รู้จัก ITV ตำนานสื่อไทย ชนวน “พิธา” โดนร้อง ส่อตายน้ำตื้น

รู้จัก ITV ตำนานสื่อไทย ชนวน “พิธา” โดนร้อง ส่อตายน้ำตื้น

ทำความรู้จัก “ITV” ยักษ์หลับอดีตตำนานสื่อไทย ปั้นผู้ประกาศข่าว-ผู้ดำเนินรายการดังมาแล้วมากมาย พีคสุดช่วง “ชินคอร์ปฯ” ถือหุ้นใหญ่ ยุค “ทักษิณ” นั่งนายกฯ ก่อนล่มสลายหลังติดหนี้รัฐกว่าแสนล้าน โดนยึดสัมปทานกลับคืน ปัจจุบัน “อินทัช โฮลดิ้งส์” ถือหุ้นใหญ่สุด

ITV อดีตสื่อยักษ์ใหญ่ในตำนานของเมืองไทย กำลังทำพิษใส่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เข้าเต็มเปา

พลันที่ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” หนึ่งในนักร้องชื่อดัง เตรียมหอบหลักฐานยื่นเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบ หลังพบข้อมูลว่า “พิธา” ปรากฏรายชื่อเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)

“เรืองไกร” โชว์เอกสารจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ข้อมูลเมื่อ 7 เม.ย. 2566 พบว่า “พิธา” ยังคงเป็นผู้ถือหุ้น ITV ของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ในลำดับที่ 6,121 เลขทะเบียนผู้ถือหลักทรัพย์ 4030954168 ที่อยู่ 98/26 อาคารซิลเวอร์เฮอริเทจ ซ.สุขุมวิท 38 ถ.สุขุมวิท พระโขนง คลองเตย 10110 สัญชาติ ไทย จำนวน 42,000 หุ้น

รู้จัก ITV ตำนานสื่อไทย ชนวน “พิธา” โดนร้อง ส่อตายน้ำตื้น

สำหรับ ITV คือบริษัทเอกชนที่ทำธุรกิจผลิตสื่อโทรทัศน์ โดยเคยได้สัมปทานจากภาครัฐตั้งแต่ปี 2542 ให้ออกอากาศผ่านสัญญาระบบ ยูเอชเอฟ ต่อมาปี 2543 กลุ่มบริษัท “ชินคอร์ปฯ” ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ได้เข้ามาถือครองหุ้นด้วยวงเงินกว่า 1.6 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนราว 39% หลังจากนั้น “ชินคอร์ปฯ” ดำเนินการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ กระทั่งกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท และส่งผู้บริหารเข้ามาบริหาร ITV ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับก่อนการเลือกตั้งปี 2544 ที่ “ทักษิณ” ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย

โดยการบริหารสถานีโทรทัศน์ ITV ในช่วงที่ “ชินคอร์ปฯ” ถือหุ้นใหญ่ โดย “ทักษิณ” เป็นนายกฯ และพรรคไทยรักไทยคือแกนนำรัฐบาลนั้น ถูกหลายฝ่าย รวมถึงสื่อมวลชนบางส่วนวิพากษ์วิจารณ์ว่า ถูกปิดกั้นการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร “ด้านลบ” ที่เกี่ยวกับรัฐบาล และผู้นำประเทศ กระทั่งมีการปลดนักข่าว และผู้ประกาศข่าวหลายราย อ้างว่าประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่อง จนเกิดกรณี “กบฏไอทีวี” โดยกลุ่มนักข่าว 21 ราย ที่ถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม ยื่นฟ้องต่อศาลขอให้เพิกถอนคำสั่ง กระทั่งปี 2548 ศาลพิพากษาให้ชนะคดี

การสิ้นสุดของ ITV เกิดขึ้นเมื่อปี 2550 ในช่วงที่เกิดปัญหาประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก และติดค้างชำระค่าสัมปทานกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีกว่า 1 แสนล้านบาท แต่ ITV ไม่มีเงินชำระค่าสัมปทาน จนถูกรัฐบาลยึดสัมปทานกลับคืน และโอนย้ายกิจการไปสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ และองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย กระทั่งมีการเปลี่ยนชื่อจาก ITV เป็น “ไทยพีบีเอส” อย่างที่รู้จักกันในปัจจุบัน

ทั้งนี้ในปี 2557 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีมติให้เพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทฯที่เคยทำการซื้อขาย ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำให้บริษัทฯต้องพ้นจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนใน ตลท. แต่บริษัทยังคงดำเนินกิจการอยู่จนถึงปัจจุบัน

คุณูปการของ ITV คือสถานีโทรทัศน์ที่ปลุกปั้น “คนข่าว” ชื่อดังจำนวนมาก หลายรายยังคงเป็นผู้ประกาศข่าว หรือผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ บางรายเข้าสู่แวดวงการเมือง และได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.

