ปัญหาเรื่อง "ขนรักแร้" สามารถแก้ไขด้วยวิธีไหนได้บ้าง?

ปัญหาเรื่อง "ขนรักแร้" สามารถแก้ไขด้วยวิธีไหนได้บ้าง?

ปัญหา "ขนรักแร้" สร้างความกังวลใจ และไม่มั่นใจให้กับสาวๆ เป็นอย่างมาก หากเลือกการถอนก็ต้องเผชิญกับผิวตุ่มหนังไก่ หากเลือกการโกนผิวก็อาจระคายเคืองและเป็นแผลได้ ฉะนั้น ตัวเลือกไหนดีถึงจะเหมาะสม ต้องมาดู

ปัญหา "ขนรักแร้" ที่มักสร้างความกังวลใจให้กับสาวๆ อยู่บ่อยๆ นั่นก็คือ ใต้วงแขนดูไม่สะอาด แถมยังไม่เรียบเนียน ทำให้ไม่มั่นใจที่จะหยิบเสื้อแขนกุด หรือสายเดี่ยวสวยๆ มาสวมใส่ เกิดคำถามว่า หากอยากกำจัดด้วยโปรแกรมเลเซอร์รักแร้ ต้องทำกี่ครั้ง แล้วในแต่ละครั้งต้องใช้เวลานานหรือไม่ มาดูรายละเอียดไปพร้อมๆ กันเลย

  • โปรแกรมเลเซอร์ขนรักแร้ คืออะไร?

โปรแกรมเลเซอร์ ขนรักแร้ คือวิธีกำจัดขนอย่างถาวรโดยการใช้พลังงานคลื่นแสงที่มีความยาวที่เหมาะสม เพื่อให้พลังงานแสงเข้าไปทำลายรากขนโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถจำกัดขนได้อย่างตรงจุด และช่วยชะลอการเกิดใหม่ของเส้นขนให้ช้าลงอีกด้วย

  • การกัดจัดขนรักแร้ มีวิธีไหนบ้าง?

การกำจัด ขนรักแร้ มีหลายวิธีขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าสะดวกจะกำจัดขนใบรูปแบบไหน ดังนี้

1. การโกนขนรักแร้ : เป็นวิธีที่สามารถทำได้อย่างง่าย สามารถทำเองได้ที่บ้าน แต่วิธีนี้จะสามารถกำจัดขนได้แค่บนชั้นผิวหนังเท่านั้น จึงทำให้เส้นขนกลับขึ้นมาใหม่ได้อย่างรวดเร็วกว่าวิธีอื่นๆ แถมยังทำให้ขนรักแร้ที่ขึ้นใหม่หนาและแข็งมากกว่าเดิมอีกด้วย

2. การแว็กซ์ขนรักแร้ : การแว็กซ์ขนสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท นั่นคือ แว็กซ์ร้อน กับแว็กซ์เย็น ทาลงไปบนผิว จากนั้นรอให้แห้งแล้วทำการกระชากเส้นขนให้หลุดออกไปในครั้งเดียว แต่วิธีนี้อาจทำให้เส้นขนขาดออกจากราก หลุดออกได้ไม่ถึงรากขน จนทำให้เกิดปัญหาขนคุด และผิวหนังไก่ได้ง่ายๆ และในแต่ละครั้งจะรู้สึกเจ็บมาก อาจทำให้ผิวใต้วงแขนเกิดการอักเสบได้
 

3. การเลเซอร์ขนรักแร้ : เป็นการใช้พลังงานแสงจากเครื่องเลเซอร์ ยิงลงไปยังใต้ชั้นผิวหนังเพื่อทำลายเม็ดสีเมลานินบริเวณรากขน ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่สามารถกำจัดได้ถึงรากขน เพื่อทำให้ขนรักแร้หลุดออกได้ง่าย โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาผิวตามมา 

4. การถอนขนรักแร้ : เป็นการใช้แหนบ หรือเครื่องถอนขนแบบไฟฟ้า ทำการถอน ขนให้หลุดออกไปทั้งราก แต่วิธีนี้อาจจะทำให้ผิวใต้วงแขนเกิดปัญหาหนังไก่ และรู้สึกระคายเคืองตามมาได้ 

จากข้างต้นหลายคนคงเริ่มตัดสินใจได้แล้วว่าควรเลือกแบบไหนถึงจะเหมาะกับตนเอง แต่ยังตัดสินใจเลือกต่อไปไม่ถูก ฉะนั้น ควรทำการบ้านเพื่อเตรียมพื้นความรู้เพิ่มเติมให้ดีก่อนตัดสินใจ

  • เครื่องเลเซอร์ขนรักแร้ มีแบบไหนบ้าง?

