นทางของวัตถุอันตราย ที่ตั้งอยู่ที่ ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อไปถึง พบ นายมาโนชย์ฯ เป็นผู้ดูแลโรงงานดังกล่าว และทำการตรวจค้นร่วมกับเจ้าหน้าที่

ผลการตรวจค้น พบว่ามีการประกอบกิจการโรงงานคัดแยกเศษขี้เตาจากหลอมหล่อและหลอมเศษลูมิเนียม โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเข้าข่ายเป็นโรงงานไม่ได้รับอนุญาต และมีฝุ่นผงสีดำบรรจุอยูในถุงบิ๊กแบ็กเป็นจำนวน 8258 ถุง น้ำหนักรวม 12,327 ตัน

โดยหนึ่งในลูกจ้างของโรงงานให้การว่าวัตถุดิบเศษขี้เตาจากการหลอมหล่อดังกล่าว มีกลุ่มนายทุนชาวจีนนำวัตถุดิบมาจากลุ่มโรงงานหลอมหล่อในเขตจ.สมุทรสาคร ที่ตั้งอยู่บริเวณภายในชอยกองพนันพล เฉลี่ยวันละ 2 เที่ยวรถสิบล้อ (ครั้งละประมาณ 10 ตัน) เพื่อมาให้ตนทำการคัดแยกและหลอมเป็นลูมิเนียมเพื่อจำหน่าย

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงอุตสาหกรรม และตำรวจทางหลวงนครปฐม ได้นำหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเข้าตรวจค้น บริษัท ไท่ เป่า อลูมิเนียม จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานปลายทางที่รถบรรทุกกึ่งพวกที่ถูกตำรวจทางหลวงจตรวจยึดจะนำถุงบิ๊กแบ๊คบรรจุกากอุตสาหกรรมไปส่ง ตั้งอยู่ใน ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยผลการตรวจค้น พบว่ามีการประกอบกิจการโรงงานคัดแยกเศษขี้เตาจากหลอมหล่อและหลอมเศษลูมิเนียม โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเข้าข่ายเป็นโรงงานไม่ได้รับอนุญาต และมีฝุ่นผงสีดำบรรจุอยูในถุงบิ๊กแบ๊คเป็นจำนวน 9,676 ถุง น้ำหนักรวม 2,100 ตัน โดยพบว่า บริษัท ไท่ เป่า อลูมิเนียม ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการหลอมอลูมิเนียมจากตะกรัน จึงเข้าข่างเป็นการประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต

ซึ่งจากการตรวจสอบทั้ง 2 โรงงานพบว่ามีการปล่อยมลพิษทั้งทางน้ำและอากาศ ที่เกิดจากการคัดแยกเศษขี้เตาจากหลอมหล่อและหลอมเศษลูมิเนียมดรอส โดยอะลูมิเนียมดรอสเมื่อสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นในอากาศ จะเกิดแก๊สแอมโมเนียซึ่งส่งกลิ่นเหม็น ในพื้นที่ใกล้เคียงโรงงาน นอกจากนี้ยังทำให้เกิดฝุ่นพิษและอาจปะทุเกิดไฟไหม้ขึ้นได้ ปัญหาเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อสุขภาพของคนและสิ่งมีชีวิต รวมทั้งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอันตรายจากการได้รับสารแอมโมเนียการสูดดมก๊าซแอมโมเนียที่มีความเข้มข้นสูง จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการไอ หายใจมีเสียงหวีด หายใจถี่ และแน่นหน้าอก การได้รับสารที่มีความเข้มข้นสูงเป็นเวลานานอาจทำให้ปอดถูกทำลายและการหายใจล้มเหลว และอาจส่งผลเสียร้ายแรงต่อประชาชนในพื้นที่ได้

ผลการปฏิบัติภายใต้อำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.5 บก.ปทส., พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ ทองจำรูญ รอง ผกก.5 บก.ปทส. ร่วมกับ นายวีระศักดิ์ รันทกิจธนวิชญ์ ผู้ตรวจการกระทรวงอุตสาหกรรม เขตตรวจราชการที่ 2, นายสมพร ทองคำ หัวหน้ากลุ่มดรงงานอุตสาหกรรม และ นายทรงเดช ผ่องฉวี เจ้าพนักงานตรวจโรงงานชำนาญงาน, พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ทล. และกก.5 บก.ปทส. ดำเนินการ