แก๊งหลอกลงทุนหุ้นทองคำ เอากำไรเข้ายั่ว สุดท้ายโดนตุ๋นหมดตัว 14 ล้าน

แก๊งหลอกลงทุนหุ้นทองคำ เอากำไรเข้ายั่ว สุดท้ายโดนตุ๋นหมดตัว 14 ล้าน

เตือนภัย แก๊งหลอกลงทุนหุ้นทองคำ เอากำไรเข้ายั่ว สุดท้ายโดนตุ๋นหมดตัว 14 ล้าน ตำรวจไซเบอร์ตามรวบ

อุทาหรณ์เตือนภัย กรณีแก๊งหลอกลงทุน หุ้น ทองคำ เอากำไรเข้ายั่ว สุดท้ายโดนตุ๋นหมดตัว 14 ล้าน

สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้รู้จักกับผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง หลังจากได้พูดคุยกันสักระยะ ได้เปลี่ยนไปติดต่อกันทางแอปพลิเคชันไลน์ ชื่อบัญชี “สู้เพื่อฝัน”

จากนั้นได้เริ่มชักชวนผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนซื้อขายหุ้นทองคำ โดยอ้างว่าได้กำไรดีเป็นรายวันทุกวัน ตามจำนวนเงินที่ลงทุน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินร่วมลงทุน

โดยครั้งแรก ผู้เสียหายโอนเงินไปจำนวน 35,010 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 35,410 บาท หลังจากนั้นได้มีเงินโอนเข้าบัญชีของผู้เสียหาย จำนวน 68,840 บาท

ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าลงทุนแล้วได้กำไรจริง คนร้ายจึงชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนเพิ่ม ผู้เสียหายจึงโอนเงินเพิ่มอีก จำนวน 70,000 บาท แต่ยังไม่สามารถถอนเงินทุนและกำไรคืนได้ คนร้ายจึงชักชวนให้ลงทุนเพิ่ม

โดยอ้างว่าสามารถทำกำไรได้มากกว่าเดิม ผู้เสียหายหลงเชื่อเพราะอยากได้กำไรเพิ่ม จึงโอนเงินเพิ่มอีก จำนวน 32 ครั้ง ในจำนวนเงินที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมเป็นเงินทั้งหมดจำนวน 14,512,761 บาท แต่เมื่อผู้เสียหายต้องการถอนเงินคืนทั้งหมด คนร้ายกลับแจ้งว่าต้องโอนเงิน

  • ค่าประกัน
  • ค่าธรรมเนียม
  • ค่าเบี้ยปรับ

มาให้ก่อนถึงจะถอนเงินคืนได้ ผู้เสียหาย จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงและได้เข้าแจ้งความในเวลาต่อมา

ต่อมา พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รรท.ผบก.สอท.3 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 ได้สั่งการให้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาพยานหลักฐานเพื่อจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับได้สำเร็จ

กระทั่งวันที่ 2 ธ.ค.67 พ.ต.ท.สมพร บุตรวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 พร้อมชุดสืบสวนได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และวางแผนจับกุม จนกระทั่งสามารถเข้าจับกุมตัว นายทวีชัย อายุ 45 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ตามหมายจับศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ 147/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.67

ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงเป็นคนอื่น,ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย