“ชทพ.” ดันภาคการเกษตร ใช้ระบบ EFC แช่แข็งผลไม้ขายนอกฤดูกาลเพิ่มมูลค่า

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2566 เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2566 ที่ศาลากลางเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี "เครือเนชั่น" จัดเวทีดีเบตนโยบายหาเสียง ฟังนโยบายภาคตะวันออก เชิญแกนนำพรรคการเมืองร่วมเวทีภายใต้โครงการ “Road to The Future : เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย” ถ่ายทอดสดผ่าน "เครือเนชั่น" โดยมีตัวแทนจาก 8 พรรคการเมืองเข้าร่วมดีเบตครั้งนี้ 

ผศ.ดร.สันติ กีระนันทน์ กรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า พรรค ชทพ.ไม่เชื่อเรื่องลดแลกแจกแถม ไม่เชื่อเรื่องประชานิยม ว่าประชาชนได้อย่างยั่งยืน ก่อนอื่นต้องพูดเศรษฐกิจภาคตะวันออก ที่พ่วงมากับ EEC นอกจากภาคอุตสาหกรรม ยังมีภาคตะวันออกมีผลไม้มากมาย เกษตรกรภาคตะวันออก ยืนอยู่บนการเลี้ยงชีพแบบเกษตรกรรม ภาคตะวันออกมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ชทพ. เชื่อว่าต้องส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน กระจายรายได้ให้คนในพื้นที่อย่างแท้จริง ปัญหาที่สะสมประมงชายฝั่ง ชทพ.เป็นหัวหอก แก้ไขปลดล็อก และเราจะทำการฟื้นฟูการประมงชายฝั่งให้เกิดความยั่งยืนต่อไป

ผศ.ดร.สันติ กล่าวอีกว่า ภาคตะวันออกเป็นเครื่องยนต์สำคัญขับเคลื่อน รายได้ของภาคตะวันออกสูงสุดในทุกภูมิภาค สัดส่วนสร้างได้ 65% อุตสาหกรรม 29% ภาคบริการ อีก 6% มาจากเกษตรกรรม EEC ไม่ใช่เรื่องใหม่ของ ชทพ. เพราะตั้งแต่ปี 2532 นายบรรหาร ศิลปอาชา รมว.อุตสาหกรรม ยุคนั้น ผลักดันให้เกิด Eastern Seaboard แต่ EEC แตกต่างออกไป เพราะผลักดันให้อุตสาหกรรมมูลค่าสูง เช่น นวัตกรรม ดิจิทัลอีโคโนมี่ ไม่ใช่แค่พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา หรือรถไฟความเร็วสูงเชื่อม โดย ชทพ. จะสานต่อให้เกิดขึ้นจริง ไม่คั่งค้างอย่างในปัจจุบัน

ผศ.ดร.สันติ กล่าวด้วยว่า ส่วนในภาคเกษตรกร ชทพ.จะผลักดันให้เกิด Eastern Fruit Corridor (EFC) มาสร้างห้องเยือกแข็ง ถนอมสภาพผลไม้ ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน มังคุด ขายได้นอกฤดูกาล นำมูลค่าสูงให้แก่เกษตรกร สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เห็นว่า EEC และ EFC ชทพ. เข้าใจลึกซึ้ง และจะผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป ขณะที่กฎหมายเกี่ยวกับประมง มีการแก้ไขในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) ของสภาฯ เรียบร้อยแล้ว รอรัฐบาลใหม่มาทำต่อ แต่แค่นั้นไม่พอ จะกำหนดให้ประมงชายฝั่งไม่ทำลายทรัพยากรทางทะเลด้วย เพราะทรัพยากรท่องเที่ยวเป็นของคนไทย ต้องเกิดประโยชน์ต่อคนไทย ไม่ใช่ทุนต่างชาติมาใช้ทรัพยากรไทยหากินบนแผ่นดินไทยอีกต่อไป ต้องให้คนเก่งพาประเทศไทยไปสู่ยุคใหม่ โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา ได้รับการยอมรับไม่เพียงในประเทศ แต่นานาชาติยอมรับว่าเป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดีสุดในโลก