'ก้าวไกล' ยันหาข้อยุติ สส.แชตสยิว ต.ค.นี้ เผยยังมีอีก 1 คนโดนไล่บี้สอบอยู่
‘ก้าวไกล’ แถลงความคืบหน้าสอบวินัย สส.ปราจีนฯ ถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศ ยันหาข้อยุติภายในเดือน ต.ค. เผยยังมีอีกกรณีไม่ปรากฎแก่สาธารณะ กำลังไล่บี้ให้แจงข้อเท็จจริงอยู่ ยันเดินหน้าปรับปรุงมาตรการป้องกัน รับมือปัญหานี้ภายใน ย้ำไม่สร้างวัฒนธรรมปกปิด หากคนในองค์กรทำผิด
เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2566 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ หรือ "ทนายแจม" สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมการวินัยพรรค แถลงข่าวความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี สส.ก้าวไกล ถูกกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ
โดยนายพริษฐ์ กล่าวว่า ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล ต้องขอเริ่มต้นโดยการยอมรับอย่างตรงไปตรงมา ว่าเหตุผลที่ตนมายืนอยู่ตรงหน้าทุกคนในวันนี้ เป็นเพราะพรรคก้าวไกล กำลังมีปัญหาเรื่องการคุกคามและความรุนแรงทางเพศ ปัญหาเรื่องการคุกคามทางเพศเป็นปัญหาใหญ่ในสังคม ที่กระทบความปลอดภัยของประชาชนหลายคน ในฐานะพรรคการเมืองที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระดับประเทศ เมื่อปัญหาดังกล่าวกลับเกิดขึ้นจากบุคลากรภายในองค์กรเราเอง สิ่งที่เราต้องทำให้ได้ คือการยอมรับปัญหา เผชิญหน้ากับปัญหา และหาความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย โดยไม่สร้างวัฒนธรรมในการปกปิดเรื่องดังกล่าวหรือปกป้องคนในองค์กรที่กระทำผิด
นายพริษฐ์ กล่าวว่า เข้าใจว่าวันนี้ สื่อมวลชนหลายคนอาจมีคำถามเกี่ยวกับกรณีล่าสุดที่ปรากฎในข่าว ที่เป็นข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศของ สส. ปราจีนบุรี แต่วันนี้ ขออนุญาตแถลงถึงภาพรวมทั้งหมดของปัญหาที่เกิดขึ้นและแนวทางของพรรคในการแก้ไขปัญหา ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่กรณีของ สส. ปราจีนบุรี โดยขอแบ่งเนื้อหาการแถลงออกเป็น 3 ส่วน
ส่วนที่หนึ่ง บทสรุปของข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ ที่ได้ข้อสรุปจาก กก.บห. พรรค ไปแล้ว 2 กรณี
ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ทางพรรคได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมคุกคามทางเพศโดยสมาชิกพรรค ซึ่งคณะกรรมการวินัยของพรรคได้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงทุกฝ่าย และกรรมการบริหารพรรคได้มีมติลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว ใน 2 กรณีดังต่อไปนี้
กรณีที่ 1 ข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ความรุนแรงโดยนายสิริน สงวนสิน สส. กทม. ทาง กก.บห. พรรค ค้นพบว่านายสิริน สงวนสิน ได้ทะเลาะวิวาทกับผู้เสียหาย และได้กระทำความรุนแรงต่อผู้เสียหายจริง จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บบริเวณร่างกาย รวมไปถึงมีการทำลายทรัพย์สิน (โทรศัพท์มือถือ) และใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมต่อผู้เสียหาย
ทางพรรคเห็นว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่ขัดต่ออุดมการณ์พรรค และเข้าข่ายการกระทำผิดวินัยพรรคอย่างร้ายแรง จึงได้มีมติให้ลงโทษ สิริน สงวนสิน 2 ประการ (1) ตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกพรรค โดยตัดสิทธิไม่ให้ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรคทันที เช่น ตำแหน่งที่มีอำนาจบริหารทุกระดับ หรือตำแหน่งประธาน กมธ. ที่เป็นสัดส่วนของพรรคในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นโทษที่หนักเป็นอันดับ 2 รองลองมาจากการขับออกจากสมาชิกภาพ (2) กำหนดคาดโทษไว้ว่า หากมีเหตุการณ์ใดๆ ก็ตามที่ สิริน กระทำผิดวินัยร้ายแรงอีกครั้งในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่เป็น ส.ส. ทางพรรคจะยกระดับโทษเป็นการขับออกจากสมาชิกภาพ
