4 รองผู้ว่าฯ กทม.โชว์ผลงาน 99 วัน ลอกท่อแล้ว 3.3 พัน กม.-เปิดทางน้ำไหล 32 แห่ง
เอาฤกษ์ 9 เดือน 9 รองผู้ว่าฯ กทม. 4 รายจัดแถลงผลงาน 99 วันตามนโยบาย “ชัชชาติ” เผยลอกท่อระบายน้ำแล้วกว่า 3.3 พันกิโลฯ-เปิดทางน้ำไหลคลอง 32 แห่ง เปิดจุดขายหาบเร่แผงลอยนำร่อง 55 จุด เปิด 3 เป้าหมายอีก 99 วันข้างหน้า 3 “ดี”
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2565 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผู้ว่าฯ กทม.) 4 ราย ได้แก่ นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพล ผศ.ทวิดา กมลเวชช และนายศานนท์ หวังสร้างบุญ พร้อมด้วยนายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษก กทม. ร่วมกันแถลงถึงผลการดำเนินงานครบ 99 วัน ตามนโยบายของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.
- ลอกท่อแล้วกว่า 3.3 พันกิโลฯ-เปิดทางน้ำไหลคลอง 32 แห่ง
โดย รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพล กล่าวถึงผลการดำเนินงาน 99 วัน ตอนหนึ่งถึงสถานการณ์ฝนตกหนัก และน้ำท่วมในพื้นที่หลายจุดของ กทม. ว่า ปัจจุบัน กทม.มีการบริหารจัดการน้ำท่วมโดยสั่งปรับปรุงสถานีสูบน้ำ บ่อสูบน้ำ ปั๊มน้ำหลายจุด มีการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำไปแล้วกว่า 3,358 กิโลเมตร มีการขุดลอกคลอง เปิดทางน้ำไหลคลอง 32 แห่ง รวมระยะทางกว่า 1,665 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา จัดเรียงกระสอบทรายแนวฟันหลอ เป็นสิ่งก่อสร้างแบบถาวรไปแล้ว 1.5 กิโลเมตร จากทั้งหมด 3.12 กิโลเมตร โดยอยู่ระหว่างขอความร่วมมืออีก 1.41 กิโลเมตร นอกจากนี้ กทม.ยังจัดรถบริการรับส่งประชาชน ในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ กทม. จำนวน 8 เขต และพื้นที่กลุ่มเขตกรุงธนใต้ จำนวน 6 เขต
รศ.วิศณุ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการจราจรว่า กทม.มีการปรับปรุงทางม้าลายไปแล้ว 1,286 จุด จาก 2,788 จุด และมีการขอคืนพื้นผิวจราจรจากโครงการก่อสร้างแล้วจำนวน 2 จาก 14 โครงการ โดยปี 2565 มีเพิ่มอีก 5 โครงการ และปี 2566 มีเพิ่ม 7 โครงการ ขณะเดียวกันมีการแก้ไขจุดเสี่ยงอุบัติเหตุจาก 100 จุด ดำเนินการแล้ว 2 จุด เตรียมการปรับปรุง 54 จุด และวิเคราะห์เพิ่มอีก 44 จุดภายในปี 2565
รศ.วิศณุ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการนำสายสื่อสารลงดินไปแล้ว 62 กิโลเมตร ปี 2565 คาดว่าจะเสร็จอีก 74 กิโลเมตร และภายในปี 2568 จะแล้วเสร็จ 174 กิโลเมตร ส่วนการจัดระเบียบสายสื่อสารนั้นปัจจุบันทำแล้วเสร็จ 79.62 กิโลเมตร จากจำนวน 1,000 กิโลเมตร
- เปิดจุดขายหาบเร่แผงลอยนำร่อง 55 จุด
ส่วนนายจักกพันธุ์ ผิวงาม กล่าวถึงการร่วมมือทุกมิติเพื่อทำให้ กทม.เป็นเมืองน่าอยู่ โดยกำหนดจุดหาบเร่แผงลอย มีการหาพื้นที่ให้แก่ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย (Hawker Center) เป็นสถานที่ราชการ ที่เอกชน ตลาด รวม 125 แห่ง รองรับผู้ค้าได้ 8,300 ราย การจัดทำฐานข้อมูลและการลงทะเบียนผู้ค้า พบว่า มีหาบเร่แผงลอยขายบนทางเท้า รวม 198 แห่ง รองรับผู้ค้าได้ 27,627 ราย อย่างไรก็ตามจะปรับปรุงหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการค้าขายให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน รวมถึงปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยให้เหมาะสม ประกอบด้วยทุกภาคส่วน เน้นการกระจายอำนานจ เพื่อบริหารจัดการคล่องตัวยิ่งขึ้น
นายจักกพันธ์ กล่าวอีกว่า จุดทำการค้าหาบเร่แผงลอยใน กทม. มีพื้นที่ทำการค้า 95 จุด จากผู้ค้า 6,048 ราย ประกาศเป็นพื้นที่ทำการค้าแล้ว 55 จุด ผู้ค้า 3,817 ราย อยู่ระหว่างประกาศ 31 จุด ผู้ค้า 1,602 ราย เสนอขอทบทวนเจ้าพนักงานจราจร 9 จุด ผู้ค้า 629 ราย โดยมีพื้นที่ทำการค้าแล้วเสร็จ เช่น สะพานหัวช้าง เขตราชเทวี ซอยรางน้ำ เขตราชเทวี บริเวณซอยอารีย์ เขตพญาไท เป็นต้น
นายจักกพันธ์ กล่าวด้วยว่า เป้าประสงค์ในการยกระดับผู้ค้าหาบเร่แผงลอย เพื่อให้คุณภาพสินค้า และการบริการได้มาตรฐาน รักษ์สิ่งแวดล้อม การควบคุมดูแลอย่างเป็นระบบ ให้มีส่วนร่วมในทุกภาคส่วน ประชาชนได้รับการดูแล มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อให้ กทม.เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุด และเป็นเมืองที่เหมาะกับการทำงาน และพักผ่อนที่สุดในโลก
- เปิด 3 เป้าหมายอีก 99 วันข้างหน้า 3 “ดี”
ทั้งนี้ทีมรองผู้ว่าฯ กทม. ระบุถึงเป้าหมายอีก 99 วันถัดจากนี้ว่า มี 3 เป้าหมายคือ
- ปลอดภัยดี โดยจะบริหารจัดการความปลอดภัยด้วยระบบข้อมูลชุมชน (ทรัพยากรและอาสาสมัคร) บูรณาการ BKK RISK MAP และให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้
- สุขภาพดี โดยจะจัด PRIDE CLINIC (16 ศบส.) เตียงพักรอใน ศบส. 6 โซนเขต เชื่อมต่อและขยายบริการศูนย์บริการคนพิการแบบเบ็ดเสร็จ เพิ่มและเชื่อมต่อ SAND BOX ปฐมภูมิ (โซนเหนือ)
- บริหารจัดการดี โดยจะบริหารจัดการ 216 เป้าหมายด้วย BKK DIGITAL PLAN มี SAND BOX สำนักงานเขต มิติโครงสร้างงาน และอัตรากำลังด้านคุณภาพชีวิต รวมถึงระบบประเมินผงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์