ส่องนโยบาย 6 พรรค เรื่อง 'อาหารเพื่อสุขภาพเด็ก' นักวิชาการติง ยังไม่พอ
นักวิชาการ มองนโยบาย6พรรค ด้านสวัสดิการ ส่งเสริมสุขภาพเด็ก ย้ำ นมฟรี-อาหารฟรีไม่พอต้องดูแลความปลอดภัย-วัตถุดิบปลอดสารเคมี
จากข้อมูลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ และยูนิเซฟ ปี2562 พบเด็กไทย 0-5 ปี ประมาณกว่า 4 แสนคน คิดเป็น 13% มีภาวะขาดโภชนาการ เตี้ย-แคระ- แกร็น สถิติที่พบสวนทางกับการประกาศเป็นประเทศผู้ผลิตอาหารของโลก และประเทศที่ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารเป็นอันดับที่ 13 ของโลก
ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนหย่อนบัตรเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. 2566 พามาดูนโยบายของพรรคการเมือง ที่เป็นสวัสดิการโดยเฉพาะ สวัสดิการด้านสุขภาพเด็ก
- “ก้าวไกล”เพิ่มงบอาหารกลางวัน 30 บาท
มีนโยบายจัดงบประมาณให้กับเด็กแรกเกิดทุกราย 3,000 บาท ขณะที่เด็กเล็กจะได้ 1,200 บาทต่อเดือน และทำทั้งระบบ เพื่อให้การเลี้ยงดูเด็กง่ายขึ้น เช่น การให้สิทธิลาคลอด 180 วัน รวมไปถึงการตั้งศูนย์ดูแลเด็กอ่อนของรัฐ
นอกจากนั้น งบ อปท. ที่ต้องการสร้างศูนย์ดูแลเด็กเล็ก มีการแก้กฎหมายเกี่ยวกับอาคารสำนักงานเพื่อให้จัดห้องสำหรับดูแลเด็กเล็ก ส่วนผู้สูงอายุ จะต้องแก้ระบบบำนาญให้ครอบคลุมคนทั้งประเทศ โดยให้เงินผู้สูงวัยเดือนละ 3,000 บาท ให้แบบขั้นบันได ปีแรก 1,000 บาท เพื่อให้เวลาในการจัดทำงบประมาณ
ส่วนเรื่องอาหารกลางวัน จัดงบต่อหัวเป็น 30 บาทต่อคนต่อวัน ครอบคลุมไปถึงในระดับมัธยมศึกษา
- "ประชาธิปัตย์" นมโรงเรียนฟรี
สานต่อนโยบาย นมโรงเรียนฟรี 365 วัน และอีก4นโยบายที่สานต่อ คือ อาหารกลางวันฟรี, เรียนฟรี, รักษาฟรี และ สนับสนุนเงินดูแลเด็ก 0-6 ขวบ เดือนละ 600 บาท
“พรรคเพื่อไทย” อาหารกลางวันฟรี
เพิ่มงบอาหารกลางวันและให้บริการรับส่งนักเรียนฟรี พร้อมสนับสนุนนโยบายเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า ในอัตรา 3,000 บาทต่อเดือน และมีนโยบาย “ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านขั้นตอน Learn to Earn” เด็กสามารถเข้าสู่การเรียนรู้ได้ทุกช่วงวัย
"ภูมิใจไทย" ชูอาหารอินทรีย์เพื่อสุขภาพเด็ก
แสดงจุดยืนกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อเป้าหมายเรื่องนี้เพื่อเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ 1.จัดสรรงบประมาณให้เกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ 2.กำหนดให้ธนาคารของรัฐสนับสนุนเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ 3.จัดสรรงบประมาณและการสนับสนุนทางการเงินแบบอื่นๆจากรัฐบาลให้กับหน่วยงานราชการอื่นซึ่งไม่ไม่เกี่ยวกับกระทรวงเกษตรฯ
"ไทยสร้างไทย" แจกคูปองซื้อนม อาหาร 3 พันบาท
มีนโยบายซื้อคูปองซื้ออาหารนม อาหารคุณภาพคนละ 3,000 บาทต่อดือน สำหรับอาหารเด็กแรก0-6 ปี ส่วน 6-14 ปี ในวัยเรียน อาหารกลางวัน นมโรงเรียนต้องมีคุณภาพ
นอกจากนี้มีโยบายสวัสดิการบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท และนโยบายเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี ไม่เป็นหนี้ กยศ. อยากเรียนอะไรต้องได้เรียน
"พลังประชารัฐ" สวัสดิการประชารัฐ จากครรภ์มารดา
-อายุ 0-6 ปี จะได้รับการดูแลโภชนาการอาหารครบถ้วน ตามพัฒนาการของวัย เพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
-อายุ 7-18 ปี จะได้รับสวัสดิการทางการศึกษาที่มีคุณภาพ และจัดสรรโครงการอาหารกลางวันฟรี
-อายุ 18-40 ปี จะมีสวัสดิการคุ้มครองแรงงานทั้งใน-นอกระบบ และ สวัสดิการเรียนรู้ทักษะเพื่อประกอบอาชีพ
มีนโยบาย “แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ” ดูแลสตรีขณะตั้งครรภ์ตั้งแต่เดือนที่ 4 และในเดือนที่ 9 ผ่านเงินสนับสนุนเดือนละ 10,000 บาท มีเงินค่าเลี้ยงบุตร 3,000 บาท ต่อเดือน 6 ปี
ในมุมมองของนักวิชาการที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้ให้ความเห็นไว้ว่า
แพทย์หญิงลัดดา เหมาะสุวรรณ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้วิเคราะห์นโยบายพรรคการเมือง มองว่า เวลาพรรคการเมืองพูดเรื่องความเหลื่อมล้ำ ความยากจน คนไทยผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต้องดูด้วยว่า แก้ปัญหาเชิงโครงสร้างได้หรือไม่ มองให้ทะลุทุกมิติ หรือแค่การแจกเงินชั่วคราว เราไม่อยากเห็นนโยบายระยะสั้น อยากเห็นนโยบายระยะยาว แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง และการไม่มีคอร์รัปชั่น
“เรื่องอาหารกลางวันในโรงเรียน นมโรงเรียน เป็นเรื่องที่ต้องสนับสนุนต่อไป เพราะช่วยคนที่ด้อยโอกาสให้มีคุณภาพ รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมให้เด็กเข้าถึงอาหารที่เอื้อต่อสุขภาพ และสุดท้าย อยากให้ช่วยกันสนับสนุนกฎหมายควบคุมการตลาดอาหารเครื่องดื่มที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ” แพทย์หญิงลัดดา กล่าว
ขณะที่ น.ส.ปรกชล อู๋ทรัพย์ เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ให้ความเห็นว่ายังไม่เห็นนโยบายที่ดูเรื่องความไม่ปลอดภัยด้านอาหาการแก้ปัญหาเรื่องสารพิษตกค้างในอาหารผล ผลไม้ โดยเฉพาะการเข้มงวดตรวจสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ไม่มีห้องแล็บที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ดังนั้นแม้พรรคการเมืองจะมีนโยบายอาหารกลางวันเด็ก แต่ควรยกระดับวัตถุดิบให้ปลอดภัย ลดการใช้สารเคมี.