ปี 58-65 ทร.ควัก 26.4 ล้านซื้อ “เสื้อชูชีพ” ก่อนเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง

จากกรณีเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางในทะเลบริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้มีกำลังพลหลายนายสูญหาย บางนายเสียชีวิต ต่อมา พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการกองทัพเรือ (ผบ.ทร.) ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า มีกำลังพลอย่างน้อย 30 นายที่ไม่มีเสื้อชูชีพ อย่างไรก็ตามมี 12 นายที่ได้รับช่วยเหลือขึ้นมา และมี 18 นายที่ยังอยู่ในทะเล ฉะนั้นการมีเสื้อชูชีพไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะรอดชีวิต จนถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความพร้อมเกี่ยวกับการจัดหาเสื้อชูชีพให้กำลังพลนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (ข้อมูลเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2565) พบว่า ระหว่างปีงบประมาณ 2558-2565 กองทัพเรือ ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง “เสื้อชูชีพ” อย่างน้อย 47 รายการ รวมวงเงิน 26.43 ล้านบาท ดังนี้ 

• ปีงบประมาณ 2565 จำนวน 2 รายการ วงเงิน 2.01 ล้านบาท
• ปีงบประมาณ 2564 จำนวน 6 รายการ วงเงิน 1.61 ล้านบาท
• ปีงบประมาณ 2563 จำนวน 4 รายการ วงเงิน 1.40 ล้านบาท
• ปีงบประมาณ 2562 จำนวน 9 รายการ วงเงิน 4.36 ล้านบาท
• ปีงบประมาณ 2561 จำนวน 8 รายการ วงเงิน 5.23 ล้านบาท
• ปีงบประมาณ 2560 จำนวน 5 รายการ วงเงิน 3.88 ล้านบาท
• ปีงบประมาณ 2559 จำนวน 5 รายการ วงเงิน 3.12 ล้านบาท
• ปีงบประมาณ 2558 จำนวน 8 รายการ วงเงิน 4.82 ล้านบาท

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเอกสารประกอบคำชี้แจงของกองทัพเรือ ในแผนงานพื้นฐานและแผนงานยุทธศาสตร์ ต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 พบว่า ส่วนใหญ่เป็นโครงการเกี่ยวกับด้านงานความมั่นคงทางทะเล และชายฝั่ง รวมถึงงานปราบปรามยาเสพติด

โดยกองทัพเรือสรุปผลการดำเนินงานที่สำคัญในปีงบประมาณ 2565 ในโครงการพัฒนาขีดความสามารถกำลังกองทัพ วงเงิน 13,031,970,200 บาท (ราว 1.3 หมื่นล้านบาท) ระบุว่า สำเร็จตามเป้าหมายไปแล้วร้อยละ 90 โดยกองทัพเรือจัดกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ทำการลดตระเวนเพื่อรักษาอธิปไตย รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล บังคับใช้กฎหมายทางทะเล และช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล