'พิธา' ปวารณาตนเป็นคนของ ปชช. ปัดวิเคราะห์หน้าตา ครม.แต่อวยพรให้ทำงานได้
'พิธา' ร่วมฉลองวันคล้ายวันเกิด 43 ปีกับแฟนคลับ ปวารณาตนเป็นคนของประชาชนเหมือนเดิม ปัดวิเคราะห์หน้าตา 'ครม.เศรษฐา' พร้อมอวยพรขอให้ทำงานได้ตามที่หาเสียงไว้ ยังไม่ตัดสินใจนั่ง 'ผู้นำฝ่ายค้าน' รอศาล รธน.ชี้ขาดก่อน
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2566 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. ที่พรรคก้าวไกล มีกลุ่มมวลชนแฟนคลับเดินทางมาเพื่อรอพบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่ออวยพรวันคล้ายวันเกิดในวันนี้ อายุครบ 43 ปี โดยนายพิธา ลงมาพบปะแฟนคลับ หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม สส.ก้าวไกล ประจำสัปดาห์ พร้อมกับกำชับห้ามร้องเพลง เนื่องจากอยู่ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เขต 3
ผู้สื่อข่าวถามว่าวันเกิดปีนี้อยากได้อะไรเป็นพิเศษ นายพิธา กล่าวว่า วันเกิดปีนี้อายุครบ 43 ปี การที่ได้มาอยู่ท่ามกลางประชาชนที่รักในประชาธิปไตย ที่พยายามยืนหยัดในความเป็นพลเมืองของเขา แค่นี้ก็เป็นสิ่งที่หาจากที่อื่นไม่ได้ และอยากให้ความทุกข์ร้อนของประชาชน ความไม่เท่าเทียมในประเทศนี้ ผ่านไปโดยเร็ววัน
“ปวารณาตนในวันเกิดตัวเอง ว่าจะตั้งใจทำงานให้กับประชาชน แม้ว่าจะอยู่ในทำเนียบหรือนอกทำเนียบ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาหรือนอกสภา ก็จะยังคงเป็นคนของพี่น้องประชาชนเหมือนเดิม” นายพิธา กล่าว
เมื่อถามว่าเส้นทางการเมืองต่อไปจะเป็นอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ก็อยู่เคียงข้างประชาชน พวกเขาเลือกตนมาทำงาน ไม่ใช่ให้ตนมากังวล หรือรู้สึกสิ้นหวังในความท้าทายที่จะถาโถมเข้ามา
เมื่อถามว่าจากหน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะฝากความหวังไว้ได้หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า คงไม่ได้วิเคราะห์จากหน้าตาบุคคลใดบุลคลหนึ่ง ตนวิเคราะห์ในเรื่องของหลักการ แต่ขออวยพรให้ ครม.ชุดนี้ สามารถทำงานได้ตามที่หาเสียงไว้ เพราะเห็นว่าหาเสียงคล้าย ๆ กัน เวลาขึ้นดีเบต เมื่อถามเรื่องปฏิรูปกองทัพ ทลายทุนผูกขาด ก็ตอบเหมือนกัน
นายพิธา กล่าวอีกว่า ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องฟังคำวิจารณ์ฝั่งตน แค่จำให้ได้ว่า ดิจิทัลฟุตพรินต์ มีอย่างไร และจำให้ได้ว่าตอนดีเบตพูดไว้อย่างไร ทั้งนี้ ถ้าตามคำสัมภาษณ์ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีต ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย บอกว่าไม่มีเวลาฮันนีมูน เพราะความเดือดร้อนของประชาชนรอมานาน จึงอยากให้รีบทำงานให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
เมื่อถามว่าขณะนี้ยังมีคนเรียกนายพิธาว่าเป็นนายกฯ สะท้อนให้เห็นอะไร นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้คิดว่าสะท้อนอะไร ตนก็ทำหน้าที่ให้เต็มที่ และยังมีเวลาเหลืออีกเยอะในการทำงาน เราจะทำงานแบบฝ่ายค้านเชิงรุก คือ การเตรียมตัวที่จะสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งถัดไป รวมถึงการทำงานทางความคิดกับคนที่เห็นต่างกับเรา ให้เห็นภาพว่าการเมืองที่เป็นไปได้ พวกเขาจะมีส่วนร่วมและจะมีโอกาสที่จะอยู่อย่างไร รวมถึงผู้ที่ต่อต้านในครั้งนี้ว่า วิธีคิดของเรามีแต่ได้กับได้ ไม่มีใครต้องเสียอย่างที่คิด หรือการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีพวกเขาอยู่ การเปลี่ยนแปลงที่เร็วเกินไปจนพวกเขารับไม่ได้ เป็นการที่มีพื้นที่ให้สำหรับทุกคน เพราะเราจะทำให้ประเทศไทยมีพื้นที่ยืนอยู่บนเวทีโลก ไม่ใช่ต้องการมาต่อสู้กันเอง
“ส่วนเรื่องแถลงนโยบาย มองว่าในส่วนของฝ่ายค้าน ต้องรอเอกสารนโยบายที่เป็นรูปเล่ม ปีศาจอยู่ในรายละเอียด จะให้อ่านเอกสารก่อนอภิปราย 2 วันคงเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้ ตอนนี้เราได้เก็งข้อสอบไว้บ้างแล้วในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา และถ้าไม่อยู่ในนโยบายนี้ เราก็คงต้องตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใดจึงไม่เกิดขึ้น” นายพิธา กล่าว
สำหรับประเด็นการรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายพิธา กล่าวว่า ต้องรอความชัดเจนในเรื่องคดีของตน ประกอบกับมาตรา 106 วรรคสุดท้ายของรัฐธรรมนูญ เขียนไว้ชัดเจนว่า ตำแหน่งดังกล่าว ไม่ควรไหลไปพรรคอื่น หรือถ้าตนกลับไปปฏิบัติหน้าที่ สส. ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านก็ต้องไหลกลับมาที่พรรคก้าวไกล
ส่วนจะรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า ต้องแบ่งเป็นหลายมิติ คือ มิติตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ว่าต้องมีตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน แต่ในเชิงส่วนตัว ตนไม่ยึดติดกับตำแหน่ง โดยเฉพาะที่หลายคนพยายามกดดันให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ลาออก
"ในมุมมองของพรรคเห็นว่ายังต้องรอความชัดเจนเรื่องคดี จะตรงกับที่นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ เคยพูดไว้ ยืนยันว่าตอนนี้ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีการเรียกชี้แจงแต่อย่างใด แต่พรรคก้าวไกลได้เตรียมข้อกฎหมายไว้สำหรับชี้แจงเรียบร้อยแล้ว" นายพิธา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิธา ได้ถ่ายวิดีโอโอเซลฟี่กับแฟนคลับ พร้อมขอบคุณทุกคนที่มาร่วมอวยพรวันเกิด และขออภัยที่ไม่สามารถเฉลิมฉลองได้ โดยหลังจากถ่ายรูปเสร็จ นายพิธากลับขึ้นไปห้องประชุมต่อ
สำหรับแฟนคลับที่เดินทางมาในวันนี้ บางส่วนก็นำเค้ก ผลไม้ ดอกไม้ มามอบให้กับนายพิธา รวมถึงได้ทำรูปวาดเป็นไวนิล และให้แฟนคลับได้ร่วมเขียนคำอวยพรหลังไวนิล เพื่อมอบให้กับนายพิธาเป็นที่ระลึกด้วย