"มาดามเดียร์" เปิดใจลาออกสุดทน "เกมการเมือง" ลั่นลุยการเมืองต่อแน่นอน
"มาดามเดียร์" ยื่นหนังสือประธานสภาไขก๊อกส.ส. พร้อมเปิดใจลาออกสุดทน "เกมการเมือง"ทำสภาล่ม-ไม่เห็นหัวประชาชน สวน "ชัยวุฒิ" รู้อยู่แก่ใจ ยอมรับหลายพรรคทาบทาม ลั่นลุยการเมืองต่อแน่นอน
ที่รัฐสภา น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แถลงภายหลังการยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นส.ส.ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาว่า วันนี้เดินทางมาที่รัฐสภา เพื่อยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ถือว่าวันนี้เป็นการยุติบทบาทในฐานะส.ส.อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ตลอดการทำงาน 3 ปี ที่ผ่านมา ต้องขอบคุณทุกคนที่สนับสนุน ประการณ์ 3 ปี ในฐานะส.ส. เป็นประสบการณ์สำคัญที่จะนำไปใช้พัฒนาตัวเองในอนาคต ซึ่งประธานสภาฯ อวยพรให้โชคดีในอนาคตข้างหน้า
สิ่งหนึ่งคือท่านบอกว่าอย่าเพิ่งหมดหวังกับสภา เพราะสภายังเป็นที่พึ่งพิงได้เสมอ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สภา แต่อยู่ที่พฤติกรรมบุคคล ตนจะขอน้อมรับคำสอนไปใช้ในการทำงานต่อไป
พร้อมยืนยันว่า การลาออกครั้งนี้ มาจากความรู้สึก ข้อความที่ตนได้โพสต์ทั้งหมดมาจากใจ ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จนเป็นส.ส. กระทั่งตัดสินใจลาออกเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ระบุว่าการลาออกของตนไม่เกี่ยวกับกรณีสภาล่ม น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตนเคารพในความแตกต่างของบุคคล แต่ขอยืนยันว่า การที่นายชัยวุฒิ พูดแบบนี้จะนำนิสัยที่คุ้นชินของตัวเองมาตัดสินบุคคลอื่นอาจจะไม่ถูกต้อง
"การที่สภาล่มซ้ำซาก เพราะการเล่นเกมการเมือง ตนคิดว่าส.ส.ในสภาก็รับรู้ สื่อก็รับทราบ ที่สำคัญที่สุดประชาชนต่างรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสภา ว่านักการเมืองเล่นเกมการเมือง"
ดังนั้น การที่นายชัยวุฒิออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะดังกล่าว หมายความว่าชัยวุฒิ สามารถยอมรับเกมการเมืองที่ไม่สนใจประโยชน์ประชาใช่หรือไม่ ตนไม่รู้บรรทัดฐานการทำงานของท่าน แต่ตนมั่นใจว่าตนมีมาตรฐานสูงกว่านั้น
“การเล่นเกมการเมืองโดยไม่สนใจประชาชน เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ ตนไม่อยากให้การไม่พอใจสิ่งใด แล้วเลือกที่จะไม่เข้าร่วมประชุม การไปถึงจุดหมายด้วยกติกาที่ผิดๆจะเป็นบรรทัดฐานใหม่ในสังคม จึงตัดสินใจลาออก เพื่อที่อย่างน้อยการลาออกครั้งนี้จะเป็นเครื่องบ่งชี้ไปถึงประชาชน และผู้ใหญ่ที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ” น.ส.วทันยา กล่าว
เมื่อถามว่า เหตุที่องค์ประชุมล่มเพราะมีการสั่งการมา ได้คุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตนไม่เคยได้รับโทรศัพท์หรือคำสั่งการอะไรจากพล.อ.ประวิตร หรือผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ ส่วนส.ส.ท่านอื่น ตนไม่อาจยืนยันได้ แต่ไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตนแน่นอน
เมื่อถามว่า อนาคตทางการเมืองหลังจากนี้จะไปอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์เลยหรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ต้องขอบคุณนายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้การต้อนรับด้วยการทาบทามผ่านเฟซบุ๊ค ซึ่งไม่ใช่แค่นายพนิต แต่มีผู้ใหญ่หลายท่านโทรศัพท์มาหาตน รวมถึงติดต่อผ่านคนอื่นๆเข้ามา ตนต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ชักชวน และเห็นคุณค่าของตน แต่เนื่องจากการตัดสินใจลาออกครั้งนี้เกิดขึ้นกะทันหัน จึงขอใช้เวลาไตร่ตรอง และทำภารกิจส่วนตัวก่อน แต่ยืนยันว่า จะขอเดินต่อในเส้นทางการเมืองแน่นอน
“เมื่อถึงจุดที่ตัวเองก้าวเข้ามาแล้ว ก็นับว่าเป็นโอกาสดีที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ และเมื่อเข้ามาสัมผัสงานการเมืองโดยตรงก็เห็นอุปสรรค และโอกาส ในการช่วยพัฒนาประเทศได้ การที่เราผิดหวังกับอะไรบางอย่าง เหนื่อยหรือเบื่อกับอะไรบางอย่าง ก็ไม่อยากให้ความเบื่อหน่ายนั้น เป็นเหตุผลให้ละทิ้งงานการเมืองไปกลางคัน แต่จะเดินหน้าต่อไปในสิ่งที่ตัวเองตั้งปณิธานไว้ให้สำเร็จ
แต่คงยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะกลับมาเล่นการเมืองเมื่อไหร่ และยังไม่ได้คิดเรื่องพรรคใหม่ เพราะวัฒนธรรมของแต่พรรคเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจ จึงอยากดูให้เหมาะมากที่สุด เพราะถ้าย้ายบ้านก็ไม่ได้อยากย้ายบ่อยๆ” น.ส.วทันยา กล่าว
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตรหรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตนเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วานนี้ (16 ส.ค.) ช่วงเช้าที่ป่ารอยต่อ ซึ่งได้เรียนท่านว่าตัดสินใจขอลาออกจากส.ส. และสมาชิกพลังประชารัฐ ซึ่งท่านอวยพรขอให้โชคดี เชื่อว่าท่านทราบดีว่าเมื่อตนตัดสินใจสิ่งใดแล้ว ก็มีความชัดเจนในจุดยืน
เมื่อถามว่า นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ได้เชิญชวนเข้าร่วมทำงานกับพรรคด้วยหรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า มีการพูดคุยกับท่านมาโดยตลอด ไม่ใช่ว่าตนเพิ่งลาออกแล้วคุย โดยได้มีการแลกเปลี่ยนกัน ทำให้หลายครั้งเห็นว่า ท่านตั้งพรรคใหม่ เพราะมีความปรารถนาดีกับประเทศ
น.ส.วทันยา กล่าวถึงการใช้สูตรคำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 500 และหาร 100 ว่า ในแง่ของหลักเหตุผล มองว่าหากสภาจะมีมติให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ควรจะเป็นสูตรหาร 100 เพื่อให้เป็นไปตามสัดส่วนที่ควรจะเป็น แต่แนวทางของตนมองว่าควรจะไปสู้กันในสภา
โดยก่อนที่สภาจะล่ม มีการให้โหวตร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่ …) พ.ศ. … มาตรา 24/1 ตนก็ชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยกับสูตรหาร 500 ทั้งนี้ การตัดสินใจลาออกไม่ได้เกี่ยวกับดราม่าใดๆของพรรค เพราะหากตัดสินใจเพราะกระแสดราม่าในพรรค ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐก็ขึ้นหน้า 1 มาตลอด
เมื่อถามถึงอดีตส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ ได้มีการติดต่อพูดคุยกันบ้างหรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า “ไม่ เพราะตอนที่เดียร์ตัดสินใจ เราก็ตัดสินใจโดยไม่ได้คุยกับเพื่อนหรือถามเพื่อนก่อน ซึ่งอะไรที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องกะทันหัน”