"พิธา" มองไร้สัญญาณยุบสภา-รัฐประหารอย่าวางใจ ลั่นก้าวไกลพร้อมเลือกตั้ง

"พิธา"  มองไร้สัญญาณยุบสภา-รัฐประหารอย่าวางใจ ลั่นก้าวไกลพร้อมเลือกตั้ง

"พิธา" มองแคนดิเดตนายกฯ พปชร. แค่เก้าอี้ดนตรี ส่วน"พรรคก้าวไกล" เสนอชื่อหนึ่งเดียว มองไร้สัญญาณยุบสภา ส่วนข่าวลือรัฐประหารยังประมาทไม่ได้ ลั่นพรรคพร้อมสู้เลือกตั้งทุกเมื่อ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวสัมภาษณ์ระหว่างร่วมแสดงความยินดีโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่36หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ถึงกระแสแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐที่คาดว่าจะมีการเสนอชื่อบุคคลอื่นนอกเหนือจากตัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมว่า น่าจะเป็นไปตามที่นายวีรกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐออกมาตั้งข้อสังเกตการดำรงตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์ ที่อาจอยู่ได้อีกเพียง2ปี

ฉะนั้นเชื่อว่าพปชร.น่าจะต้องมีการเสนอชื่อ3คนทั้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร ซึ่งมีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้

นายพิธา ยังยืนยันว่าในส่วนของรายชื่อแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกลขณะนี้ยังมีชื่อคนเพียงคนเดียว  

“พรรคก้าวไกลมองว่าน่าจะเป็นเพียงเก้าอี้ดนตรีเสียมากกว่า มองว่าเป็นระบอบเดียวกันคือระบอบประยุทธ์ ทั้งนี้มองว่าการเลือกตั้งครั้งนึคงไม่ได้มองแต่เรื่องของบุคคลอย่างเดียวแต่จะต้องมองในเรื่องของระบบหลายๆระบบ”

นายพิธา ยังกล่าวถึงกรณีมีข่าวลือว่าจะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นว่า วันนี้ประเทศเป็นระบบแบบไหนที่ยังต้องมีคำถามเหล่านี้ถ้าจะปรับครม.ประชาชนได้อะไร ถ้าจะยื้อการเลือกตั้งออกไปถือเป็นประโยชย์กับพล.อ.ประยุทธ์เสียมากกว่า

ส่วนตัวมองว่าสิ่งที่สำคัญคงต้องดูที่1.ผลการเลือกตั้ง2.รัฐธรรมนูญ ถ้าผลการเลือกตั้งฝ่ายประชาธิปไตยได้รับเสียงสนับสนุนมากกว่าในขณะที่รัฐธรรมนูญยังไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ตรงนี้จึงเป็นข้อเสนอของพรรคก้าวไกลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า ณ เวลานี้ยังเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า เชื่อว่าจะมี แต่การเมืองไทยประมาทไม่ได้ เพราะเมื่อไหร่ที่ชนชั้นนำรู้สึกว่าอำนาจจะหลุดจากมือก็อาจใช้อำนาจที่มองไม่เห็นกลับมาได้อยู่ตลอดเวลา รวมถึงการขู่โดยคนที่เป็นระดับรัฐมนตรี 

ส่วนที่ทีการประเมินถึงกระแสการยุบสภาหลังเสร็จสิ้นการประชุมเอดปค นายพิธา มองว่า ส่วนตัวมองว่าขณะนี้ยังไม่มีเหตุผลอะไรให้ยุบสภา ส่วนที่นพ.ชลน่านศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาหยิบยกเงื่อนไขสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า90วัน ส่วนตัวมองว่า หากมีการลาออกในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ก็น่าจะยังทันกำหนด  เหตุผลเดียวที่คิดว่าจะมีการยุบสภาน่าจะมาจากความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงการปรับครม.ที่อาจไม่ลงตัว

"อย่างไรก็ดีไม่ว่าจะยุบสภาวันนี้หรือเดือนพ.ค.พรรคผมก็พร้อมเต็มที่ที่จะสู้ศึกเลือกตั้ง"