การใช้เครื่องเลเซอร์เพื่อกำจัดขนจะต้องคำนึงถึงสภาพผิว ความเข้มของสีขน รวมไปถึงปริมานของเส้นขนเป็นสำคัญ เพราะเครื่องเลเซอร์แต่ละตัวจะมีหน้าที่การทำงานที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. Long Pulse ND Yag : เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ได้รับความนิยม เพราะสามารถกำจัดเส้นขนได้กับทุกสภาพสีผิว ทุกประเภทเส้นขน และมีความเจาะจงสูง สามารถทำงานได้อย่างละเอียดแม้จะเป็นขนเส้นเล็กๆ

2. IPL Laser : เป็นเครื่องที่ทำงานคล้ายเลเซอร์ เหมาะกับคนผิวขาว ราคาไม่สูงมาก มักใช้การกำจัดขนในบริเวณแขน ขา มากกว่าบริเวณที่มีความบอบบาง เพราะอาจให้ความรู้สึกเจ็บในขณะที่ทำ

3. Diode Laser : เป็นเครื่องเลเซอร์ที่ใช้พลังงานความร้อนในการเข้าไปทำลายรากขน ดังนั้น หากมีการปรับพลังงานไม่เหมาะสมก็อาจจะทำให้ผิวหนังเกิดการเบิร์นได้ นอกจากนี้ ยังไม่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวสีแทน หรือคนที่มีผิวสีเข้มอีกด้วย

ปัญหาเรื่อง \"ขนรักแร้\" สามารถแก้ไขด้วยวิธีไหนได้บ้าง?

  • ใครบ้างที่เหมาะกับการทำโปรแกรมเลเซอร์ขนรักแร้
  1. ผู้ที่ต้องการกำจัดขนใต้วงแขนแบบถาวร เพื่อการเห็นผลในระยะยาว
  2. ผู้ที่มีผิวใต้วงแขนคล้ำ เป็นหนังไก่ และปัญหาขนคุด
  3. ผู้ที่ต้องการมีผิวใต้วงแขนที่เรียบ 
  4. ผู้ที่ต้องใส่เสื้อโชว์ใต้วงแขนอยู่บ่อยๆ 
  5. ผู้ที่เหงื่อออกง่ายและมีกลิ่นตัว
  • เหตุผลที่ต้องดูแลใต้วงแขนให้ดี
  1. ขาดความมั่นใจเมื่อต้องโชว์ใต้วงแขน 
  2. เกิดกลิ่นเหงื่อและกลิ่นตัวง่าย 
  3. มีปัญหาเหงื่อออกใต้วงแขนเยอะกว่าปกติ
  4. มักพบปัญหาขนคุด และรู้สึกคันบริเวณใต้วงแขน
  5. มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวใต้วงแขนไม่เรียบ
  6. ผิวใต้รักแร้คล้ำจากการเสียดสี
  • ข้อดีของการทำโปรแกรมเลเซอร์ขนรักแร้
  1. สามารถชะลอการเกิดขนใหม่ให้ช้าลง
  2. สามารถทำให้ขนที่ขึ้นใหม่เป็นเส้นอ่อน และบางลง 
  3. สามารถกำจัดได้ถึงรากขน
  4. สามารถทำให้ผิวใต้วงแขนดูเรียบขึ้น
  5. สะดวกสบายไม่ต้องรู้สึกเจ็บเหมือนการถอน หรือการแว็กซ์
  6. สามารถกำจัดขนได้อย่างถาวรหากทำอย่างต่อเนื่อง
  • ข้อเสียของการทำโปรแกรมเลเซอร์ขนรักแร้
  1. เครื่องเลเซอร์บางตัวอาจทำให้ใต้วงแขนระคายเคืองได้
  2. ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง 
  3. ต้องทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3-5 ครั้ง จึงจะได้เห็นผลลัพธ์ตามต้องการ
  4. คนที่เป็นโรคผิวหนังไม่สามารถทำการเลเซอร์ได้
  • โปรแกรมเลเซอร์ Long Pulse Nd Yag ดีอย่างไร?
  1. ช่วยทำให้เส้นขนขึ้นช้าลง
  2. ลดการสะสมของเหงื่อ สิ่งสกปรก และกลิ่นตัว 
  3. ไม่จำเป็นต้องแปะยาชาก่อนทำ เพราะโปรแกรมเลเซอร์ Long Pulse Nd Yag นี้มาพร้อมหัวเป่าลมเย็นขณะทำ 
  4. สามารถกำจัดขนได้ทุกสภาพเส้นขนและทุกสภาพสีผิว
  5. สามารถลดการอักเสบของผิวได้ กรณีมีปัญหาผิวอักเสบจากขนคุด เป็นตุ่มผิวไม่เรียบ 
  6. นอกจากกำจัดขนได้แล้วยังลดการสะสมของเม็ดสีใต้วงแขนอีกด้วย
  • โปรแกรมเลเซอร์ขนรักแร้ อยู่ได้ถาวรไหม?

