30 มิ.ย.เส้นตายชิง ประธานสภา ‘ก้าวไกล’ ยอมถอยทุกทาง ‘เพื่อไทย’ ถกภายในวันนี้
เส้นตายสุดท้ายศึกชิงประธานสภาฯ 30 มิ.ย.ชี้ขาด ‘ก้าวไกล’ ยอมถอยทุกทางขอแค่เก้าอี้ ‘ประมุขนิติบัญญัติ’ เหตุ ‘พิธา’ ส่อแววแห้วนายกฯ ‘เพื่อไทย’ ขอกลับไปทบทวนภายในวันนี้
เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากพรรคก้าวไกล ในการชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า เมื่อช่วงบ่ายถึงค่ำของวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการนัดหารือกันระหว่างแกนนำพรรคก้าวไกล และแกนนำพรรคเพื่อไทย ถึงประเด็นการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ
‘เนชั่นทีวี’ ช่อง 22 รายงานอ้างแหล่งข่าวจากพรรคก้าวไกล ระบุว่า ฝ่ายก้าวไกลยอมทุกเงื่อนไข ขอให้ได้แค่ตำแหน่งประธานสภาฯ และมีข้อเสนอให้พรรคเพื่อไทยกลับไปพิจารณาหลายข้อเกี่ยวกับตำแหน่งรัฐมนตรี และตำแหน่งสำคัญอื่น ๆ หาได้เข้าเป็นรัฐบาลร่วมกัน เนื่องจากพรรคก้าวไกลมองว่า ขณะนี้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีสิทธิเป็นนายกรัฐมนตรี แค่เพียง 50:50 เท่านั้น จึงควรให้ตำแหน่งประธานสภาฯกับพรรคก้าวไกล และหากผลักดันนายพิธาเป็นนายกฯไม่ได้จริง ๆ เป็นสิทธิอันชอบธรรมของพรรคเพื่อไทย ในการเสนอแคนดิเดตนายกฯขึ้นมาแทนนายพิธา
อย่างไรก็ดีฝ่ายพรรคเพื่อไทยมองว่า ขณะนี้พรรคสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯอยู่แล้ว จึงถือว่าตำแหน่งนายกฯเป็นของพรรคก้าวไกล ดังนั้นตำแหน่งประธานสภาฯควรเป็นขอพรรคเพื่อไทย หรือถึงที่สุดควรปล่อยฟรีโหวตในสภาฯ อย่างไรก็ดีแกนนำพรรคเพื่อไทยได้นำข้อเสนอของพรรคก้าวไกลกลับไปพิจารณาภายในพรรคในวันนี้ (29 มิ.ย.)
รายงานข่าวจากพรรคก้าวไกล่าว ระบุว่า เส้นตายสุดท้ายในการเคลียร์ปัญหาตำแหน่งประธานสภาฯ ระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย คือภายใน 30 มิ.ย. 2566 เนื่องจากมีการวางไทม์ไลน์ว่า ในวันที่ 1 ก.ค. 2566 นายพิธา และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯฝ่ายเพื่อไทย จะร่วมกันขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชนที่ จ.ขอนแก่น ถือเป็นการสร้างภาพเชิงสัญลักษณ์ว่า ทั้งพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลไม่ทิ้งกันไปไหน
หลังจากนั้นในวันที่ 2 ก.ค. 2566 มีการนัดประชุมหัวหน้าพรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค เพื่อประกาศมติและท่าทีของพรรคร่วมเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภาฯ และจุดยืนของรัฐบาลใหม่ ต่อมาในวันที่ 3 ก.ค. 2566 จะเข้าร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภานัดแรก และวันที่ 4 ก.ค. 2566 จะทำการโหวตเลือกประธานสภาฯคนใหม่
ทั้งนี้หากการเคลียร์ปัญหาตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่จบภายในวันที่ 30 มิ.ย. จะมีการงดกิจกรรมขึ้นรถแห่ร่วมกันในวันที่ 1 ก.ค.และอาจไม่มีการประชุมหัวหน้า 8 พรรคร่วมในวันที่ 2 ก.ค. ดังนั้นในวันโหวตเลือกประธานสภาฯ 4 ก.ค. อาจมีการปล่อยฟรีโหวต และคาดว่าพรรคก้าวไกลจะพ่ายแพ้พรรคเพื่อไทย ส่วนหลังจากนั้นพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยจะยังทำงานร่วมกันได้อยู่หรือไม่ ต้องรอดูสถานการณ์ต่อไป