ถอดรหัส "สัญญาณยุบสภา" เกม"ประยุทธ์"เปลี่ยนผ่านอำนาจ

ถอดรหัส "สัญญาณยุบสภา" เกม"ประยุทธ์"เปลี่ยนผ่านอำนาจ

หลากหลายปัจจัยการเมือง ที่พล.อ.ประยุทธ์ อาจต้องชั่งน้ำหนัก ชิงจังหวะเหมาะสม เพื่อตัดสินใจว่า ที่สุดจะ "ยุบสภา" หรือ "อยู่ครบวาระ" ?

“งั้นก็อยู่กันไปยันมีนาคมปีหน้า” เวิร์ดดิ้งสำคัญที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พูดกลางวงพูดคุยหัวหน้าพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา เสมือนเป็นการส่งสัญญาณไปยังพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ครบวาระไปจนถึง 23 มี.ค.2566 สยบกระแสยุบสภา ที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ 

ทว่า ด้วยกลเกมการเมืองที่เกิดขึ้นยามนี้ ทั้งการส่งสัญญาณของ “2 ป.”  ป.ประยุทธ์ ล่าสุดตัดสินใจอำลาป่ารอยต่อแยกทางบนดาวคนละดวงกับ “พี่ใหญ่” ป.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส่งสัญญาณชัดเจน เตรียมร่วมงาน"รวมไทยสร้างชาติ" ของ “เดอะตุ๋ย” พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค เหลือเพียงรอฤกษ์ แห่ขบวนขันหมากเทียบเชิญรับเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมไม่นานหลังจากนี้  

ฟาก “พี่ใหญ่” เอง  ล่าสุดเริ่มต่อสายเช็คเสียง ส.ส. ขอความชัดเจนใครอยู่-ใครไป เพื่อประเมินสถานการณ์หลังจากนี้ 

ไม่ต่างจากบรรดาพลพรรค 2 ป.ที่ยามนี้เริ่มส่งสัญญาณเลือกข้าง หอบกระเป๋าเข้าค่าย “ป.พี่-ป.น้อง”  เตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น 

ถอดรหัส \"สัญญาณยุบสภา\" เกม\"ประยุทธ์\"เปลี่ยนผ่านอำนาจ
 

ขณะที่กลเกมในสภาฯ จนถึงวินาทีนี้ ยังปรากฎภาพ “เกมวัดพลัง” โดยเฉพาะศึกในขั้วรัฐบาล ไล่เรียงมาตั้งแต่ศึก กยศ. กระทั่งล่าสุด คือ ร่างพ.ร.บ.กัญชา ที่ยามนี้ค้างอยู่ในการพิจารณาวาระ 2 และ 3 ส่อแววยืดเยื้อแบบไม่มีกำหนด ไม่ต่างอะไรกับศึกนโยบายพรรคการเมือง 

ทั้งในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันอย่าง “ภูมิใจไทย” และ “ประชาธิปัตย์” หรือบางพรรคที่ไม่ออกตัวแต่หวังเป็น"ตาอยู่" ได้ประโยชน์จากกลเกมที่เกิดขึ้น 

ไม่ต่างจากขั้ว “ฝ่ายค้าน” อย่างพรรคเพื่อไทย ที่เป็น “ตัวละครร่วม” หวังผลไปถึงการชิงกระแส เตะสกัดผลงานชิ้นโบแดงของพรรคการเมือง ไม่ให้ไปถึงฝั่งฝัน

“เกมชิงไหวชิงพริบ” ตอกย้ำด้วยภาพ "สภาล่มรายวัน" ที่เกิดขึ้นยามนี้  ถามบรรดาส.ส.ทั้ง “รัฐบาล” และ “ฝ่ายค้าน” หลายคนยอมรับตรงๆ แบบไม่มีหมกเม็ดว่า  เป็นเกม “หวังผล” ไปถึงการสะท้อนภาพการคอนโทรลเสียงในสภา รวมถึงเสถียรภาพรัฐบาลที่กำลังง่อนแง่น อยู่ในสภาวะ "คุมไม่อยู่" 

