ป้ายพีอาร์ “อนุทิน” นอกกติกา 180 วัน วัดบรรทัดฐาน "กฎเหล็ก กกต."

กลายเป็นเรื่อง “น้ำผึ้งหยดเดียว” ไปซะแล้ว กรณีปรากฎป้ายประชาสัมพันธ์โครงการของขวัญปีใหม่ ปี 2566 โรงพยาบาลและหน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐทั่วประเทศ โดยมีภาพของ "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ปรากฎอยู่ภายในแผ่นประชาสัมพันธ์ดังกล่าว โดยในการติดตั้งป้ายดังกล่าวมีคำสั่งทางราชการไปยังทุกหน่วยงานให้ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์

ทำเอา “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย เตรียมยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต.ชุดปัจจุบันว่า การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายขัดกับช่วง “กฎเหล็ก” 180 วันก่อนสภายุบวาระที่ กกต.เคยออกหลักเกณฑ์มาก่อนหน้านี้หรือไม่

สาระสำคัญของ “กฎเหล็ก” ดังกล่าวคือ การห้ามมิให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รัฐมนตรี ส.ส. หรือข้าราชการ ใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง

ขณะเดียวกัน “สมชัย” ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า บุคลากร สธ.ที่ออกแอ็คชั่นเรื่องนี้แทน “นาย” คือ “ผู้ตรวจราชการ สธ.” บางคน ต้นคิดไอเดียในการนำภาพ “เสี่ยหนู” มาอยู่บนป้ายประชาสัมพันธ์ดังกล่าว จึงอาจเข้าข่าย “วางตัวไม่เป็นกลาง” ตามกฎเหล็ก 180 วันของ กกต.เช่นเดียวกัน

สมชัย ระบุด้วยว่า หากกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่มีการแก้ไขให้ถูกต้อง จะยื่นเรื่องต่อ กกต. พร้อมหลักฐาน การขอให้มีการดำเนินการตรวจสอบการจัดทำป้ายของข้าราชการประจำดังกล่าว และหาก กกต.เห็นว่า เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม จะต้องให้หน่วยงานต้นสังกัดสั่งสอบทางวินัย และย้ายออกจากตำแหน่งหน้าที่จนกว่าจะพ้นการเลือกตั้ง โดยยืนยันว่า การยื่นเรื่องครั้งนี้ จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อสร้างบรรทัดฐานการทำงานของ กกต.

เช่นเดียวกับ “เพื่อไทย” ออกมาเขย่าประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน โดย “ตรีชฎา ศรีธาดา” รองโฆษกพรรคเพื่อไทย บี้ กกต.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นกัน 

โดยเห็นว่า การมีรูปของนายอนุทินปรากฏอยู่ในภาพเป็นการใช้งบประมาณ และบุคลากรของรัฐในการหาเสียงหรือไม่ และถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบเพื่อเป็นคุณแก่พรรคของตนและผู้สมัครของพรรคตน อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่

อย่างไรก็ดี “อนุทิน” เคยชี้แจงเรื่องนี้ผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์” ว่า เป็นเรื่องปกติของการโฆษณาหน่วยงานรัฐ หรือโฆษณาหน่วยงานใด ๆ ที่จำเป็นต้องมีแบรนด์แอมบาสเดอร์

ส่วน นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11) และโฆษก สธ. ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า การใช้ภาพอนุทินบนป้าย เพราะเป็นผู้คิดนโยบายขึ้นมาถือเป็นพรีเซนเตอร์ ไม่ได้คิดว่าเป็นการหาเสียงให้ใคร แต่ดึงมาเป็นพรีเซนเตอร์ในฐานะเจ้าของไอเดีย

โดยป้ายที่ติดตามโรงพยาบาลต่าง ๆ กระทรวงสาธารณสุขต้องการนำเสนอว่า ปีนี้มีบริการที่ดี เป็นเรื่องสำคัญ มีประโยชน์มากสำหรับดูแลผู้สูงวัย เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัวแล้ว จึงต้องสื่อสารว่าทางกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้นิ่งดูดาย แต่มีแผนการต่าง ๆ รองรับ การจะทำการแต่ละเรื่องไม่ใช่ว่ารัฐมนตรีสั่งมาแล้วจะทำได้เลย แต่มีหลายฝ่ายช่วยกันกลั่นกรอง เพื่อให้ออกมาดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

เงื่อนปมของเรื่องนี้จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่า

1.ผู้ตรวจราชการ สธ.คนต้นคิด “ไอเดีย” ดังกล่าวเป็นใคร แล้วไฉนจึงต้องใช้ภาพ “อนุทิน” ถึงแม้ว่าจะเป็น “รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง” แต่หมวกอีกใบคือ “หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย” ซึ่งการทำป้ายดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงรอยต่อก่อนการเลือกตั้ง 2566 และ “กฎเหล็ก” 180 วันก่อนสภาครบวาระมีผลบังคับใช้อยู่ การกระทำดังกล่าวของข้าราชการถือว่าเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่อย่าง “ไม่เป็นกลาง” ในทางการเมืองหรือไม่

2.กรณี “อนุทิน” ที่ปรากฏภาพบนป้ายประชาสัมพันธ์ดังกล่าว ถือว่าเข้าข่ายเป็นการใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อผลประโยชน์ในทางการเมืองหรือไม่

สองเงื่อนปมนี้คือ “เผือกร้อน” ที่ กกต.จำเป็นต้องเข้าไปตรวจสอบ และชี้แจงข้อเท็จจริงแก่สาธารณชนให้ทราบโดยด่วน เพราะหากยังไม่รีบร้อนทำอะไร อาจเห็นการขึ้นป้ายของ “รัฐมนตรี” และ “นักการเมือง” อีกหลายคนในลักษณะเดียวกันอีกได้

กลายเป็นอีกประเด็นที่วัด “บรรทัดฐาน” ของ กกต.ชุดนี้ว่าทำงานอย่าง “สุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม” จริงหรือไม่