"สภาทนายความ"ช่วย 4 คดี เร่งลงพื้นที่ จ.นครปฐม พร้อมช่วยฟ้องโรงงานเคมีรั่ว
สภาทนายความ ตั้งคณะทำงาน พร้อมลงพื้นที่ จ.นครปฐม พรุ่งนี้ ให้ความรู้ประชาชนด้านกฎหมาย และพร้อมรับเรื่องฟ้องโรงงานเคมีรั่ว และช่วยเหลือด้านคดีประชาชนอีก 3 กรณี
23 ก.ย.65 นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ คนใหม่ พร้อมด้วยนายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย นายสัญญา ภัชระสามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ นายไพบูลย์ แย้มเอม อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ และนายจตุพล ด้วงทอง ประธานสภาทนายความจังหวัดวิเชียรบุรี ร่วมกันแถลงข่าวการช่วยเหลือประชาชนทางด้านกฎหมาย 4 เรื่อง ดังนี้
1.นางพิมพา วรรณคำ อายุ 76 ปี ชาวบ้าน หมู่ 12 ต.พุเตย อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ที่ได้รับความเสียหายจากแก๊งค์ทวงหนี้นอกระบบข่มขู่และเข้าไปยึดทรัพย์สินในบ้านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
2. นางอารมณ์ ศรีธัญญา ได้รับความเสียหายจากกรณีนายสุรชัย ศรีธัญญา เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโควิด 19 โดยภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสขอรับเงินจาก สปสช. จำนวน 4 แสนบาท และไม่สามารถติดต่อได้
3. ญาติผู้ตาย และผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเกิดไฟไหม้ผับดังที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความทางด้านคดี
4. แต่งตั้งทนายความด้านสิ่งแวดล้อมเป็นคณะทำงานช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกรณีสารเคมีรั่วไหลที่ จ.นครปฐม
นายวิเชียร กล่าวว่า ในวันที่ 24 ก.ย. คณะทำงานของสภาทนายความจะลงพื้นที่ จ.นครปฐม เพื่อช่วยเหลือประชาชนด้านกฎหมาย กรณีที่พบสารเคมีจากบริษัท อินโดรามา โพลีเอสเตอร์ จำกัด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และรั่วไหลและกระทบกับประชาชนเป็นวงกว้างหลายอำเภอ เบื้องต้นจะลงพื้นที่เพื่อใหัความรู้ถึงสิทธิของประชาชนและการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ทั้งนี้ หากประชาชนสนใจให้สภาทนายความฟ้องร้องเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย หรือเจรจาเรียกร้องค่าเสียหายพร้อมจะเป็นสื่อกลางเพื่อให้การช่วยเหลือ
“คดีสิ่งแวดล้อม หากมีผลกระทบในวงกว้าง สามารถฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่ง และค่าเสียหายในอนาคตได้ สาเหตุที่เกิดขึ้นต้องพิจารณาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ว่ามีความผิดตามกฎหมายใดบ้าง ทั้งนี้สภาทนายความได้รับการติดต่อจากผู้เสียหายในพื้นที่ จ.นครปฐมแล้ว” นายวิเชียร กล่าว
นายวิเชียร กล่าวด้วยว่า สภาทนายความยังได้รับเรื่องและเตรียมเข้าช่วยเหลือประชาชนอีก 2 คดี คือ 1. คดีนางพิมพา วรรณคำ ชาวบ้าน ต.พุเตย อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบุรี ถูกแก๊งค์ทวงหนี้เงินกู้รายวันข่มขู่ และบุกบ้านยึดทรัพย์สิน อาทิ ตาชั่ง เตาแก๊ส หม้อก๊วยเตี๋ยว ภายในบ้าน ทั้งที่ไปกู้เงิน จำนวน 2,000 บาท
ทั้งนี้สภาทนายความมองว่า กรณีดังกล่าวการยึดทรัพย์ไม่สามารถทำได้ตามกฎหมายการทวงถามหนี้ และทางเจ้าหน้าที่จะเข้าไปช่วยเหลือ หากการดำเนินคดีตามกฎหมายซึ่งบุตรสาวของนางพิมพาได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว มีความล่าช้า
กรณีดังกล่าวเมื่อพนักงานสอบสวนรับเป็นคดี น่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากมีกล้องวงจรปิด เข้าถึงตัวผู้กระทำความผิดได้โดยง่าย หากเอาจริงเอาจังไม่น่าจะเกิน 2 เดือน เบื้องต้น แก๊งทวงหนี้ดังกล่าวจะมีความผิดฐานบุกรุก ฐานห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ร้อยละ 20 ต่อวัน ลักทรัพย์และกฎหมายทวงถามหนี้
ด้านนายสุชาติ ชมกุล อุปนายกสภาทนายความ กล่าวถึงคดี นางอารมณ์ ศรีธัญญา อายุ 80 ปี ถูกลูกสะใภ้เชิดเงิน 4 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินค่าชดเชยของนายสุรชัย ศรีธัญญา บุตรชาย ซึ่งเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 จาก เพื่อช่วยเหลือตามสิทธิของนายอารมณ์ และช่วยในการดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้นสภาทนายความมองว่าอาจเป็นความผิดพลาดในการพิจารณาของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ดังนั้นคณะทำงานจะเข้าพบ สปสช. เพื่อเจรจาต่อการทำงานที่ผิดพลาด และไล่เบี้ยเอาเงินค่าชดเชยที่ชำระไปผิดพลาด ส่วนจะดำเนินการเอาผิดกับลูกสะใภ้หรือไม่หรือไม่อยู่ที่ สปสช.จะพิจารณา เบื้องต้นมองว่านางอารมณ์ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกการฉีดวัคซีนโควิด-19