เดิมพัน "บูรพา" ฝ่ายแค้นรุมกินโต๊ะ พลาดเป้าปิดฉาก“ซุ้มพลังเฮ้ง”
"เสี่ยเฮ้ง"ในสีเสื้อตัวใหม่ อาจไม่สดใส เนื่องจากจะถูกรุมกินโต๊ะจากคู่แค้นเก่าใน พปชร.ในเมืองชลบุรี และพรรคขั้วตรงข้ามอย่างเพื่อไทย
โดดเด่น เดียวดาย “เฮ้ง สุชาติ” หอบหิ้ว ส.ส.ลาลุงป้อม ออกจากบ้านป่ารอยต่อฯ รอลีลาลุงตู่ จะเปิดหน้าท้ารบเมื่อใด จับตาศัตรูอื้อ สนามชลบุรี-ฉะเชิงเทรา เจอขาใหญ่รุมกินโต๊ะ หากผู้สมัคร ส.ส.สายพลังเฮ้ง ไม่เข้าเป้า ก็จบเกม ปิดฉากซุ้มพลังเฮ้ง
“สุชาติ ชมกลิ่น” รัฐมนตรีแรงงาน อดีต ผอ.พรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อ 29 พ.ย.2565 หลังเข้าไปกราบลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ ที่บ้านป่ารอยต่อฯ ขอไปทำงานการเมืองกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
“จุดยืนของผม ผมจะต้องไปช่วยนายกรัฐมนตรี ตัวตนผมอยู่ที่นายกฯ ผมอยู่กับนายกเป็นหลัก” สุชาติ กล่าวย้ำ
จับความได้ว่า สุชาติ ชมกลิ่น ลาออกจาก ผอ.พรรคพลังประชารัฐ แต่ยังไม่เข้าไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ คงจะต้องรอความชัดเจนจาก พล.อ.ประยุทธ์
สถานการณ์ในเวลานี้ เสี่ยเฮ้ง สุชาติ ก็เหมือนจอมยุทธ์โดดเดี่ยวเดียวดาย ซึ่งต่างจากกระบี่เดียวดาย ในนิยายกำลังภายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร และมังกรหยก
กระบี่เดียวดาย เป็นวิชาเพลงกระบี่ ที่มีความพิสดาร ความร้ายกาจอยู่ที่เพลงกระบี่นี้คือไร้กระบวนท่า
สำหรับเสี่ยเฮ้ง มีแต่รุกและรุก บางครั้งก็ล้ำเส้น สร้างศัตรูโดยไม่รู้ตัว แทนที่จะเป็นกระบี่เดียวดาย กลายเป็นกระบี่โดดเดี่ยวเดียวดาย
ยกตัวอย่างการชิงประกาศยืนข้างตู่ ตามสไตล์นักเลงเมืองชล ก็เข้าทางหัวหน้าซุ้มใหญ่บางคนใน พปชร. จึงรวมหัวออกข่าวกดดัน จนเสี่ยเฮ้งต้องลาออกจาก ผอ.พรรค พปชร.
อันเนื่องจากหัวโขน รมว.แรงงาน “เฮ้ง สุชาติ” จึงผงาดในเมืองชล จนสถาปนาบ้านใหม่พลังเฮ้ง แข่งกับบ้านใหญ่กำนันเป๊าะ
ขุมกำลังของเสี่ยเฮ้ง ที่เป็นความหวังในการเลือกตั้งสมัยหน้าคือผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี 10 เขต และฉะเชิงเทรา 4 เขต
เฉพาะเมืองชล สุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี เขต 1 และรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี เขต 3 คงเป็นตัวยืน ส่วนที่เหลือก็เป็นนักการเมืองท้องถิ่นระดับบ้านใหญ่อย่าง สจ.ตี๋-สุรพงษ์ นำชัยรุจิพงษ์ ส.อบจ.ชลบุรี เขต อ.เมือง
สมเจตน์ เกตุวัตถา นายกเทศมนตรีตำบลบางพระ อ.ศรีราชา รุ่งเพชร แจ่มเจริญ รุ่งเพชร อดีตนายก อบต.บ่อวิน อ.ศรีราชา และมานพ ประกอบธรรม อดีตนายกเทศมนตรีตำบลตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง
ศึกเมืองชลหนหน้าใหญ่หลวงนัก เสี่ยเฮ้ง ต้องแข่งกับทีมยังเติร์กชลบุรี นำโดย สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี เขต 4 และจองชัย วงศ์ทรายทอง ส.ส.ชลบุรี เขต 2 ซึ่งกลุ่มนี้ ไม่รู้ว่าจะอยู่พรรค พปชร.หรือย้ายไปพรรคอื่น
อีกกลุ่มหนึ่งคือ บ้านใหญ่แสนสุข นำโดย สท.เหี่ยว-ภาสกร หอมหวล มือขวากำนันเป๊าะ ที่จะถือธงนำทัพแทนสนธยา คุณปลื้ม ซึ่งมีแนวโน้มไปอยู่พรรคเพื่อไทย
ส่วนสนามฉะเชิงเทรา เสี่ยเฮ้งฝากความหวังไว้กับ กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา และชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา ในนามกลุ่มแปดริ้วโฉมใหม่
สำหรับ ส.ส.นกแล สาย “เฮ้ง สุชาติ” อีก 5 - 6 ชีวิต เป็น ส.ส.พรรษาแรก ที่ได้รับเลือกตั้ง เพราะกระแสลุงตู่ ก็น่าเป็นห่วงว่า สมัยหน้าจะสอบตก
เพชรบุรี มี ส.ส. 3 คนคือ กฤษณ์ แก้วอยู่ สาธิต อุ๋ยตระกูล และสุชาติ อุสาหะ ตอนแรกคล้ายอยู่กับเสี่ยเฮ้งทั้งหมด แต่ภายหลัง ส.ส.กฤษณ์ และสุชาติ ไปอยู่ภูมิใจไทย ก็เหลือ สาทิตย์ อุ๋ยตระกูล คนเดียว
สมพงษ์ โสภณ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด เคยอยู่เพื่อไทย เสี่ยเฮ้ง ชวนมาอยู่ พปชร. เพิ่งได้เป็น ส.ส.ระยอง เขต 4
พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี เขต 1 เคยสังกัดพรรคอนาคตใหม่ ย้ายมาพรรค พปชร. เสี่ยเฮ้งเป็นคนดูแล
ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 7 ลูกสาวบ้านใหญ่พระสมุทรเจดีย์ สมัยหน้าต้องเจอ ต่อศักดิ์ อัศวเหม บ้านใหญ่ม้าทองคำ เป็นศึกใหญ่หลวงนัก ไม่รู้ว่าเสี่ยเฮ้งจะช่วยได้แค่ไหน
อนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ ที่เสี่ยเฮ้งดูแลอยู่ สมัยหน้า จะส่งลูกชาย อริญชัย ซูสารอ กำนัน ต.ควน อ.ปะนาเระ ลงสมัคร ส.ส.แทน เพราะตัวเองมีปัญหาสุขภาพ
สรุปแล้ว เสี่ยเฮ้งในสีเสื้อตัวใหม่ อาจไม่สดใส เนื่องจากจะถูกรุมกินโต๊ะจากคู่แค้นเก่าใน พปชร.ในเมืองชลบุรี และพรรคขั้วตรงข้ามอย่างเพื่อไทย