ภรรยา-ลูกสาว "หมอบุญ" โร่มอบตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างถูกปลอมลายเซ็น

เมื่อเวลา 13.10 น. วันนี้ (23 พฤศจิกายน 2567) นางจารุวรรณ อายุ 79 ปี ภรรยานายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ "หมอบุญ" พร้อมด้วย นางสาวนลิน อายุ 51 ปี (บุตรสาว) เดินทางมาพร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน กองบัญชาการการตำรวจนครบาล (บช.น.) ตามหมายจับในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยภรรยาและลูกไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

คดีนี้สืบเนื่องมาจาก ตำรวจได้ "ออกหมายจับหมอบุญ" หรือ นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี พร้อมภรรยา บุตรสาว และพวกรวม 9 คน ในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ฟอกเงิน, เช็คเด้ง และปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้กู้เงิน 8 พันล้านบาท ล่าสุดจับกุมได้แล้ว 6 คน โดยล่าสุดพบว่าหมอบุญได้เผ่นหนีไปต่างประเทศตั้งแต่เดือนกันยายน 2567

 

นายชำนาญ ทนายความ ของนางจารุวรรณและนางสาวนลิน ให้สัมภาษณ์ว่า นางจารุวรรณและนางสาวนลินบอกว่า ถูกปลอมลายเซ็น โดยไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนทำ แต่มีการปลอมแล้วนำเอกสารพวกนี้ไปใช้กู้ยืมเงินตามที่ปรากฏเป็นข่าว ไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใคร แต่มาทราบตอนที่มีหมายศาลฟ้องมาเป็นระยะๆ ที่ตัวนางจารุวรรณ เมื่อตรวจสอบแล้วปรากฏว่ากรณีที่มีการกู้ยืมเงินและค้ำประกันต่างๆ เป็นลายเซ็นปลอมทั้งหมด โดยตัวนางจารุวรรณ ไม่เคยไปกู้ยืมเงินแต่อย่างใด รวมถึงไม่ได้เซ็นค้ำประกัน

ในช่วงที่มีการกู้ยืมเงินค้ำประกัน ตามที่ปรากฏเป็นข่าว นางจารุวรรณเองส่วนใหญ่เดินทางอยู่ที่ต่างประเทศ ส่วนใหญ่ในคำฟ้องนั้นจะเซ็นแบบเป็นสำเนา ไม่ใช่ลายเซ็นจริง โดยต้นฉบับอยู่กับฝั่งผู้ให้กู้ และความต่างของลายเซ็นค่อนข้างเยอะ ซึ่งเรื่องการปลอมลายเซ็นนั้น ไม่ใช่จะเพิ่งมาพูด แต่มีการต่อสู้คดีทางแพ่งเรื่องนี้มานานแล้ว รวมถึงมีการแจ้งความไว้ที่ บก.ปอศ. ไว้เมื่อช่วงประมาณเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา

ในทางคดีแพ่งได้ต่อสู้คดีว่าเป็นลายเซ็นปลอม และขอให้ศาลตรวจพิสูจน์ รวมถึงคดีอาญา ศาลมีการนัดพร้อมเพื่อให้นางจารุวรรณไปเซ็นเปรียบเทียบต้นฉบับที่อ้างว่ามีการค้ำประกัน และเซ็นเช็ก โดยให้คู่ความส่งต้นฉบับ และให้นางจารุวรรณเซ็นใหม่ พร้อมกับมีการนำตัวสัญญาในช่วงที่อ้างว่ามีการเซ็นกู้หรือค้ำ อยู่ระหว่างรอศาลนัด

ถ้าถามว่าอาจจะเป็นลายเซ็นหมอบุญหรือไม่ อาจจะเป็นเช่นนั้น เพราะผู้ที่กู้ที่มีชื่ออยู่ในสัญญาก็เป็นหมอบุญ รวมถึงนางจารุวรรณ กับ หมอบุญ ก็ได้มีการจดทะเบียนหย่ากันไปแล้ว และในช่วงที่มีการปลอมแปลงลายเซ็น เป็นช่วงที่หย่าร้างกันไปแล้ว ทั้งนี้นางจารุวรรณจะมีการเอาผิดทั้งหมอบุญและทุกคนที่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องการประกันตัวต้องอยู่ที่ทางพนักงานสอบสวนจะอนุญาตหรือไม่

 

ทั้งนี้จากข้อมูลการสืบสวน เผยว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 หมอบุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือโดยออกสื่อสารธารณะแพร่ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยกล่าวอ้างถึงการลงทุนที่น่าสนใจ 5 โครงการ เกี่ยวกับธุรกิจการแพทย์ ศูนย์ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรงพยาบาลทั้งไทยและต่างประเทศ

โดยกลุ่มผู้ต้องหามีการชักชวนนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์หลายร้อยคนเข้าร่วมลงทุน ในรูปแบบทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้าในชื่อหมอบุญ โดยมี นางจารุวรรณ และนางณวรา บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ค้ำประกันตามสัญญา

โดยในช่วงแรกให้ดอกเบี้ยกับผู้ที่เข้าร่วมลงทุนตามสัญญา แต่ต่อมาไม่ได้ชำระดอกเบี้ยตามกำหนด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ให้ก็ไม่สามารถนำไปขึ้นเงินกับธนาคารได้ จึงเป็นเหตุให้ผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี จนกระทั่งนำไปสู่การออกหมายจับในครั้งนี้