สรุปน้ำท่วม 6 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,087 ครัวเรือน เร่งความช่วยเหลือ

สรุปน้ำท่วม 6 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,087 ครัวเรือน เร่งความช่วยเหลือ

ปภ.รายงานมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 6 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,087 ครัวเรือน เร่งระดมสรรพกำลังให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และฟื้นฟูพื้นที่ที่คลี่คลายให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

วันนี้ (23 ก.ย. 67) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีสถานการณ์อุทกภัย (สรุปน้ำท่วม) ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ลำปาง พิษณุโลก หนองคาย นครพนม และพระนครศรีอยุธยา รวม 27 อำเภอ 130 ตำบล 598 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,087 ครัวเรือน ส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่พร้อมดูแลให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม รวมถึงเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายให้กลับคืนสู่สภาพปกติอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลัง

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่าในระหว่างวันที่ 16 ส.ค. – 23 ก.ย. 67 เกิดสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ 33 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย นครพนม บึงกาฬ หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ระยอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง สตูล รวม 175 อำเภอ 766 ตำบล 4,017 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 160,739 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 46 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 24 คน

สรุปน้ำท่วม 6 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,087 ครัวเรือน เร่งความช่วยเหลือ

 

ซึ่งปัจจุบัน ยังคงมี สถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ 6 จังหวัด รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 27 อำเภอ 130 ตำบล 598 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,087 ครัวเรือน รายละเอียด ดังนี้ 

  1. เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย และ อ.เมืองฯ รวม 4 ตำบล 26 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,268 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  2. ลำปาง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.แจ้ห่ม อ.งาว อ.เมืองฯ อ.เกาะคา อ.ห้างฉัตร อ.เมืองปาน และ อ.แม่พริก รวม 11 ตำบล 28 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 92 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  3. พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ และ อ.เมืองฯ รวม 7 ตำบล 15 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 576 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
  4. หนองคาย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ อ.เมืองฯ อ.รัตนวาปี และ อ.โพนพิสัย รวม 33 ตำบล 175 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,199 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  5. นครพนม เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าอุเทน อ.ศรีสงคราม และ อ.เมืองฯ รวม 8 ตำบล 53 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 250 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
  6. พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และ อ.บางไทร รวม 67 ตำบล 301 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,702 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ

  • เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32
  • เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล
  • เครื่องสูบน้ำ
  • รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย
  • รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว
  • รถผลิตน้ำดื่ม
  • รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA
  • รถบรรทุกเล็ก
  • รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว
  • เรือท้องแบน
  • อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ

จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ พื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในภาคอื่นที่ไม่มีสถานการณ์ภัย เข้าร่วมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์ภัย รวมถึงช่วยฟื้นฟูถนนหนทาง อาคารบ้านเรือน ในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รายงานเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง และปักหลักช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ ข่าวสารสาธารณภัย ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ติดตามการประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “Thai Disaster Alert” ทั้งระบบ IOS และ Android และหากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง