“เมืองคอนโมเดล” ฟื้น “พปชร.” ปลุกกระแสใต้ แลกความไว้วางใจ
ต้องจับตา "พลังประชารัฐ" จะเตรียมตัวปรับทัพกันอย่างไรในพื้นที่ด้ามขวาน ที่ยังมีความได้เปรียบอยู่บ้างในเรื่องความนิยมในตัว "พล.อ.ประยุทธ์"
สถานการณ์ทางการเมืองตอนนี้ เรียกว่าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งแล้วก็ไม่ผิด เมื่อหลายพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และบรรดาพรรคใหม่ ต่างขยับเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ปล่อยแคมเปญซื้อใจประชาชนกันตั้งแต่ไก่โห่
สังเวียนการแข่งขันที่ส่อแววเดือดที่สุดสนามหนึ่งคือสนามภาคใต้ ที่เป็นเป้าหมายหลักของ 3 พรรคร่วมรัฐบาล ได้แก่ พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย ที่ต่างมีฐานเป็นของตัวเองกระจายกันไป
เมื่อดูขุมกำลังเวลานี้ ความพร้อมของพลังประชารัฐ ดูท่าจะตามหลังคู่ต่อสู้อยู่หลายก้าว โดยเฉพาะจังหวัดในโซนอันดามัน ที่กำลังถูกท้าทายอย่างหนักจากภูมิใจไทย ส.ส.พลังประชารัฐ ในจังหวัดหนึ่ง เรียกว่าแทบไม่โผล่ในพื้นที่เลย แต่กลับเลือกลงพื้นที่จังหวัดอื่นร่วมกับกรรมาธิการชุดที่ตัวเองทำหน้าที่มากกว่าลงพื้นที่เขตตัวเอง เนื่องจากต้องการประหยัดทรัพยากร
ขณะที่พื้นที่ใกล้เคียงกัน เช่นที่นครศรีธรรมราช “รงค์ บุญสวยขวัญ” ส.ส.เขต1 นครศรีธรรมราช พลังประชารัฐ ที่เกาะติดชาวบ้าน มีวิธีทำการเมืองในแบบของตัวเอง และด้วยความเป็นนักวิชาการ จึงรู้วิธีเก็บข้อมูลเพื่อเช็กกระแสของตัวเองเพื่อปรับแก้ในบางจุดอยู่เสมอ
ถึงขนาดว่าโพลของพรรคคู่แข่งบางพรรคยังปรากฎชื่อ “ส.ส.รงค์” เป็นตัวเต็งอยู่ตลอด จนอาจจะเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีโอกาสรักษาพื้นที่ได้อีกสมัย ตรงนี้เองที่เป็นปัจจัยหนึ่งหรือไม่ที่ทำให้แกนนำพลังประชารัฐระดับรัฐมนตรีคนหนึ่ง สนับสนุน ส.ส.คนนี้ให้เป็นรัฐมนตรีในโควตาภาคใต้ของพรรค
ปฏิเสธไม่ได้ว่า พื้นที่ของ รงค์ นั้น ชาวบ้านยังมีความนิยมชมชอบ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ค่อนข้างสูง หนึ่งในผลงานสำคัญที่ทำให้คนเมืองคอนจำชื่อผู้แทนฯ และนายกฯ ได้แม่นคือการได้ถนนพุทธภูมิ ที่ถูกผลักดันจนสำเร็จ ทำให้ รงค์ ถูกเรียกขานจากบางคนว่านขต.หรือหน่วยขึ้นตรงลุงตู่
มีเรื่องเล่าในพื้นที่อีกว่า รงค์ เคยถูกชาวบ้านกำชับนักกำชับหนาว่า อย่าทิ้งพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เช่นนั้น ตัวของ “รงค์” จะถูกชาวบ้านทิ้งเช่นเดียวกัน
น่าสนใจว่าในช่วงนับถอยหลังเข้าสู่การเลือกตั้ง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ตอนนี้ยังไม่ได้ขยับอะไรชัดเจนในพื้นที่ภาคใต้ ที่บางจังหวัดยังไม่มีตัวผู้สมัคร ส.ส.ด้วยซ้ำ
ดังนั้น สิ่งที่ต้องจับตาพลังประชารัฐ จะเตรียมตัวปรับทัพกันอย่างไรในพื้นที่ด้ามขวาน ที่ยังมีความได้เปรียบอยู่บ้างในเรื่องความนิยมในตัวพล.อ.ประยุทธ์ คงต้องวัดฝีมือคีย์แมนของพรรคจะงัดกลยุทธ์ใด หรือใช้เมืองคอนโมเดล ด้วยการชูตัวบุคคลพร้อมปั๊มผลงานลงสู่พื้นที่ แลกกับความไว้วางใจในสมัยหน้า