ข้อมูลเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2566 บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) แจ้งข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุประเภทธุรกิจที่ส่งงบการเงินปีล่าสุดคือ กิจกรรมการเผยแพร่ภาพยนตร์วีดิทัศน์และรายการโทรทัศน์ วัตถุประสงค์ สื่อโทรทัศน์

บริษัทแห่งนี้ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2541 ทุนปัจจุบัน 7.8 พันล้านบาท (ชำระแล้ว 6,033,487,000 บาท) ตั้งอยู่ที่ 87 อาคารเอ็มไทย ทาวเวอร์ ชั้นที่ 27 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ปรากฏชื่อกรรมการดังนี้

  • นายคิมห์ สิริทวีชัย
  • นายจิตชาย มุสิกบุตร
  • นายเมโธ เปี่ยมทิพย์มนัส
  • นางสาวธัญลักษณ์ บัวทอง
  • นางรัตนาพร นามมนตรี

นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 27 เม.ย. 2565 จำนวนรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 25 ราย (70% ของทุนจดทะเบียน ส่วนที่เหลืออีก 30% คือผู้ถือหุ้นรายย่อย) พบว่า มีบุคคล/นิติบุคคลสัญชาติไทย ถือ 20 ราย อเมริกัน 1 ราย สหราชอาณาจักร 3 ราย ไต้หวัน 1 ราย สิงคโปร์ 2 ราย จีน 1 ราย และฮ่องกง 1 ราย

  1. บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่สุด 638,602,846 หุ้น มูลค่า 3,193,014,230 บาท คิดเป็น 52.9215% 
  2. GOLDMAN SACHS AND CO LLC (สัญชาติอเมริกัน) ถือรองลงมา 4.0375% 
  3. นายณฤทธิ์ เจียอาภา 2.2067%
  4. NORTRUST NOMINEES LIMITED (สัญชาติสหราชอาณาจักร) 1.9157%
  5. บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อผู้ฝาก 1.4384%
  6. นาง MEI LEE (สัญชาติไต้หวัน) 1.2253%
  7. บริษัท แสงเอ็นเตอร์ไพรส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด 0.8288%
  8. นายวินัย คล่องประกิจ 0.6772%
  9. UOB KAY HIAN PRIVATE LIMITED (สัญชาติสิงคโปร์) 0.5880%
  10. นายวิรัตน์ คล่องประกิจ 0.4144%
  11. นาย HSING-CHUNG YEN (สัญชาติจีน) 0.3920%
  12. THE BANK OF NEW YORK (NOMINEES) LIMITED (สัญชาติสหราชอาณาจักร) 0.3130%
  13. บริษัท ออนไลน์ นิวส์ จำกัด 0.3108%
  14. นางสุวรรณี จิตอนันตพร 0.3000%
  15. นายบรรจง ชัยวิริยะวงศ์ 0.2910%
  16. นายนที ศิระวัฒน์ 0.2900%
  17. นายคงศักดิ์ วงศ์ศักดิ์วานิช 0.2882%
  18. CITI (NOMINEES) LIMITED-S.A PBG CLIENTS SG (สัญชาติฮ่องกง) 0.2787%
  19. นายพงษ์ศักดิ์ วชิรศักดิ์พานิช 0.2486%
  20. นายวินัย วีระภุชงค์ 0.2486%
  21. นายสง่า ไชยจรูญโชติ 0.2486%
  22. นายสมชาย อมรรัตนชัยกุล 0.2354%
  23. บริษัท แอ็ลไลแอนซ์ จำกัด 0.2320%
  24. EAST FOURTEEN LIMITED-EMERGING MARKETS SMALL CAP SERIES (สัญชาติสหราชอาณาจักร) 0.2308%
  25. นายพรสิทธิ์ เจนดิษฐการ 0.2279%

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีสินทรัพย์รวม 1,270,457,704 บาท หนี้สินรวม 2,894,513,831 บาท มีรายได้รวม 22,993,678 บาท รายจ่ายรวม 10,248,139 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 11,865 บาท เสียภาษีเงินได้ 2,556,611 บาท กำไรสุทธิ 10,177,063 บาท

สำหรับบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มีบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่สุด 41.19%

โดย ITV ปัจจุบันมีบริษัทลูกคือ บริษัท อาร์ตแวร์ มีเดีย จำกัด ทุนปัจจุบัน 25 ล้านบาท ทำธุรกิจกิจกรรมของบริษัทโฆษณา ปรากฏชื่อกรรมการดังนี้     

  • นายคิมห์ สิริทวีชัย
  • นายจิตชาย มุสิกบุตร
  • นายเมโธ เปี่ยมทิพย์มนัส

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2564 มีรายได้รวม 701 บาท มีรายจ่าย 50,080 บาท ขาดทุนสุทธิ 49,379 บาท

รู้จัก ITV ตำนานสื่อไทย ชนวน “พิธา” โดนร้อง ส่อตายน้ำตื้น

ล่าสุด “พิธา” โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ชี้แจง “เผือกร้อน” กรณีนี้ ยืนยันว่า หุ้นดังกล่าวไม่ใช่ของตัวเอง แต่เป็นของกองมรดก ที่ตนเป็นผู้จัดการมรดก และเรื่องนี้อาจมีเจตนาสกัดพรรคก้าวไกล

“ต่อกรณีหุ้น ITV ผมไม่มีความกังวลเพราะ ไม่ใช่หุ้นของผม เป็นของกองมรดก ผมเพียงมีฐานะเป็นผู้จัดการมรดก และได้ปรึกษาและแจ้งต่อ ป.ป.ช. ไปนานแล้ว ทีมกฎหมายพร้อมเตรียมการชี้แจงอยู่แล้วเมื่อ กกต.ส่งคำร้องมา เรื่องนี้อาจมีเจตนาสกัด #พรรคก้าวไกล ซึ่งไม่ต้องการเห็นการ #ทลายทุนผูกขาด ในประเทศนี้” พิธา ระบุ

ท้ายที่สุดเงื่อนปมนี้จะจบลงอย่างไร ซ้ำรอย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” กรณีถือครองหุ้นสื่อ “วีลัค มีเดีย” หรือไม่ ต้องติดตามการวินิจฉัยจาก กกต.กันต่อไป