“วิโรจน์” โชว์วิชั่นแก้ปัญหาน้ำท่วม ซัด “อดีตบิ๊ก กทม.” ตัดงบทิ้งเหี้ยน
“วิโรจน์” โชว์วิชั่นแก้ปัญหา “น้ำท่วม” กทม. เปลี่ยนงบ “อุโมงค์ยักษ์” เป็นขยายท่อระบายน้ำ ซัด “อดีตผู้บริหาร กทม.” จัดงบประมาณแย่จนทำให้น้ำท่วม ทำอัมพาตทั่วกรุงฯ
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2565 ทีมสื่อสาร พรรคก้าวไกล เผยแพร่ความเห็นของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล ถึงกรณีฝนตกหนักเมื่อวานนี้ (17 พ.ค. 2565) ส่งผลให้น้ำท่วมหลายพื้นที่ทั่ว กทม. ว่า เมื่อวานฝนตกหนัก แต่ระบบระบายน้ำกลับเป็นอัมพาต การบริหารของผู้ว่าฯ กทม. ที่ผ่านมาปล่อยให้ระบบการระบายน้ำของกรุงเทพขาดการดูแลแบบนี้ได้อย่างไร
นายวิโรจน์ ระบุว่า หัวใจของการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพอยู่ที่การจัดสรรงบประมาณ แต่ถ้าเราไปดูตัวเลขงบประมาณ งบที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมกลับถูกตัดเหี้ยน
- งบซ่อม/สร้างสถานี-ประตู-บ่อสูบน้ำ โดนตัดไป 5,170 ล้านบาท เหลือ 136 ล้านบาท
- งบข้อมูลพยากรณ์อากาศและน้ำท่วม โดนตัดไป 295 ล้านบาท เหลือ 68 ล้านบาท
- งบสร้างแก้มลิง โดนตัดไป 1,463 ล้านบาท เหลือ 96 ล้านบาท
- งบเครื่องสูบน้ำและรถเคลื่อนที่เร็ว โดนตัดไป 1,005 ล้านบาท เหลือ 0 บาท (ย้ำว่าศูนย์บาท)
ยังไม่รวมงบโครงการพื้นฐานในการลอกท่อลอกคลองที่โดนตัดไป 7,144 ล้านบาท เหลือ 521 ล้านบาท ในขณะที่งบสร้างอุโมงค์ยักษ์ 2,000 ล้านบาทที่ไม่ทีการเบิกจ่ายเลยกลับไม่โดนตัดซักบาท
นายวิโรจน์ ระบุอีกว่า ข้อมูลจากRocket Media Lab บอกว่าการลอกท่อช่วงเดือนธันวาคม 2563 ถึง พฤษภาคม 2564 ทำได้เพียง 7.51% จากความยาวท่อทั้งหมดในกรุงเทพ แล้วจะไม่ให้น้ำท่วมขังได้ยังไง ผู้ว่าฯ กทม.ต้องจัดสรรงบใหม่และเร่งรัดการลอกท่อลอกคลองทั่วกรุงเทพก่อนฤดูฝนให้ได้
นายวิโรจน์ ระบุด้วยว่า ลอกท่อทั่วเมือง ลอกคลองทั่วกรุง จบปัญหาน้ำรอระบาย ปัญหาน้ำท่วมแก้ได้ ไม่ต้องใช้เมกะโปรเจค เพียงแค่ดูแลระบบระบายน้ำทั่วกรุงเทพให้ใช้งานได้จริง ตลอดเวลาที่ผ่านมา กรุงเทพ จัดสรรงบประมาณในสัดส่วนที่ไม่เอื้อต่อการจัดการปัญหาน้ำท่วมเท่าใดนัก โดยงบขุดลอกคูคลอง บำรุงรักษาสถานีสูบน้ำ ที่จะสามารถช่วยบรรเทาน้ำท่วมได้ในวันนี้กลับได้รับงบน้อยจนไม่เพียงพอสำหรับการดำเนินงาน ส่วนอุโมงค์ยักษ์ที่ยังไม่สามารถใช้การได้ในเร็ววันนี้กลับได้รับจัดสรรงบประมาณเป็นจำนวนมาก
ในส่วนการขุดลอกคูคลองที่หากทำได้ดีก็จะสามารถช่วยระบายน้ำได้มากก็มีปัญหาการทุจริต เนื่องจากกรุงเทพ ประเคนงานให้กับเอกชนเพียงไม่กี่ราย เมื่อมีผู้รับเหมาน้อยรายสุดท้ายก็ไม่สามารถขุดลอกคูคลองได้ทัน มากไปกว่านั้นเอกชนที่มาประมูลงานจำนวนมากก็ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะดำเนินงานให้แล้วเสร็จด้วยตนเอง แต่เข้ามาประมูลงานเพื่อฟันหัวคิว แล้วไปจ้างช่วงให้บริษัทอื่นมาทำงานต่ออีกที
“กรุงเทพ จึงจำเป็นต้องเริ่มการประมูลหาผู้รับเหมาอย่างเป็นธรรม หยุดประเคนงานให้กับผู้รับเหมาเพียงไม่กี่ราย รวมทั้งออกกฎระเบียบห้ามจ้างช่วง หากเอกชนรายใดไม่มีศักยภาพที่จะทำให้งานสำเร็จลุล่วง ก็ห้ามประมูลงานเพื่อไปจ้างช่วงฟันหัวคิว” นายวิโรจน์ ระบุ
นายวิโรจน์ ระบุทิ้งท้ายว่า ทั้งหมดนี้หากผู้ว่ากรุงเทพมหานครชื่อวิโรจน์ สิ่งที่เราจะทำคือ
- เปลี่ยนงบอุโมงค์ยักษ์ 2,000 ล้านบาท เป็นขยายท่อระบายน้ำ ขุดลอกท่อและคูคลอง เพื่อให้ “น้ำรอการระบาย” ระบายได้เร็วขึ้น เมื่อฝนตกน้ำไม่ท่วม
- แยกระบบท่อน้ำฝน-ท่อน้ำเสีย เพื่อให้สามารถบำบัดน้ำเสียมีประสิทธิภาพ
- ตั้งศูนย์รวมการจัดการน้ำไว้ที่เดียว (Single Command) เพื่อให้ข้อมูลทันสถานการณ์ การตัดสินใจทำได้รวดเร็ว
- หน่วยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมลอกท่อเมื่อฝนตกระดับวิกฤต
- ปรับปรุงสถานีสูบน้ำ โดยเพิ่มระบบสำรองไฟสถานีสูบน้ำที่ต้องใช้ automatic transfer เปลี่ยนเฟสไฟ และใช้ระบบ iot ควบคุมเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติ ไม่ต้องรอไขกุญแจ