ถอดรหัส \"สัญญาณยุบสภา\" เกม\"ประยุทธ์\"เปลี่ยนผ่านอำนาจ

ซ้ำส่งสัญญาณกลายๆไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีอำนาจเต็มในการประกาศยุบสภาว่า ยามนี้สภาไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้แล้ว เพื่อเป็นเงื่อนไขเร่งเร้าให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเร่งตัดสินใจในเร็ววัน 

ขณะเดียวกัน กลเกมที่เกิดขึ้น ยังเป็นเกมบีบไปถึงบรรดา “นักเลือกตั้ง” ที่เวลานี้อยู่ในฤดูกาลโยกย้ายทั้งที่เปิดหน้าชัดเจน รวมถึงยังหลบฉาก ไม่กล้าเดินหน้าหรือตัดสินใจ ว่าจะไปกับพรรคไหนกับใคร ถึงเวลาที่จะต้องตัดสินใจ

ภายใต้เงื่อนไขสำคัญทั้งการสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วัน กรณีที่ "รัฐบาลอยู่ครบวาระ" หรือสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 30 วันในกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจ "ยุบสภา" 

 

ขณะเดียวกันตัว พล.อ.ประยุทธ์ ที่แม้จะบอกว่าอยู่ครบวาระ ไปจนถึงมีนาคม 2666 แต่เอาเข้าจริง อาจต้องไปลุ้นที่บรรดาสารพัดปัจจัยที่เกิดขึ้น

ทั้งสัญญาณบีบ “ปรับครม.” จากพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่ล่าสุดส่งเสียงทวงถามกลายๆไปยัง "พล.อ.ประยุทธ์"ตามที่เคยรับปากว่าจะพิจารณาหลังประชุมเอเปก

ประเด็นเสถียรภาพรัฐบาล ที่ยามนี้ดูเหมือนกำลังเกิดแรงกระเพื่อมลูกใหญ่ รวมถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ซึ่งฝ่ายค้าน"จองกฐิน"ยื่นญัตติในช่วงกลางเดือน ธ.ค.หวังให้มีการอภิปรายในช่วงม.ค.ปีหน้า

ถอดรหัส \"สัญญาณยุบสภา\" เกม\"ประยุทธ์\"เปลี่ยนผ่านอำนาจ

รวมถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับสูตรเลือกตั้งตามกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ซึ่งจะชี้ขาดในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ยังไม่นับรวมไปถึงบรรดาสารพัดม็อบที่รายล้อมอยู่นอกสภา 

ทั้งหมดทั้งมวล พล.อ.ประยุทธ์ อาจต้องชั่งน้ำหนัก หาจังหวะที่เหมาะสม เพื่อชิงความได้เปรียบในการเปลี่ยนผ่านอำนาจหลังจากนี้ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์น่าจะต้องหาจังหวะที่เป็นต่อมากที่สุด 

หาก “ถอดรหัสยุบสภา” ครั้งที่ผ่านๆมา จะพบว่า ตั้งแต่ปี 2481 รัฐบาลมีการยุบสภามาแล้วถึง 13 ครั้ง จำนวนนี้มีสาเหตุมาจาก ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและรัฐสภา 2 ครั้ง เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ หรือเสร็จสิ้นภารกิจเฉพาะกิจ 3 ครั้ง ความขัดแย้งภายในรัฐบาล 4 ครั้ง ความขัดแย้งระหว่างสภาด้วยกัน 1 ครั้ง เกิดวิกฤติการเมือง 3 ครั้ง

ส่วนจะมีการยุบสภาครั้งที่ 14 เกิดขึ้นเมื่อใด คงต้องไปเดาใจ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีอำนาจเต็มว่า ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ ที่บีบรัดอยู่ว่า จะเอาอย่างไรหลังจากนี้!