กรณีที่ 2 ข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศโดยนายเกรียงไกร จันกกผึ้ง อดีตผู้สมัคร สส.ชัยภูมิ ทาง กก.บห. พรรค ค้นพบว่า นายเกรียงไกร จันกกผึ้ง ได้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เสียหายจริงตามข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นการละเมิดหลักเรื่องความยินยอมและสิทธิในเนื้อตัวและร่างกายของผู้เสียหายอย่างชัดเจน ทางพรรคเห็นว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่ขัดต่ออุดมการณ์พรรคอย่างชัดเจน และถือว่าเป็นการกระทำผิดวินัยพรรคอย่างร้ายแรง ตรงตามข้อบังคับพรรคที่ระบุถึงการกระทำผิดเรื่องการล่วงเกินทางเพศอย่างชัดเจน จึงได้มีมติให้ลงโทษนายเกรียงไกร จันกกผึ้ง โดยการขับออกจากสมาชิกภาพทันที
สำหรับผู้เสียหายจากความผิดใน 2 กรณีนี้ พรรคก้าวไกลต้องขอโทษทั้ง 2 ท่าน ด้วยความเข้าใจดีว่า แม้คำขอโทษจะไม่เพียงพอต่อการย้อนคืนความเสียหายที่ได้เกิดขึ้นต่อทั้งร่างกายและสภาพจิตใจของทั้ง 2 ท่านได้ แต่เราหวังว่าอย่างน้อยทั้ง 2 ท่าน จะได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการตรวจสอบของพรรคในเหตุการณ์เลวร้ายที่ก่อขึ้นโดยสมาชิกพรรค
ส่วนที่สอง สถานะและความคืบหน้าของข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศ ที่ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนโดยคณะกรรมการวินัยพรรค 2 กรณี
กรณีที่ 1 ปรากฎในสื่อสาธารณะ ข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศโดยนายวุฒิพงษ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี หลังจากทางพรรคได้รับคำร้องจากผู้ร้องเรียน ทางพรรคได้ริเริ่มกระบวนการสอบข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการวินัยพรรคเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา โดยได้เชิญแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมตลอดเดือนกันยายน ขณะที่ประธานคณะกรรมการวินัยพรรค ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวาน ว่ายอมรับว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวมีมูล และทางพรรคเข้าใจว่าสังคมคงได้รับรู้และพิจารณาได้จากข้อเท็จจริงบางส่วนเกี่ยวกับข้อกล่าวหา ที่ปรากฎออกไปต่อสาธารณะ
นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า พรรคยืนยันว่าเราต้องการให้ข้อกล่าวหานี้มีข้อยุติโดยเร็วที่สุด โดย ณ เวลานี้ มีข้อเท็จจริงเป็นจำนวนมาก และคณะกรรมการวินัยพรรคยังมีความจำเป็นต้องสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากทุกฝ่ายให้ครบถ้วน เพื่อหาข้อสรุปทั้งหมด ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่ข้อสรุปว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นความผิดหรือไม่ แต่รวมถึงข้อสรุปว่า หากผิด การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดที่มีความร้ายแรงระดับไหน เพื่อให้ กก.บห. พรรคได้ทำการลงโทษอย่างได้สัดส่วนกับฐานความผิด และคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย ทั้งนี้กระบวนการสอบข้อเท็จจริงและการวินิจฉัยจะได้ข้อสรุปภายในเดือนตุลาคมนี้ และพรรคจะสื่อสารผลสรุปต่อสาธารณะโดยทันทีอย่างเปิดเผย พร้อมกับตอบทุกข้อสงสัยที่มีเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
