7 ปีมือปราบมาเฟียกองสลาก "เสธ.หนุน" น้องรัก "บิ๊กแดง" คว้าเกียรติยศจักรดาว

ครบรอบ 65 ปี วันคล้ายวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร (ตท.) พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี​ และรมว.กลาโหม เป็นประธานพร้อมมอบรางวัลเกียรติยศจักรดาว  ประจำปี 2566 

สำหรับปีนี้มีผู้ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศจักรดาว ประจำปี 2566 รวมทั้งสิ้น 11 ท่าน โดยหนึ่งในนั้น มีชื่อ "เสธ.หนุน" พันโท หนุน  ศันสนาคม  ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ

"เสธ.หนุน" เคยศึกษามัธยมโรงเรียนจิตรลดาโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 30 (ตท.30) นักเรียน จปร. 41 ต่อมาจบการศึกษาระดับปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และเป็น น้องรัก "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองเลขาพระราชวัง 

โดยได้รับการแต่งตั้งเป็นราชองครักษ์ปี 2551-2558 ปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัยและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์

จากนั้นเข้ามาช่วยงาน คสช. โดยเป็นฝ่ายเสนาธิการประจำฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมคณะรักษาความสงบแห่งชาติทำงานเกี่ยวกับการกลั่นกรองเอกสารให้กับหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย

ก่อนจะได้รับแต่งตั้งเป็นคณะอนุกรรมการติดตามและเร่งรัดการดำเนินการด้านกฎหมายในกระบวนการนิติบัญญัติ ทำงานเกี่ยวกับการกลั่นกรองและผลักดันพระราชบัญญัติต่างๆให้เข้าสู่กระบวนการเพื่อให้มีผลบังคับใช้

ต่อมาเป็นฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาทำหน้าที่กลั่นกรองเอกสารให้กับ"บิ๊กแดง" สมัยเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก 

กระทั่งปี 2561 "เสธ.หนุน" ได้รับแต่งตั้งเป็น รองผู้อำนวยการ ระดับ 10 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่นั้น ได้ทำตามแก้ไขปัญหาในสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในหลายๆเรื่องให้เป็นที่ประจักษ์โดยเฉพาะในช่วงปี 2559 และ 2560 ทำให้ การแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นผลงานของรัฐบาลคสชที่ประชาชนรับรู้ได้ถึงการแก้ไขปัญหาเป็นที่ลำดับที่ 1 และลำดับที่ 2 ตามลำดับตามผลสำรวจของ รัฐบาล คสช.
ในคณะนั้น

โดยเป็นผู้วางรากฐานจัดทำแนวทางในการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาโดยได้จัดทำเป็นแผนตาม Road Map 3 ระยะที่ใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้ อีกทั้งทำให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้เข้ารับเป็นลำดับที่ 1 ตั้งแต่พ.ศ 2559 จนมาถึงปัจจุบันเป็นเวลา 7 ปีติดต่อกันโดยมีการดำเนินการที่สำคัญได้แก่

การปรับสัดส่วนเพิ่มกำไรให้กับตัวแทนจำหน่ายโดยเพิ่มสัดส่วนให้จากเดิม 7% ได้กำไรฉบับละ 5.60 บาท ปรับเป็น 12% ได้กำไรฉบับละ 9.60 บาทเพื่อให้ตัวแทนรายย่อยมีกำไรมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงดังวันฉลาดโดยปรับรางวัลเลขท้าย 3 ตัวจาก 4 รางวัลเปลี่ยนเป็นรางวัลเลขท้าย 3 ตัว 2 รางวัลเลขรางวัลเลขหน้า 3 ตัว 2 รางวัลเพื่อแก้ปัญหาเรื่องฉลากเร่งไม่สวยขายไม่หมด

การเปิดเสรีในการขายสลากให้กับผู้ค้าสลากรายย่อยโดยการพัฒนาระบบจำหน่ายสลากจัดให้มีโครงการซื้อจองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านธนาคารกรุงไทยควบคู่ไปกับระบบจำหน่ายผ่านตัวแทนระบบเดิมทำให้สามารถมีสลามกระจายไปทั่วประเทศผู้ค้าสลากเข้าถึงตลาดได้ในราคาทุนโดยตรงไม่ต้องผ่านคนกลางอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

การปรับรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลจากเดิมเป็นแบบฉบับคู่ฉบับละ 40 บาทเปลี่ยนเป็นฉบับเดียวฉบับละ 80 บาทเพื่อลดต้นทุนในการผลิต

อีกทั้งยังเป็นประธานคณะกรรมการบริหารจัดการฉลากทำหน้าที่การแก้ไขปัญหาในเรื่องราคาสลากโดยเฉพาะจากการเก็บข้อมูลโดยตรงในการลงพื้นที่จริงทั้งตลาดข้างสสรตลอดแยกคอกวัวกรุงเทพฯตลาดวังสะพุงจังหวัดเลยตลอดจนทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ  ให้ได้ข้อมูลครบถ้วนและเป็นจริงที่สุดรวมทั้งยกเลิกระบบโควต้าของนิติบุคคล (5 เสือกองสลาก) ที่ไม่ใช่หน่วยงานองค์กรมูลนิธิที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับผู้พิการและผู้ด้อยโอกาสจำนวนกว่า 800 นิติบุคคลตลอดจนปรับระบบโควต้ารายย่อยให้เหลือรายละ 5 เล่มเท่ากับหมดทุกคน

จากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลพ.ศ 2561 ถึงพ.ศ 2564 รับผิดชอบในหลายหน่วยงานของสสรจึงทำให้มีความรู้ความเข้าใจและมีประสบการณ์ในธุรกิจและสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นอย่างดี ตลอดจนทราบถึงวิสัยทัศน์ภารกิจแผนงานข้อบังคับกฎระเบียบต่างๆและมีความคุ้นเคยกับผู้บริหารพนักงานตลอดจนวัฒนธรรมขององค์กรของ สสร.เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการบริหารกิจการของ สสร.ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องประกอบกับเคยรับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ทหารมาก่อนจึงสามารถมีเครือข่ายในการสนับสนุนการปฏิบัติงานของ สสร.ได้

ต่อมาได้รับการคัดเลือกเป็นผู้อำนวยการสำนักงานกองสลากกินแบ่งรัฐบาลเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2561 จนถึงปัจจุบันได้กำหนดแผนการแก้ไขปัญหากองสลากเกินราคาได้ชัดเจนจนเป็นที่ประจักษ์ทำให้ผู้บริโภคไม่ถูกเอาเปรียบอีกต่อไปโดยมีแผน 3 ระยะได้แก่

ระยะสั้นได้กำหนดจุดจำหน่ายสลากราคา 80 บาทขึ้นทุกจังหวัดทั่วประเทศจำนวน 1,000 จุด

ระยะกลางจัดทำโครงการขายฉลากผ่านระบบ platform หรือสลากดิจิตอลโดยใช้ App กระเป๋าตังค์ถุงเงินซึ่งนอกจากจะทำให้การแก้ไขปัญหาสลากเป็นไปแบบยั่งยืนถาวรแล้วยังเป็นก้าวแรกในการเปลี่ยนถ่ายไปสู่ระบบดิจิทัลครั้งแรกตั้งแต่มีการก่อตั้งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 2482 

ระยะยาวโครงการจัดให้มีผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่เพิ่มเติมจากสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จำหน่ายในปัจจุบันซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคและจะเป็นการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาอย่างสมบูรณ์ในที่สุด