“เพื่อไทย”แถลงการณ์กฎเหล็กกกต.-จี้ปรับปรุงกฎหมายให้ดีขึ้น
“เพื่อไทย”แถลงการณ์กฎเหล็กกกต. คุมเข้ม 180 วันก่อนวันครบอายุสภาฯ กังวลความเท่าเทียม ชงปรับปรุงกฎหมายให้ดีขึ้น
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกระเบียบตามมาตรา 64, 65 และ 68 กฎหมายเลือกตั้งว่า ภายในระยะเวลา 180 วันนับตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2565 ไปถึงการเลือกตั้งทั่วไป ผู้สมัครและพรรคการเมืองต้องรวมนับค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง และมีข้อห้ามอื่นๆ เรื่องการแจกสิ่งของและวิธีการหาเสียงนั้น
น.ส.ธีรรัตน์กล่าวต่อว่า พรรค พท. มีความเห็นว่า กฎหมายเลือกตั้งต้องทำให้การเลือกตั้งสุจริต เสรีและเป็นธรรม ใช้บังคับกับนักการเมือง พรรคการเมือง และว่าที่ผู้สมัครอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะมีตำแหน่งอยู่ในฝ่ายบริหารหรือไม่ก็ตาม โดยมีความเห็นว่าบทบัญญัติดังกล่าวอาจมีปัญหาว่าขัดกับหลักสามัญสำนึก หลักนิติธรรมและหลักปฏิบัติที่ใช้กันมาดังนี้ 1.บทบัญญัติในกฎหมายเลือกตั้งทำนองนี้ ไม่เคยมีมาก่อน แต่เกิดขึ้นภายหลังการรัฐประหารและพิจารณาโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่สมาชิกไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่กลับเป็นผู้พิจารณาเรื่องการเลือกตั้ง
2.ข้อจำกัด 180 วันนี้มีความลักลั่น เนื่องจากถ้าในการเลือกตั้งภายหลังการยุบสภา จะต้องใช้บทบัญญัติอื่นที่ระยะเวลาในการคำนวณค่าใช้จ่าย และห้ามกระทำบางเรื่องจะสั้นกว่า ตามปกติประมาณ 60 วัน สะท้อนว่าการห้ามเป็นระยะเวลา 180 วันนั้นไม่มีตรรกะที่ดีในการร่างกฎหมาย 3.เงื่อนไข 180 วันนั้น เป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนนานเกินควรที่จะได้รับทราบนโยบายของนักการเมืองในบางสถานที่และเวทีที่มีข้อห้ามและประชาชนมาชุมนุมกันจำนวนมาก เช่น ในเวทีที่มีมหรสพ อีกทั้งยังทำให้นักการเมืองไม่สามารถดำเนินชีวิตตามปกติประเพณีได้ในช่วงเวลานั้น เช่น การใส่ซองในงานประเพณีต่างๆ นอกจากนั้นข้อห้ามที่ค่อนข้างนานกระทบต่อการดูแลช่วยเหลือประชาชนถ้ามีกรณีภัยพิบัติต่างๆ เช่น น้ำท่วม เป็นต้น
4.เงื่อนไขในลักษณะนี้มีปัญหาเรื่องความชัดเจน ก่อให้เกิดความกังวลว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ซึ่งแม้ กกต.จะได้ชี้แจง แต่ข้อกังวลยังคงอยู่ เพราะยังมีช่องในการตีความและใช้ดุลพินิจ กฎหมายที่ดีควรชัดเจน และไม่ควรเปิดช่องให้ต้องตีความ และ 5.ข้อที่น่ากังวลอย่างยิ่งคือ ความเป็นธรรมและความเท่าเทียม ถ้าบทบัญญัติและระเบียบห้ามนักการเมืองทั่วไปว่าทำไม่ได้ แต่ผู้มีตำแหน่งทางฝ่ายบริหารในรัฐบาลเช่นรัฐมนตรีทำได้ อาจรู้สึกว่าลักลั่นกัน มีปัญหาเรื่องความเท่าเทียมเป็นธรรมในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองก่อนเข้าสู่การเลือกตั้ง พรรคมีความเห็นว่าบทบัญญัติกฎหมายต้องไม่ทำให้ฝ่ายใดได้เปรียบหรือเสียเปรียบ
น.ส.ธีรรัตน์กล่าวด้วยว่า พรรค พท.เห็นว่า โจทย์สำคัญของการเลือกตั้งคือ ต้องสุจริต เสรีและเป็นธรรม ดังนั้น กฎหมายเลือกตั้งต้องตอบโจทย์นี้ให้ได้ ถ้าบทบัญญัติเรื่องค่าใช้จ่าย และการห้ามทำกิจกรรมในบางเรื่องในช่วงเวลา 180 วันก่อนสภาผู้แทนราษฎรครบวาระ ไม่ตอบโจทย์ และไม่ได้ทำให้การเลือกตั้งสุจริต เสรีและเป็นธรรมมากขึ้น เราก็ต้องช่วยกันพิจารณาหาทางแก้ไข และพรรค พท.พร้อมที่จะพิจารณาเสนอแนวทางแก้ไขในเรื่องนี้ร่วมกับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อปรับปรุงกฎหมายให้ดียิ่งขี้น เนื่องจากกฎหมายที่ดีต้องชัดเจน ปฏิบัติตามได้ สอดคล้องกับสามัญสำนึก และหลักนิติธรรม