"สติธร" ชี้ "เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม." แข่งดุ ภาคปชช. ร่วมจับตา การทำผิด เรื่องดี
“สติธร” ชี้ เลือกตั้ง "ผู้ว่าฯกทม.-ส.ก."
แข่งขันสูง ปูทาง สนามใหญ่ หวั่น พฤติกรรมผิดกฎหมายเพียบ ระบุ สื่อ-ภาคปชช. เฝ้าระวังการนับคะแนน ช่วยสอดส่องตรวจสอบ เป็นเรื่องดี
นายสติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยถึงการติดตามการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และ ส.ก.ห่างหายไปนานเกือบ 10 ปีประกอบกับเป็นห้วงที่ใกล้จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในอีกไม่ถึงปี ส่งผลให้การเลือกตั้งในสนามกทม.ครั้งนี้มีการแข่งขันค่อนข้างสูง และอาจก่อให้เกิดพฤติกรรมการกระทำผิดกฎหมายเพื่อชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งมากกว่าปกติ
ตั้งแต่การไปให้ประโยชน์กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าจะในรูปแบบการซื้อเสียงหรือสัญญาว่าจะให้ รวมถึงการกระทำต่อคู่แข่ง เช่น การใส่ร้ายป้ายสีตลอดจนต้องติดตามด้วยว่า การดำเนินการจัดการเลือกตั้งมีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือไม่ ทั้งการจัดการเลือกตั้งที่สะดวกพอหรือไม่ และการนับคะแนน วินิจฉัยบัตรเสียถูกต้องหรือไม่ บวกคะแนนที่นับเป็นตามจริงหรือไม่
นายสติธร กล่าวว่า สิ่งที่ว่ามาเหล่านี้ผู้สมัครเองต้องปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง โดยการตั้งผู้เฝ้าระวังถ้ามีเบาะแสต้องแจ้งช่องทางที่เป็นทางการ ประชาชนเองก็ต้องเฝ้าระวังให้การนับคะแนนเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ เพื่อรักษาสิทธิของตัวเอง
นายสติธร กล่าวว่า เท่าที่ติดตามเห็นว่ามีสื่อมวลชนหลายสำนักที่ร่วมมือกันเป็นเครือข่ายในการรายงานผลการเลือกตั้ง โดยเชิญชวนประชาชนเป็นอาสาสมัคร ถือเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ดี และทำให้ผู้ที่คิดจะทำอะไรไม่ถูกต้องอาจจะไม่กล้าทำ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ การมีส่วนร่วมของประชาชน หากประชาชนแข็งขัน ใครที่คิดเล่นไม่ถูกกติกาจะต้องระวังเพราะรู้ว่าประชาชนมีส่วนร่วมกับการตรวจสอบ
นายสติธร กล่าวว่า สุดท้ายเมื่อประชาชนแสดงพลังออกมาแล้ว การบังคับใช้กฎหมายที่เคร่งครัดต้องควบคู่กันไปทั้งสองส่วนนี้จะป้องปรามการทุจริตเลือกตั้งครั้งนี้ได้