ฉากจบ 3 ป. “ประยุทธ์” ไปต่อไม่สุด “ประวิตร” ปิดดีลปั้นดาว
คอลัมน์มังกรซ่อนพยัคฆ์ โดย ประชา บูรพาวิถี / ใกล้ฉากอวสานพี่น้อง 3 ป. “ประยุทธ์” ไปต่อในวันที่เรตติ้งดำดิ่ง “ประวิตร” ชิงยึดพรรคพลังประชารัฐ เป็นที่มั่นสุดท้ายสู้ศึกเลือกตั้ง หวังอภิมหาดีลบ้านป่า-บ้านจันทร์
14 ปีที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นดาวดวงใหม่ ที่พี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตั้งใจปั้นให้เป็น ผบ.ทบ. ต่อจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา โดยเริ่มต้นที่ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1
พล.อ.ประวิตร ฉกฉวยวิกฤตความขัดแย้งทางการเมือง 2 ขั้ว 2 สี ให้เป็นประโยชน์แก่กลุ่มบูรพาพยัคฆ์ สร้างระบอบพี่น้อง 3 ป. ขึ้นมาครองอำนาจในกองทัพ และรัฐบาล ในช่วงปี 2549 จนถึงปัจจุบัน
สัจธรรมการเมืองไทย ขุนศึกไม่ว่ากลุ่มไหน จะทำรัฐประหารเพื่อสืบทอดอำนาจ บางกลุ่มอยู่สั้น บางกลุ่มอยู่ยาว สุดท้ายก็เลี่ยงไม่พ้นการแก่งแย่งชิงอำนาจกันเอง
พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อมั่นในระบอบอำมาตยาธิปไตย หรือระบบข้าราชการประจำ และคบค้าสมาคมกับเทคโนแครต โดยภาพรวมเป็นคนไม่ชอบนักเลือกตั้ง
พล.อ.ประวิตร มีบุคลิกเหมือน พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา มือประสานสิบทิศ ช่วงประชาธิปไตยเบ่งบานปี 2517-2519 ด้วยเหตุนี้ ลุงป้อมจึงเป็นขวัญใจนักเลือกตั้ง และพวกเขาพยายามหามแห่ลุงป้อมออกสู่สมรภูมิ ในฐานะแม่ทัพเบอร์หนึ่ง
นักเลือกตั้งเขี้ยวลากดินอ่านเกมข้ามช็อต พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อได้แค่ 2 ปี แถมความนิยมลดลงในทุกภาค พวกจึงส่งเสียงสนับสนุนลุงป้อม ใจบันดาลแรง
เสียงจากปากน้ำโพ
ทำไม วีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ จึงจุดพลุเรื่องจะเสนอชื่อนายกฯ ครบทั้ง 3 คนในการเลือกตั้งสมัยหน้า มีทั้งพล.อ.ประยุทธ์ ,พล.อ.ประวิตร และอีกคนหนึ่งที่กำลังพิจารณาอยู่
วีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ 9 สมัย อดีตนักวิเคราะห์การเมืองขาประจำทางสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่อง TV 24(จอแดง) ย่อมช่ำช่องเชิงยุทธ์ และไม่ใช่นักเลือกตั้งประเภทหิวแสง
ช่วงเดือน ก.ค.2565 วีระกร ออกมาชักธงรบกับทีม เสธ.สายทำเนียบ ที่จะย้อนกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งแบบใบเดียว โดยเวลานั้น ส.ส.พปชร. เลือกบัตร 2 ใบ หาร 100 และไม่เอาหาร 500 ตามข้อเสนอของ สมศักดิ์ เทพสุทิน
วีระกร ยังวิจารณ์ตรงๆว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำงานดี แต่การทำงานเป็นแบบข้าราชการประจำ ฉะนั้นชื่อลุงตู่ จึงขายไม่ได้ในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ยกเว้นภาคใต้
อนึ่ง พรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส. 4 คนใน จ.นครสวรรค์ แต่แยกเป็น 3 ก๊กคือ เขต 1 ภิญโญ นิโรจน์ และเขต 2 วีระกร คำประกอบ ใกล้ชิดกับกลุ่มสามมิตร เขต 4สัญญา นิลสุพรรณ สังกัดซุ้มหิมาลัย ผิวพรรณ และเขต 6 นิโรธ สุนทรเลขา สายตรง เสธ.ทำเนียบ
เกมเก๋าสามมิตร
วันจันทร์ที่ 3 ต.ค.2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามการดำเนินการโครงการด้านทรัพยากรน้ำที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท และ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
ส่วนรัฐมนตรีที่ติดตามไปด้วย ก็มี อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเจ้าบ้าน พร้อมกับชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง
พักหลัง สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และอนุชา นาคาศัย แกนนำกลุ่มสามมิตร ขยับลงพื้นที่ภาคใต้บ่อยขึ้น เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร มอบหมายให้ สมศักดิ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค ให้มาดูแลพื้นที่โซนภาคใต้
