"พรเพชร" วางแนวเลือก "แคนดิเดตนายกฯ" ต้องฟอร์มรัฐบาลเกิน255เสียง

"พรเพชร" วางแนวเลือก "แคนดิเดตนายกฯ" ต้องฟอร์มรัฐบาลเกิน255เสียง

"พรเพชร" เตือน ส.ว.เทคไซด์การเมือง ระวังถูกร้องพ้นตำแหน่ง พร้อมมองแนวทางเลือก "แคนดิเดตนายกฯ" ต้องฟอร์มเสียงขั้วรัฐบาลเกิน 255เสียง ย้ำจุดยืนส.ว.คำนึงความมั่นคงการเมือง ห่วงยุบสภาอีก

         นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา  กล่าวถึงกรณีที่พบว่ามีส.ว.แสดงท่าทีสนับสนุนฝ่ายการเมือง ซึ่งใกล้กับช่วงที่จะมีการเลือกตั้งส.ส. ว่า กรณีดังกล่าวจะเป็นอันตรายกับตัวส.ว.เอง เพราะเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้วางตัวเป็นกลาง และอาจถูกดำเนินการในทางกฎหมายถึงขั้นพ้นจากตำแหน่งได้

 

           นายพรเพชร กล่าวตอบคำถามถึงกรณีที่สังคมจับตาการทำหน้าที่ของส.ว. ที่พบว่ามีการแบ่งเป็น 2 ขั้ว ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ที่เตรียมสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  ว่า สิ่งที่เขาประทับตราให้ส.ว.นั้นตนไม่ทราบ ซึ่งเขามีสิทธิคิดได้ ทั้งนี้ยอมรับว่าส.ว. หลายคนเคารพนับถือ พล.อ.ประวิตร ขณะที่การทำงาน ของพล.อ.ประยุทธ์ มีสิทธิที่ถูกคิดว่าช่วยกัน ดังนั้นอาจมีใจต่อกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับตนมองว่าส.ว.ต้องวางตัวเป็นกลาง ส่วนตนนั้นเป็นกลางเต็มที่ ที่ผ่านมาการโหวตเลือกนายกฯ ตนไม่เคยโหวตเพราะเป็นมารยาท

 

           "ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจส.ว.โหวตเลือกนายกฯ ได้ เท่าที่ฟังจากสมาชิก เขาบอกว่าต้องดูก่อนว่าหากเลือกแล้วจะมีความมั่นคงในระบบรัฐสภาหรือไม่ ผมได้ยินมาว่าส.ว.ควรเลือกให้ระบบรัฐสภาที่มี 2 สภาอยู่ได้  หากส.ว.เลือกไม่ดี ไม่ถูกต้องจะมีผลกระทบ ผมมองว่าทั้งส.ว. และส.ส.ล้วนรักประเทศชาติ อยากให้ประชาธิปไตยเดินหน้า  และให้ประเทศชาติเดินหน้า แน่นอนว่าต้องมีบางคนที่เขาผูกพันกับความต้องการอย่างไร ก็ต้องยืนตามนั้น" นายพรเพชร กล่าว 

        เมื่อถามย้ำว่า หลักเกณฑ์ที่ส.ว.จะพิจารณาในแง่ความมั่นคงคืออย่างไร นายพรเพชร กล่าวว่าหลังการเลือกตั้งเชื่อว่าจะฟอร์มรัฐบาลให้ได้เร็ว และรัฐบาลต้องมั่นคง ส่วนบทบาทของส.ว.คือ คำนึงว่าจะสร้างความมั่นคงอย่างไร เพราะหากไม่มั่นคงต้องยุบสภาอีก ดังนั้นอายุในการดำรงตำแหน่งถือว่ามีส่วน หากนายกฯที่อยู่ในพรรคการเมืองได้เสียง 250 -255 เสียงแล้วได้เสียง จากส.ว. โหวต อาจไม่มั่นคงเท่าไรนัก  ดังนั้นทางที่ดีส.ส.ต้องได้จำนวนเยอะ ส่วนส.ว.ช่วยด้วยส่วนหนึ่ง

 

          "ส่วนวาระของพล.อ.ประยุทธ์ หากได้มาเป็นนายกฯอีกจะเหลือไม่ถึง 2 ปี ผมไม่มั่นใจว่า จะมี 2 ปี หรือ 4 ปี ไม่ขอสมมติ ต้องรอดูการฟอร์มรัฐบาลก่อนอีกครั้ง หากส.ส.ฟอร์มเกิน 250 เสียง ต้องตระหนัก และเป็นส่วนที่พิจารณาว่าโครงสร้างของการฟอร์มรัฐบาลนั้น ส.ว.จะพอใจหรือไม่ ไม่เช่นนั้นอาจจะวุ่นก็ได้" นายพรเพชร กล่าว 

        เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่ส.ว.จะเลือกแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย นายพรเพชร กล่าวว่า ตอบไม่ได้ เพราะมีคนเลือกอยู่ทุกพรรค และไม่รู้ว่าใครจะลงสมัครแข่งขันบ้าง ตอนนี้เห็นแต่พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ทั้งนี้ยอมรับว่าตอนโหวตเลือกนายกฯ เสียงส.ว.อาจไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เสียงไม่ 100% เพราะความคิดของแต่ละคนนั้นตนตอบไม่ได้ 

 

         เมื่อถามย้ำว่าหากฝ่ายค้านปัจจุบันฟอร์มส.ส.ได้มากกว่า จะเลือกคนของฝ่ายค้านหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า "จะสมมติมาผมตอบไม่ได้ ไม่รู้ที่มาว่าจะรวมกันอย่างไร  แต่ และจะไปบอกว่าเขาเป็นฝ่ายค้านปัจจุบันไม่ได้ เพราะพร้อมจะเป็นรัฐบาลทั้งนั้น ซึ่งในความเห็นส่วนตัวตนจะดูลักษณะการรวมตัวของพรรคต่างๆเหล่านั้น มีความมั่นคง  แต่ไม่แน่ใจคือผู้มีบารมีตัวจริงหรือไม่"

 

         เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร ที่ผ่านมา นายพรเพชร กล่าวว่า "ที่ผ่านมาในการทำงานไม่เคยมีคำสั่งอะไร ส่วนพล.อ.ประยุทธ์พูดคุยกันธรรมดาไม่มีการเมือง ส่วน พล.อ.ประวิตร ไม่คุยด้วยหรอก เพราะท่านไม่คุย"