กรณีที่ 2 ซึ่งไม่ปรากฏในสื่อสาธารณะ ข้อกล่าวหาเรื่องการคุกคามทางเพศโดย สส. อีก 1 คน โดยกรณีนี้ ทางพรรคได้ทราบข้อมูลว่าได้เกิดเหตุการณ์ที่อาจเข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศโดยสมาชิกพรรค ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง สส.ของพรรคก้าวไกล แม้ว่าพรรคยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนโดยตรงจากบุคคลซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นผู้เสียหาย ทว่าตั้งแต่ทราบเรื่อง ทางคณะกรรมการวินัยของพรรคได้เร่งติดต่อไปยังบุคคลดังกล่าว โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการรอความพร้อมของบุคคลดังกล่าว ในการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฎ
"สำหรับทั้ง 2 กรณีนี้ ทางพรรคยืนยันว่าเราจะทำเต็มที่ในการหาข้อสรุปโดยเร็ว และหากได้ข้อสรุปว่าเป็นความผิด ทางพรรคยืนยันว่าเราจะไม่อดทนต่อการกระทำผิดทางเพศ รวมถึงการใช้อำนาจโดยมิชอบ การคอร์รัปชั่น และการฉ้อฉลต่างๆ โดยจะดำเนินการลงโทษโดยไม่สนต่อผลกระทบทางการเมืองที่ตามมา เพราะ สส. ไม่ใช่เพียงจำนวนที่เราต้องการ แต่คือผู้แทนราษฎรแบบไหนที่เราอยากเห็น" นายพริษฐ์ กล่าว
ส่วนที่สาม แนวทางการปรับปรุงการทำงานของพรรคหลังจากนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการคุกคามทางเพศในอนาคต
นายพริษฐ์ กล่าวว่า แม้ทางพรรคได้มีการอบรมบุคลากรของพรรคมาอย่างต่อเนื่องเรื่องการกระทำที่เข้าข่ายการคุกคามทางเพศ และแม้ทางพรรคจะพยายามออกแบบกระบวนการสอบสวนที่คำนึงถึงสภาพจิตใจของผู้ถูกกระทำ แต่การที่ตนต้องมาแถลงเรื่องนี้ในวันนี้ ก็เป็นการบ่งบอกที่ชัดเจน ว่าเรายังทำได้ดีไม่พอ หลังจากการหารือกันภายในมาเป็นระยะ ทางพรรคขอให้คำมั่นสัญญาว่าเราจะดำเนินการปรับปรุงตนเองในการป้องกันและรับมือกับปัญหาการคุกคามทางเพศ ผ่านมาตรการดังต่อไปนี้
(1) ทางพรรคจะปรับปรุงการทำงานของคณะกรรมการวินัยพรรค ผ่านการปรับองค์ประกอบของคณะกรรมการให้มีสัดส่วนของผู้เชี่ยวชาญภายนอก ที่ไม่ได้เป็น สส. ของพรรค และไม่ใช่เพศชาย เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเพิ่มทั้งประสิทธิภาพในการดำเนินงานของคณะกรรมการ รวมถึงเพิ่มกลไกตรวจสอบไม่ให้จำกัดอยู่เพียงการตรวจสอบโดยบุคลากรภายในพรรค
(2) ทางพรรคจะทบทวนและพิจารณาปรับปรุงกระบวนการสอบสวนตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความล่าช้าในการพิจารณาหรือดำเนินการใดๆ ที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความจำเป็นในการแสวงหาข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบเพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย
(3) ทางพรรคจะเพิ่มความเข้มข้นของการอบรมบุคลากรของพรรคเรื่องการเคารพความเสมอภาคทางเพศและสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย โดยจะขยายทั้งจำนวนผู้เข้าร่วมให้ครอบคลุมทุกภาคส่วนมากขึ้น เพิ่มความถี่และรูปแบบของการอบรม และเพิ่มความละเอียดของเนื้อหาและหลักสูตรที่จำเป็นต่อการสร้างความเข้าใจที่ผ่านคำปรึกษาของผู้เชี่ยวชาญภายนอก รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการคัดกรองบุคลากรให้คำนึงถึงความสำคัญของเรื่องดังกล่าวมากขึ้นและไม่น้อยไปกว่าความสามารถในการทำงาน
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ตนมายืนอยู่ตรงนี้ เพื่อมายอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าพรรคเรามีปัญหาเรื่องการคุกคามทางเพศ การคุกคามทางเพศ ไม่ว่าในรูปแบบใดหรือไม่ว่าจะมีการฟ้องร้องหรือไม่ เป็นการกระทำผิดที่ร้ายแรงและยอมรับไม่ได้
"จึงขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะไม่หลบหนีจากปัญหาดังกล่าว แต่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาดังกล่าว และพรรคก้าวไกลจะไม่สร้างวัฒนธรรมการปกปิดการกระทำผิดของคนในองค์กร เพราะการปกปิดและการไม่มีมาตรการรับผิดเพียงเพราะกลัวองค์กรเสียชื่อเสียงต่างหาก ที่เป็นต้นเหตุสำคัญในการส่งเสริมการคุกคามทางเพศและการใช้อำนาจอย่างฉ้อฉลในสังคม" นายพริษฐ์ กล่าว