ส่วน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. รับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสาน ก็ออกแรงดึง สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ เขต 4 และเชิงชาย ชาลีรินทร์ ส.ส.ชัยภูมิ เขต 2 ที่มีข่าวจะย้ายพรรค ให้เปลี่ยนใจปักหลักอยู่พรรคเดิม
อย่างไรก็ตาม เสือซุ่มอย่างสมศักดิ์ ก็ไม่ได้ฟันธงว่า สมัยหน้ายังจะอยู่กับลุงป้อม คงต้องประเมินสถานการณ์วันต่อวัน เดือนต่อเดือน
ดังนั้น การโชว์ลีลาเปิดประเด็นข่าวแบบรุ่นเก๋าเกมของวีระกร จึงไม่ได้คิดเองทำเองคนเดียว หากแต่มีเงาของซือแป๋สมศักดิ์ ทาบทับอยู่
มังกรโดดเดี่ยว
ช่วงที่ พล.อ.ประวิตร รักษาการนายกรัฐมนตรี จะเดินทางลงพื้นทุกวันจันทร์ โดย สันติ พร้อมพัฒน์ และชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ติดสอยห้อยตามไปทุกจังหวัด ส่วนผู้ที่มิใช่รัฐมนตรี แต่ก็โผล่หน้าไปร่วมบางจังหวัดคือ วิรัช รัตนเศรษฐ
ที่หายไป คงจะเป็น สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และดูเหมือนจะมีที่นราธิวาส จังหวัดเดียวที่เสี่ยเฮ้งตามลุงป้อมไปจน อ.สุไหง-โกลก
ในวันชี้ชะตา พล.อ.ประยุทธ์ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา สุชาติ ชมกลิ่น เป็นรัฐมนตรีใน พปชร. คนเดียวที่โพสต์เฟซบุ๊คให้กำลังบิ๊กตู่ “ผมขอเป็นกำลังใจให้ ท่านนายก พร้อมยืนเคียงข้างครับ”
หากว่าวันข้างหน้า พล.อ.ประวิตร ยึด พปชร.เบ็ดเสร็จ ไม่ใส่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือเสนอเป็นลำดับ 2 รองจากบิ๊กป้อม ตามที่ ส.ส.วีระกร เสนอ เสี่ยเฮ้งก็คงอยู่ พปชร.ไม่ได้
ลำพังคดีเก่า 6 ส.ส.ซุ้มปากน้ำ โหวตสวนตบหน้าเสี่ยเฮ้ง พล.อ.ประวิตรก็ไม่จัดการอะไร แถมลุงป้อมยังไปเอาอกเอาใจจะยกเก้าอี้รัฐมนตรีให้เป็นของขวัญ
เบื้องลึกที่เสี่ยเอ๋-ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ไม่พอใจเสี่ยเฮ้ง ก็มีประเด็นเดียวคือ การเข้ามาจัดทัพผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ ซึ่งสมัยหน้า ปากน้ำจะมี ส.ส.เพิ่มเป็น 8 คน
ย้อนหลังไปเมื่อ 20 เม.ย.2565 สุชาติ ชมกลิ่น แถลงข่าวเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ โซนภาคกลางหลายจังหวัด และมีชื่อ มานิตย์ พรหมการีย์กุล ประธาน สภาองค์การลูกจ้างแรงงานยานยนต์ฯ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 8
จุดนี้เองที่เสี่ยเอ๋ รู้สึกเหมือนถูกขาใหญ่เมืองชลข้ามหัว เหมือนคำให้สัมภาษณ์ของต่อศักดิ์ อัศวเหม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ประกาศห้ามเสี่ยเฮ้งเข้ามายุ่มย่ามในถิ่นปากน้ำ
เสี่ยเฮ้งจะอยู่เผชิญหน้ากับซุ้มปากน้ำอย่างไร และถ้าข่าว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า คัมแบ็ค พปชร. เป็นจริงตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ก็คงทำให้เสี่ยเฮ้งตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ขณะที่สื่อกระแสหลักให้ความสำคัญกับข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จะไปต่อหรือหยุดแค่ 8 ปี ปรากฏว่า วันเดียวกัน มีสื่อออนไลน์บางสำนัก เสนอข่าว “จับตา ป. ที่ 4 บิ๊กแป๊ะ จากบิ๊กสีกากีสู่บิ๊กการเมืองระดับชาติ”
ชื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ถูกกล่าวขวัญถึงมานานแล้วในฐานะทายาททางการเมืองคนหนึ่งของ พล.อ.ประวิตร เพียงแต่ระยะหลัง ไม่ปรากฏกายในพื้นที่ภาคอีสาน
ว่ากันว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ไม่ได้หายไปไหน งานใหญ่ไม่แล้งไม่รู้ที่หนองคาย และงานเล็กแต่มีข่าวลุงใส่ยีนส์ ที่หนองบัวลำภู ป.แป๊ะก็ทำงานอยู่เบื้องหลัง โดยมี หิมาลัย ผิวพรรณ ไปเป็นตัวแทน และคอยประสานงาน
นับจากวันนี้ไป ลุงป้อมจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในพลังประชารัฐ ส่วนลุงตู่คงมีทางเลือกไม่มากนัก จะอยู่เป็นเบอร์รองที่ พปชร. หรือไปเป็นเบอร์ใหญ่ที่รวมไทยสร้างชาติ คงได้เห็นกันในเร็ววันนี้