'เพื่อไทย'จี้กกต.จัดพื้นที่สังเกตการณ์หน้าหน่วยเลือกตั้ง

'เพื่อไทย'จี้กกต.จัดพื้นที่สังเกตการณ์หน้าหน่วยเลือกตั้ง

‘เพื่อไทย’วอนกกต.จัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม ‘ประเสริฐ’ กังขา 4 ข้อ จ่าหน้าซองผิด-จัดพื้นที่สังเกตการณ์-ปัดติดซีซีทีวีหน้าหน่วยเลือกตั้ง บอกพบทุจริตเลือกตั้งบึงกาฬ วอน กกต.เร่งสอบเอาผิดด่วน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตยุติธรรม  พรรคเพื่อไทยตั้งข้อสังเกตและขอเรียกร้องในประเด็นต่างๆ ดังนี้ 1.ขอให้ กกต.ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของพรรคเพื่อไทย ที่เรียกร้องสอบถาม กกต.ให้ครบถ้วน ไปเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา  ทั้งในเรื่องของจำนวนบัตร การจัดส่ง มาตรการรักษาความปลอดภัย การดูแลรักษาบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้ว ฯลฯ โดยเฉพาะข้อมูลบัตรสำรองว่ามีจำนวนเท่าใด เมื่อลงคะแนนเสร็จสิ้นแล้วจะทำลายบัตรสำรองอย่างไร 

รวมทั้งต้องเปิดเผยวิธีการทำลายบัตรสำรองที่เขตเลือกตั้ง  เพื่อยืนยันว่าจะไม่มีการสำรองไปใช้ในการลงคะแนนจริง เพราะปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2566  แสดงความไม่เป็นมืออาชีพ และความไม่พร้อมของ กกต.ที่จะจัดการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพหรือไม่ จนทำให้ประชาชนเคลือบแคลงสงสัยการปฎิบัติงานของ กกต.อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน  
 

2.การจ่าหน้าซองผิดในบางเขตเลือกตั้ง กกต.ได้อ้างว่าทำงานมีประสิทธิภาพดีอยู่แล้ว  จนถึงขณะนี้ได้ทราบหรือยังว่าจำนวนในการจ่าหน้าซองผิดมีมากน้อยเพียงใด แยกซองที่มีปัญหาออกมาแก้ปัญหาอย่างไร การที่เลขา กกต.แจ้งว่ามีผู้เชี่ยชาญวินิจฉัยนั้น ต้องมีมาตรการที่ชัดเจนกว่านี้  เพราะปรากฏเป็นข่าวว่ามีหลายซองไม่ได้มีการจ่าหน้าซองเลยแม้แต่รายการเดียว ซองแบบนี้อยู่ในสถานะใด เป็นบัตรเสียหรือไม่ กกต.มีวิธีการจัดการบัตรเลือกตั้งในซองเหล่านี้อย่างไร

“ซองที่ไม่ได้เขียนอะไรเลย  จะไม่มีเลขรหัสจังหวัด และเขตเลือกตั้งไว้เพื่อจัดส่ง และไม่สามารถตรวจสอบบัตรติ้ว (กระดาษแผ่นเล็ก ที่ กกต.ประจำหน่วยได้เขียนข้อมูลผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเพื่อใช้เขียนจ่าหน้าซองบัตรเลือกตั้งไปยังเขตเลือกตั้ง)    การที่คะแนนเลือกตั้งที่เป็นเสียงบริสุทธิ์ของประชาชนต้องเสียไปแบบนี้ กกต.จะรับผิดชอบอย่างไร”  
 

3.ขอให้ กกต.จัดเตรียมพื้นที่รองรับตัวแทนพรรคการเมือง ประชาชนและสื่อมวลชน เข้าไปร่วมตรวจสอบเป็นสักขีพยานในการนับคะแนนจากบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตที่ลงคะแนนแล้ว  และภายหลังจากการนับคะแนนส่วนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องแยกบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านี้ไว้ต่างหาก เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ภายหลัง  

นอกจากนี้ยังขอให้เปิดเผยจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า  กับจำนวนบัตรที่ใช้ว่าตรงกันหรือไม่อย่างไรด้วย   โดยขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีข้อมูลบัตรเลือกตั้งทั้งหมดที่ได้รับจัดสรรแล้ว ทั้งจำนวนบัตรทั้งบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขต ทั้งจุดส่งมอบ เล่มที่ เลขที่ และเลข Pack พร้อมจะกระทบยอดได้ภายหลังการเลือกตั้ง ดังนั้นใช้ความระมัดระวังและยึดมั่นในความยุติธรรมและขอให้เปิดเผยจำนวนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ตรงกับจำนวนบัตรในแต่ละเขต

4. การติดตั้ง CCTV ณ ที่ลงคะแนนล่วงหน้าและที่เก็บรักษาบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้วในส่วนของ กทม.ซึ่งทราบมาว่า กทม.ได้ทำหนังสือถึง กกต.ว่าจะขอติดตั้ง CCTV ไว้ด้านหน้าที่เลือกตั้งและบริเวณสถานที่จัดเก็บบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่ลงคะแนนแล้ว และจะเชื่อมโยงสัญญาณทั้ง 33 เขตเลือกตั้งมายัง กทม.และจะเผยแพร่ภาพแบบ Real time  ให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจสอบได้ แต่ กกต.กลับตอบมาว่า การติดตั้ง CCTV ที่หน้าจุดเลือกตั้งอาจละเมิดสิทธิของประชาชนที่ลงคะแนน 

สำหรับการติดตั้ง CCTV ณ สถานที่เก็บบัตร กกต.กลับอ้างระเบียบและคู่มือว่าให้ กกต.เขตจัดให้มีกล้อง แต่ไม่ได้ตอบทาง กทม.ให้ชัดเจน ว่าทาง กทม.สามารถดำเนินการได้หรือไม่ อย่างไร 

พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ หัวหน้าศูนย์ป้องกันการทุจริตเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ จับกุมผู้ตั้งหา 1 รายพร้อมซองจดหมายภายในบรรจุธนบัตร 500 บาท รวม 22 ซอง รวมเป็นเงิน 11,000 บาท และโพยรายชื่อใช้สำหรับการซื้อเสียง 2 แผ่น และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องพร้อมไฟล์ภาพและเสียง  

โดย สภ.พรเจริญ  ได้ดำเนินคดีแจ้งข้อหาว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติการณ์ซื้อสิทธิ์ขายเสียง โดยเตรียมนำเงินมาแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้กระทำการดังกล่าวจริง โดยได้รับการว่าจ้างจากพรรคการเมืองหนึ่ง  ตำรวจ สภ.พรเจริญจึงได้เข้าจับกุมและแจ้งข้อหาว่ากระทำความผิดตาม  พรป.เลือกตั้ง 2561 มาตรา 73 วรรค 1 จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินแก่ผู้ใด ซึ่งผู้กระทำผิดได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้วจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

“หากพบการกระทำที่ทุจริตเกิดขึ้น ตนจะติดตามประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ผมขอให้นึกถึงอุดมคติของตำรวจเอาไว้  การกระทำของท่านจะส่งผลต่อท่านและครอบครัวไม่ว่าทางใด เรื่องนี้เกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง ขอให้ กกต.สืบสวน สอบสวน วินิจฉัยโดยเร็ว” พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ กล่าว