ด่วน! บุกค้นบ้าน 'บิ๊กโจ๊ก' พบข้อมูลเอี่ยว เว็ปพนันออนไลน์
'ตำรวจไซเบอร์-คอนมานโด'บุกค้นบ้าน 'บิ๊กโจ๊ก' พบข้อมูลเกี่ยวข้องพ.ร.บ.การพนัน (เว็ปพนันออนไลน์)ในหมู่บ้านซ.วิภาวดี 60 หลังสโมสรตำรวจ
25 ก.ย.ตำรวจไซเบอร์ พร้อมหน่วยคอมมานโด นำหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านพักของ 'บิ๊กโจ๊ก' พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. หลังพบมีส่วนเกี่ยวข้องพ.ร.บ.การพนัน ( เว็ปพนันออนไลน์ ) ในหมู่บ้านซ.วิภาวดี 60 หลังสโมสรตำรวจ
เบื้องต้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ในบ้านพัก และปฏิเสธการเข้าตรวจค้น โดยอ้างว่าเป็นรองผบ.ตร. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. กำลังเจรจาขอตรวจค้น
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวยอมรับว่า ตำรวจมาค้นที่บ้านของตนจริง แต่ยังไม่รู้ว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร และโยงเรื่องอะไร แต่ทีมตำรวจที่เข้าค้นแจ้งว่าไม่ทราบว่าเป็นบ้านของตน โดยรอให้ทาง ผบช.สอท. มาพูดคุยรายละเอียด
ในระหว่างนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ดูหมายค้นพร้อมกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า
"กูไม่ให้ค้น ออกไปเลยไป"
อย่างไรก็ตาม เป็นการดำเนินการของชุดปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการ Big Cleaning Day กวาดบ้านตำรวจ โดยปูพรมลงพื้นที่ 6 จังหวัดเป้าหมาย ซึ่งพบมีความเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ ได้แก่ จ.เพชรบุรี สมุทรปราการ ขอนแก่น อุดรธานี สระบุรี และกรุงเทพมหานคร สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 11 คน ทั้งพลเรือน และตำรวจ ในจำนวนนี้ทราบว่าเป็นนายตำรวจทีมงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้วย
ขณะที่แนวทางสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมด มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ เนื่องจาก พบเส้นทางการเงินจำนวนหลายล้านบาท ถูกโอนเข้าบัญชีของคนกลุ่มนี้
สำหรับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เกิดเมื่อ 29 ต.ค.2513 ที่ จ.สงขลา เข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร (นตท.) รุ่นที่ 31 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่นที่ 47 เป็นประธานรุ่น นรต.47
เส้นทางการทำงานของ ร.ต.ต.สุรเชษฐ์ เป็นรองสารวัตร ตั้งแต่ 1 ก.พ.2537 เป็นรองสารวัตรได้ 6 ปี 1 เดือน ได้ขึ้นเป็นสารวัตร และเป็นสารวัตรได้ 4 ปี 8 เดือน ขยับเป็นรองผู้กำกับการ เป็นรองผู้กำกับการอยู่ 4 ปี จากนั้นขยับเป็นผู้กำกับการ ติดยศ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เป็น ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จ.สงขลา โรงพักเกรดเอ โดยขณะนั้น พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9)
พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้กำกับการอยู่ได้ 4 ปี 1เดือน จึงขยับเป็นรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) ได้เป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา และยังเป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.สงขลา ส่วนหน้า ดูแลพื้นที่ อ.จะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา จ.สงขลา 4 อำเภอพื้นที่สีแดงในพื้นที่ต่อเนื่องจังหวัดชายแดนใต้ การอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้รับสิทธินับอายุราชการแบบทวีคูณ แม้อายุยังน้อยแต่อายุงานเพิ่มความอาวุโส ทำให้ก้าวขึ้นเป็น พล.ต.ต. ขณะอายุไม่ถึง 45 ปี
23 ก.ค.2558 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ได้เป็นผู้บังคับการ ประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าประสานนายกรัฐมนตรี ในยุคของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยทำหน้าที่นายตำรวจประสานงานใกล้ชิด บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลรับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้นขยับเป็นผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ในปี 2558
กระทั่งปี 2559 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ขยับขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 และปี 2560 ซึ่งอาวุโสอยู่ในลำดับที่ 76 ได้รับการเสนอชื่อจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. ขึ้นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) และโยกมานั่งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) และในที่สุดขยับขึ้นมานั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ซึ่งเป็นผู้บัญชาการอายุน้อย ติดยศ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ด้วยวัยเพียง 48 ปี เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการสีกากี
โดยเมื่อ 6 เม.ย.2562 ถูกคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาคาร 1 ชั้น 20 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม
กระทั่ง วันที่ 9 เม.ย.2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ขาดจากตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ก่อนที่จะจะกลับมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษสบ 9
ขึ้นผู้ช่วยผบ. ตรและรองผบ. ตร. ตามลำดับ