'รสนา' ส่งจดหมายถึง 'ปธ.กกต.' สอบ แจกเงินดิจิทัล ขัดกม.เลือกตั้ง-รธน.
"รสนา" ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง ปธ.กกต. ชี้ข้อมูล โครงการแจกเงินดิจิทัล ส่อออก พ.ร.ก.กู้เงิน ส่อขัดกม.เลือกตั้ง ไม่เป็นไปตามข้อมูลที่แจ้งตอนหาเสียง-ขัดรธน.ม.62
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสว.กทม. ได้โพสต์เฟซบุ๊ค ระบุถึงกรณีที่ทำจดหมายเปิดผนึกถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ข้อมูลและร้องเรียนต่อ กกต. ในโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทยนั้นไม่เป็นไปตามรายละเอียดโครงการที่ใช้หาเสียงซึ่งได้แจ้งไว้ต่อ กกต. ก่อนการเลือกตั้งว่าจะใช้เงินงบประมาณ ทั้งนี้หลังการเลือกตั้งปรากฎชัดเจนว่า แหล่งเงินที่นำมาใช้นั้น มีแนวโน้มจะใช้วิธีกู้หนี้สาธารณะโดยออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ถือว่าแตกต่างจากที่ชี้แจงไว้ต่อ กกต.
ในจดหมายเปิดผนึกของ น.ส.รสนา ยังระบุด้วยให้ กกต.ตรวจสอบว่าว่า การกระทำของพรรคเพื่อไทย เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือไม่ โดยขอให้พิจารณากฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้อง ไม่เฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และขอให้พิจารณารัฐธรรมนูญ มาตรา 62 ว่าด้วยการไม่รักษาวินัยการเงินการคลัง และการเปิดประเพณีโครงการประชานิยมที่ไร้สถานการณ์ก็จะยิ่งทำลายหลักการวินัยการเงินการคลังของชาติโดยสิ้นเชิง
น.ส.รสนา ยังโพสต์ข้อความไว้ด้วยว่า เตือนรัฐบาลให้ระวังการออก พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อทำโครงการแจกเงินดิจิทัลภายในไตรมาสแรกของปี 2567 ซึ่งถือเป็นการหลีกเลี่ยงการกำกับโดยรัฐสภาหรือไม่ เข้าข่ายเป็นการใช้นโยบายการคลังเพื่อสร้างความนิยมให้แก่พรรคการเมือง หรือไม่ โครงการดังกล่าวยังมีลักษณะเป็นสัญญาว่าจะให้ในตอนหาเสียง แตกต่างจากที่ชี้แจงไว้กับกกต.นั้น เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องหรือไม่
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ น.ส.รสนา ได้ทำหนังสือถึง กกต. ลงวันที่ 19 ต.ค. เพื่อร้องเรียนให้ กกต. ร่วมกับองค์กรอิสระ ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญต่อโครงการแจกเงินดิจิทัล พร้อมชี้แนะและตักเตือนรัฐบาลกรณีที่มีความเห็นร่วมกันว่าโครงการดังกล่าวเสี่ยงต่อการทุจริตและอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อฐานะการเงินการคลังของประเทศ
"โครงการดังกล่าวกำลังจะเปิดประเพณีการแข่งขันทางการเมืองใหม่ ถือเป็นอันตรายต่อประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นโครงการประชานิยมที่ไม่ได้เป็นไปตามสถานการณ์วิกฤตยิ่งยวดทางเศรษฐกิจ รวมถึงไม่ใช่เพื่อช่วยเหลือคนที่เปราะบางในสังคม ไม่ปัญหาสถาบันการเงิน ดังนั้นหาก กกต. อนุญาตให้เกิดขึ้นได้ ก็จะเป็นการสร้างประเพณีทางการเมืองใหม่ที่อันตราย
น.ส.รสนา ระบุด้วยว่า โครงการแจกเงินดิจิทัล จะเกื้อหนุนการหาเสียง ช่วงใกล้หมดอายุก่อนการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพื่อทำให้เศรษฐกิจคึกคัก และช่วยเสริมคะแนนนิยมให้แก่พรรครัฐบาล อันจะเข้าข่ายเป็นการใช้นโยบายการคลังเพื่อสร้างความนิยมให้แก่พรรคการเมือง ซึ่งเข้าข่ายเป็นสัญญาว่าจะให้ในตอนหาเสียงอันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งอย่างร้ายแรง
"กรณีกกต. อนุญาตให้โครงการทำนองนี้เกิดขึ้นได้ ในการเลือกตั้งในอนาคต พรรคการเมืองก็ย่อมสามารถแข่งขันกัน เช่น ขยายวงเงินแจกเป็นคนละ แสนบาท หรือคนละห้าแสนบาท อันจะเป็นจุดเริ่มต้นพาประเทศสู่หายนะในฐานะการคลังดังเช่นเกิดขึ้นในบางประเทศในทวีปอเมริกาใต้" น.ส.รสนา ระบุ