โปรแกรมเลเซอร์ขนรักแร้ สามารถเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยเส้นขนจะลดลงประมาณ 20-30% ทุกครั้งที่ทำ และเมื่อมีการทำอย่างต่อเนื่อง 2 ครั้งขึ้นไป จะเห็นได้ว่าขนเริ่มหลุดออกไปเยอะมาก หากมีการทำอย่างต่อเนื่องถึง 5 ครั้งขึ้นไป ก็จะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ โดยเส้นขนจะหายไปนานเป็นปีเลยทีเดียว 

  • โปรแกรมเลเซอร์ขนรักแร้ ใช้เวลานานไหม?

ในการทำเลเซอร์แต่ละครั้งจะใช้ระยะเวลาเพียง 5-10 นาที เท่านั้น ขึ้นอยู่กับจำนวน และบริเวณที่ต้องการกำจัดขน (ซึ่งเวลาในการทำเลเซอร์ของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน)

  • ก่อนทำโปรแกรมเลเซอร์รักแร้ ต้องเตรียมตัวอย่างไร?

การทำโปปรแกรมเลเซอร์ขนรักแร้ ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ แต่เพื่อให้การทำเลเซอร์มีประสิทธิภาพควรปฏิบัติ ดังนี้

  1. ไม่โกนขนหรือถอนขนอย่างน้อย 7 วัน ก่อนทำเลเซอร์
  2. ไม่ใช้ครีมกำจัดขนอย่างน้อย 7-14 วัน เพื่อป้องกันไม่ใช้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
  3. ไม่ใช้โรลออนหรือครีมทาบริเวณใต้วงแขน เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพของการทำโปรแกรมเลเซอร์ลดลง
  4. ไม่ขัด ถู ใต้วงขนแรงๆ เพราะทำให้ถลอกเป็นแผล จนไม่สามารถทำโปรแกรมเลเซอร์ได้
  • วิธีการดูแลหลังทำโปรแกรมเลเซอร์ขนรักแร้
  1. ไม่ขัด ถู แรงๆ หลังทำโปรแกรมเลเซอร์มาอย่างน้อย 3 วัน
  2. ไม่ทำกิจกรรมที่มีเหงื่อออกเป็นเวลา 1 วัน
  3. สามารถใช้กรรไกรเล็มขนที่เกิดขึ้นมาใหม่ได้ แต่ให้งดการถอน และการแว็กซ์ขน
  4. ไม่สครับใต้วงแขนอย่างน้อย 7 วัน
  5. สามารถทาครีมรักแร้ หรือโรลออนได้หลังการทำเลเซอร์ไปแล้ว 1-2 วัน
  • สรุป โปรแกรมเลเซอร์ขนรักแร้ให้ได้ผล ควรเลือกรุ่นไหนดี?

โปรแกรมเลเซอร์ ขนรักแร้ แนะนำเป็นโปรแกรมเลเซอร์พลังงาน Long Pulse Nd Yag ซึ่งนอกจากจะมีประสิทธิภาพในการกำจัดขนแล้ว ยังช่วยเรื่องผิวใต้วงแขนที่หมองคล้ำอีกด้วย 

ขอบคุณบทความจาก กังนัมคลินิก สามารถติดตามและสอบถามข้อสงสัยเพิ่มเติมได้ที่ Line @gangnamclinic หรือ Facebook : GangnamClinic