"นิกร" ชี้ แก้ รธน. ทางออก กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ผุดงบ 10 ล้าน ให้ อปท.

"นิกร" ชี้ แก้ รธน. ทางออก กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ผุดงบ 10 ล้าน ให้ อปท.

"นิกร" ชี้ แก้ รธน. ทางออก กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น "ผู้บริหาร" ต้องมาจากเลือกตั้ง ผุดงบ 10 ล้าน ให้ อปท. ดูแลประชาชน - ลงทุน

22 มี.ค.2566 นายนิกร จำนง ประธานกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวตอนหนึ่งในวงเสวนาบทบาทท้องถิ่นกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่ กรุงเทพธุรกิจ จัดขึ้นว่า การกระจายอำนาจให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นอุดมการณ์ของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่เผยแพร่ใน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงนโยบายในการหาเสียงเท่านั้น แต่เป็นอุดมการณ์ เป็นคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ประชาชน แต่การที่จะดำเนินการดังกล่าวต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นฉบับของประชาชนไปก่อนโดยใช้ "บรรหารโมเดล" ที่เคยทำสำเร็จมาแล้วปี 2540 เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2560 เป็นตัวล็อกเอาไว้ เราจะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การให้ประชาชนมีอำนาจในการออกกฎหมายแม่ ทำรัฐธรรมนูญให้เป็นฉบับของประชาชนให้อำนาจประชาชนพิจารณา ถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นน้ำในเรื่องของการกระจายอำนาจ 

ทั้งนี้ นายนิกร ยกตัวอย่าง บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ 2560 ในเรื่องของกระจายอำนาจไปสู่ อปท.ที่ขาดหายไป ขณะที่ ฝ่ายบริหารมาจากกระทรวงมหาดไทย ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง 

ในขณะที่การส่งเสริม อปท.ที่ยากจนให้ได้รับงบประมาณ ปัจจุบันมีความเหลื่อมล้ำถือเป็นปัญหาสำคัญ โดยพรรคมีนโยบายให้งบประมาณตั้งต้น 10 ล้านบาทกับ อปท.ในการดูแลประชาชน การลงทุน การพัฒนาการถนน หรืออาจจะขยายเป็นโรงงานไฟฟ้าส่วนท้องถิ่นในอนาคต

นายนิกร ยังเห็นด้วยกับกฎหมายปัจจุบันที่กำหนดวาระผู้บริหารท้องถิ่นไม่เกิน 2 สมัยหรือ 8 ปี เพราะเป็นส่วนที่ใกล้ชิดกับประชาชนต้องมีการเว้นวรรคเพื่อป้องกันการสร้างอิทธิพล แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้เป็นต่ออีกครั้งยังเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงานท้องถิ่นถือเป็นทางเลือก ซึ่งในต่างประเทศก็มีการดำเนินการเช่นนี้เมื่อบริหารงานครบ 8 ปีก็ต้องเว้นวรรค เช่นประธานาธิบดีสหรัฐ

แต่มองว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในหมวดที่ 14 ที่ไม่ได้อำนาจกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นจริง ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นน้ำส่วนกฎหมายอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหา

นอกจากนี้ อยากเห็นด้วยในเรื่องของการลดขนาดส่วนภูมิภาค ให้ทำหน้าที่เป็นเพียงตัวเชื่อมระหว่าง ส่วนกลางกับส่วนภูมิภาค ส่วนการยกเลิกนั้นค่อยพิจารณาต่อไปในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้มองว่านักการเมืองท้องถิ่นเป็นเครื่องมือของนักการเมืองระดับชาติแต่การทำงานถือว่ามีความเชื่อมโยงกันเพราะไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองระดับท้องถิ่นหรือนักการเมืองระดับชาติล้วนแต่มาจากประชาชนทั้งนั้น
ในขณะเดียวกันตนให้เกียรตินักการเมืองระดับท้องถิ่นเพราะใกล้ชิดประชาชนมากกว่าในขณะที่ระดับประเทศดูเรื่องกฎหมายนโยบายเป็นหลัก ยกเว้นในกรณี เปิดการกระจายอำนาจไม่เต็มรูปแบบก็จะทำให้นักการเมืองระดับชาติ มีอิทธิพล และควบคุมนักการเมืองระดับท้องถิ่นได้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์