'เงินดิจิทัล 10,000 บาท' นโยบายที่ 'เพื่อไทย' จะทำทันที อัปเดตพื้นที่ใช้จ่าย

เงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้วันไหน? กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์แทบจะทันที หลังคนไทยทราบผลโหวตเมื่อค่ำวันที่ 22 ส.ค.66 ว่า นายกฯคนที่ 30 คือ “เศรษฐา ทวีสิน” จากพรรคเพื่อไทย ส่วนคำตอบของคำถามดังกล่าว ก็เริ่มมีข้อมูลเปิดเผยเบื้องต้นแล้วว่า “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในวันที่ 1 มกราคม 2567 หรือต้นปีหน้า 

..นี่ไม่ใช่นโยบายประชานิยมเพียงนโยบายเดียว ที่ทางพรรคเพื่อไทยใช้หาเสียงไว้เมื่อช่วงก่อนการเลือกตั้ง แต่ยังมีอีกหลายๆ นโยบายที่ตัวแทนพรรคหลายคน เคยออกมากล่าวบนเวทีดีเบตตามสื่อต่างๆ 

 

• เศรษฐา ทวีสิน ตัวเปิดนโยบาย "เงินดิจิทัล" และเคยลั่นวาจา ถ้าได้เป็นนายกฯ จะเร่งแก้รัฐธรรมนูญ

หากย้อนกลับไปในช่วงหาเสียงก่อนการ “เลือกตั้ง 2566” พบว่าพรรคเพื่อไทยได้นำเสนอ 25 นโยบาย (คาดใช้งบประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท) ที่จะทำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดูแลภาคสังคม และยกระดับความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการพูดถึงนโยบายเร่งด่วน ประมาณ 6 - 7 ข้อ ที่ทางตัวแทนพรรคเคยกล่าวว่า เป็นสิ่งที่จะต้องรีบทำ และเร่งแก้ไขก่อน ภายใน 6 เดือนแรกของการทำงานในฐานะรัฐบาลชุดใหม่ 

โดย “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง เคยขึ้นเวทีในงานเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. 400 เขต และแถลงนโยบายล็อตใหม่ ที่ มธ. ศูนย์รังสิต เมื่อช่วงเดือนมี.ค.2566 ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวได้ประกาศนโยบาย“เงินดิจิทัล 10,000 บาท” ซึ่งเป็นนโยบายโดดเด่นของพรรค นำมาเปิดตัวบนเวทีปราศรัยในช่วงแรกๆ หลังการผันตัวมาสู่ถนนสายการเมือง 

นอกจากนี้ นายเศรษฐายังได้พูดถึงนโยบายเร่งด่วนอื่นๆ ที่คาดว่าจะต้องเร่งทำก่อน หากตนได้เข้ามาเป็นนายกฯ บริหารประเทศ โดยได้กล่าวบนเวทีในงานเอ็กซ์คลูซีฟดินเนอร์ทอล์ก JOURNEY TO TRANSFORM จัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ เมื่อเดือนพ.ค.2566 ที่ผ่านมา ซึ่งนายเศรษฐาได้พูดถึงสิ่งที่ตนเองจะทำเป็นสิ่งแรก หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30

โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องที่จะทำทันทีคือ การแก้ไขรัฐกฎหมายรัฐธรรมนูญ จะดำเนินการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จากการเลือกตั้ง เป็นเรื่องสำคัญที่สุด จะต้องถูกแก้ไขโดยเร็วที่สุด แล้วก็คืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด แต่เป็นวาระใหญ่จึงคาดว่าจะใช้เวลา 18 เดือน

ส่วนระหว่างนั้น ก็มีนโยบายอื่นๆ ที่เพื่อไทยสามารถจะทำได้ภายใน 6 เดือน ได้แก่ 1.การสมรสเท่าเทียม 2.สมัครใจเกณฑ์ทหาร 3.ดิจิทัลวอลเล็ต 4.ค่าแรงขั้นต่ำ 5.การแก้ปัญหาประมงที่จากกฎไอยูยู 6.นายกฯ ต้องบินไปเจรจาต่างประเทศ และ 7.การเข้าถึงระบบสาธารณสุขพื้นฐาน อัปเกรดบัตร 30 บาท 

 

• อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร เปิดนโยบายเร่งด่วน "ทำทันที" เร่งลดรายจ่ายประชาชน

สอดคล้องกับ “แพทองธาร ชินวัตร” ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย ที่เคยขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ และนำเสนอนโยบายของพรรคในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ผ่านเวที “เลือกตั้ง 66 เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ” รายการพิเศษของช่อง3 ดำเนินรายการโดย สรยุทธ สุทัศนะจินดาเมื่อเดือนเม.ย.2566 ที่ผ่านมา

