“สนธิรัตน์"ประกาศกร้าวต่อหน้าคนทุ่งสง “สร้างอนาคตไทย” ไม่มีทางล่มสลาย
“สนธิรัตน์"ลุยทุ่งสง ประกาศกร้าว “สร้างอนาคตไทย” ไม่มีทางล่มสลาย ยันจุดยืนพรรคไม่เปลี่ยนแปลง ขอทำหน้าที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจประเทศ-ปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน
วันที่ 20 ธ.ค. 2565 ที่ศูนย์ศึกษา และพัฒนาชุมชน ต.หนองหงษ์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค นายอิธวัฒน์ พิทักษ์คุมพล กรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วยนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช นายสมชาย เล่งหลัก ผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา พรรคสร้างอนาคตไทย ลงพื้นที่พบปะแกนนำและผู้สนันสนุนพรรคในอ.ทุ่งสง จำนวนกว่า 300 คน เพื่อติดตามและเร่งรัดการทำงานของแกนนำในพื้นที่
โดยนายสนธิรัตน์ ได้กล่าวย้ำ ว่า จากกระแสข่าวพรรคสร้างอนาคตไทยจะหยุดเดินหน้าต่อนั้น ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าไม่ได้ออกจากปากของผู้บริหารพรรค กระแสข่าวลือก็เป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น ส่วนใครเป็นคนปล่อยข่าว ตนไม่ทราบ และไม่ได้หวั่นไหว ถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง อย่างไรก็ตาม เรามองว่าพรรคการเมืองที่ดีคือพรรคที่มีจุดยืนที่แข็งแรง มั่นคง ซึ่งพรรคสร้างอนาคตไทยก็เป็นเช่นนั้น
“เป้าหมายใหญ่ทางการเมืองของพรรคสร้างอนาคตไทย คือการได้นักการเมืองดี ๆ เป็นที่ยอมรับของประชาชน เป็นตัวแทนของพรรคทำงานเพื่อประชาชน พรรคต้องการเข้ามาเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมือง เป็นพรรคที่เป็นที่พึ่งของประชาชน ทั้งเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาปากท้อง เราต้องการเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนฝากความหวังไว้ว่ายังมีพรรคดี ๆ เหลืออยู่ สามารถฝากชีวิต และสามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าพรรคสร้างอนาคตไทย ไม่ได้มีปัญหาอะไร ใครหรือตัวบุคคลจะมีปัญหา เป็นเรื่องของตัวบุคคล กาลเวลาจะพิสูจน์เอง” นายสนธิรัตน์ กล่าว
ด้านนายวัชระ กล่าวว่า ตนอยู่พรรคนี้ด้วยความศรัทธา และเชื่อมั่นในผู้บริหารของพรรค และศรัทธาว่าพรรคนี้จะนำประเทศพ้นจากวิกฤต ตนกล้าประกาศได้เลยว่าพรรคสร้างอนาคตไทยมีมืออาชีพในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจอันดับหนึ่งเหนือกว่าทุกพรรค เราไม่ได้คิดเดินหน้าแค่เรื่องเลือกตั้งครั้งนี้ แต่เราวางแผนยาวไปถึงการเลือกตั้งในอีก 4 ปีข้างหน้าด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า พรรคนี้ไม่เคยมีผู้บริหารคนใดที่ประกาศอย่างเป็นทางการว่าพรรคนี้ไปต่อไม่ได้แล้ว ไม่มีกองทัพที่ล่มสลาย ใครที่พูดเรื่องนี้ก็ไปสอบถามเขาดูกันเอาเอง