แพทองธาร กล่าวไว้ว่า หากเพื่อไทยได้รับเลือกเข้าไปทำงานให้ประชาชน จะยึดถือตามคอนเซปต์หลักของพรรคเพื่อไทยคือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ดังนั้นสิ่งที่จะทำทันทีภายใน 6 เดือนแรกหลังจัดตั้งรัฐบาล ได้แก่

1. เร่งลดรายจ่ายให้ประชาชน เช่น ลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเชื้อเพลิง เพราะ 8 ปีที่ผ่านมา รายจ่ายของประชาชนสูงมาก ทั้งหนี้ครัวเรือน หนี้ประเทศ (อาจทำได้เร็วกว่า 6 เดือน)

2. ปรับปรุงค่าโดยสารรถไฟฟ้าเป็น 20 บาทตลอดสาย (อาจช้ากว่า 6 เดือนเล็กน้อย เพราะมีหลายฝ่ายต้องหารือร่วมกัน)

3. ปรับปรุงการเข้าถึงระบบสาธารณสุขด้วย “บัตร 30 บาทพลัส” เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่จะช่วยลดรายจ่ายประชาชน กล่าวคือ จากระบบเดิมเคยมีอยู่แล้ว จะปรับปรุงให้เป็น “ถือบัตรประชาชนใบเดียว” ก็สามารถใช้สิทธิ 30 บาทรักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วประเทศ

 

• งอกใหม่อีก 2 นโยบายเร่งด่วน คือ "พักหนี้" และ "สร้างแรงงานทักษะสูง"

นอกจากนี้ในเพจเฟซบุ๊กของ “พรรคเพื่อไทย” ก็มีการเผยแพร่ข้อความ (ณ 11-14 ส.ค. 66) ประกาศความพร้อมที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลชุดใหม่ และได้ทยอยโพสต์ข้อความเกี่ยวกับ “นโยบายเร่งด่วน” ที่ทางพรรคคาดว่าจะทำได้ทันทีในฐานะรัฐบาล ได้แก่ 

1. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ของประชาชน
2. เดินหน้าแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
3. ลดค่าไฟ ค่าน้ำมัน ทันที
4. พักหนี้เกษตรกร 3 ปี และพักหนี้ SME 1 ปี
5. เดินหน้า 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ สร้างแรงงานทักษะสูง สร้างรายได้ใหม่ เป็นต้น

จากนโยบายเร่งด่วนทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น ประชาชนคนไทยคงต้องช่วยกันจับตามองว่า หลังจากจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว “เพื่อไทย” จะสานต่อนโยบายต่างๆ ที่เคยกล่าวเอาไว้ว่าจะเร่งทำให้เป็นจริงภายใน 6 เดือนได้สำเร็จหรือไม่

 

• อัปเดตเงื่อนไข "เงินดิจิทัล 10,000 บาท" ที่ให้ใช้รัศมี 4 กิโลเมตร รองเลขาฯ ชี้ ปรับพิกัดได้ตามพื้นที่

ย้อนกลับมาดูนโยบาย “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” ที่คนไทยกำลังให้ความสนใจอย่างล้นหลามในขณะนี้นั้น หากใครอยากรู้รายละเอียดเรื่องการลงทะเบียน วิธีใช้งาน และเงื่อนไขการรับสิทธิต่างๆ ไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : เงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้วันไหน แลกเป็นเงินสดได้หรือไม่?

ส่วนประเด็นเงื่อนไขการใช้งานเงินดิจิทัลที่เบื้องต้นระบุไว้ว่า ต้องใช้จ่ายภายใน 6 เดือนตามร้านค้าท้องถิ่นในรัศมี 4 กิโลเมตร ของพื้นที่ภูมิลำเนา ซึ่งเกิดข้อสงสัยกันว่าหากรอบๆ บ้านเป็นพื้นที่ป่าเขา ไม่มีร้านค้าใกล้เคียง จะทำอย่างไร?

เรื่องนี้ "ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล" รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้คำตอบว่า  การใช้จ่ายเงินดิจิทัลในระยะรัศมี 4 กิโลเมตร นั้น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามภูมิประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และสำหรับประชาชนบางกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟน ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน โดยใช้ผ่านบัตรประชาชน และโค้ดส่วนตัว ก็สามารถจับจ่ายได้อย่างสะดวก

 

--------------------------------------

อ้างอิง : พรรคเพื่อไทย, Nation Online, เลือกตั้ง66 เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ, Exclusive Dinner Talk, BBC Thai, แถลงเงื่อนไขดิจิทัลวอลเล็ต

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์