เตือนพท.ไม่ไหวอย่าฝืน! เด็กภท. ย้ำค้าน 'แจกหมื่น' เทียบ'นโยบายกัญชา'ยอมถอย
"สฤษฏ์พงษ์" เตือนเพื่อไทย ไม่ไหวอย่าฝืน ย้ำค้าน "แจกเงินหมื่น" เปลี่ยนงบทุ่มโครงสร้างพื้นฐาน เทียบ"นโยบายกัญชา" ภูมิใจไทยยอมถอย
นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านเนชั่นกรองข่าวถึงกรณีโพสต์เฟซบุ๊คไม่เห็นด้วยกับการแจกเงินดิจิทัล10,000 บาท ว่า ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล แต่ในทางการเมืองการแสดงความคิดเห็นในนามส่วนตัวสามารถทำได้ ทั้งนี้ในฐานะประชาชนคนหนึ่งร่วมถึงการลงพื้นที่ไปสัมผัสพี่น้องประชาชนได้ฝากมาหลายประเด็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว
ส่วนตัวมีความเป็นห่วงในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลมีความเป็นห่วงในเรื่องที่มาของงบประมาณ วงเงิน รวมถึงความช้ดเจนเกี่ยวกับการดำเนินโครงการและข้อกฎหมายที่จะนำมาใช้ กระบวนการมีความโปร่งใส เป็นธรรม ไม่เกิดความเหลื่อมล้ำรวมถึงเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม ขณะเดียวกันผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังในภาพรวมเป็นอย่างไร
นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า ในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากที่ตนได้รับฟังในพื้นที่ ได้รับเสียงสะท้อนในเรื่องการขึ้นค่าตอบแทนตำแหน่งต่างๆที่ค่อนข้างน้อย ขณะเดียวกันยังมีปัญหาเรื่องภัยธรรมชาติ จึงควรใช้งบประมาณไปในส่วนนี้จะดีกว่า
ที่กระบี่ถ้าใครไปแจกเงินใครก็เอาเศรษฐีก็เอา ผมก็เอาถ้าแจกผม แต่ถ้าเราคิดในภาพรวมว่าเราเอาเงิน5.6แสนล้านมาแจกกับเราเอาวิธีอย่างนี้ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างอื่น เช่นเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เรื่องการท้องเที่ยว ภาคการเกษตร ตลาดแรงงาน อย่างบ้านผมจะขอเรื่องงบประมาณสร้างสะพานข้ามเกาะลันตาซึ่งไม่มีถนนไป จำนวน1,854 ล้าน ไม่กู้เวิร์ลแบงก์ยังกู้ไม่ได้
“วันนี้เรายังมีในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่เราจะนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวซึ่งวันนี้เครื่องยนต์ก็ไม่ดี ฉะนั้นวันนี้ถ้าเราเอาเงิน5.6แสนล้านไปสร้างเครื่องยนต์ที่มีความชัดเจน เห็นภาพชัดมันมีเยอะยังไม่นับรวมกรณีภัยธรรมชาติ ภัยสงครามซึ่งขณะนี้เกิดสงครามอิสราเอลที่เดินทางกลับไทยกว่า7-8พันคน เดี๋ยวจะมีภัยแล้งอีก ฉะนั้นการใช้เงินจำนวนนี้ไปกระตุ้นเวลานี้ส่วนตัวจึงเห็นว่ายังไม่เหมาะสม” นายสฤษฏ์พงษ์กล่าว
นายสฤษฏ์พงษ์ ยังกล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)กำลังตั้งคณะกรรมการมาศึกษา ตนเห็นด้วยกับกรณีที่นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทยแสดงความเห็นถ้าเลือกได้เงิน 500,000 ล้านบาท ไปทำประปาให้สะอาดทั่วไทย คิดว่าถ้าได้เงิน10,000 บาทกับได้น้ำปะปาดื่มฟรี หรือได้สะพานข้ามเกาะลันตา1,854 ล้าน ตนจะดีใจกว่า
"เรื่องอย่างนี้ถ้าไปเจอทางตันเราก็ไม่ควรไม่บุกเบิกทางตันให้มันมีแสงสว่าง เราอาจจะเลี้ยวกลับมาเพื่อหาแสงสว่างที่ดีกว่าถ้าเป็นเช่นนี้ประชาชนจะเข้าใจ ไม่ต้องไปกลัวเรื่องเสียคะแนนเราก็มาขออภัยประชาชน ดีกว่าเดินไปแล้วผู้นำอยู่ในประเทศไม่ได้ ผู้นำประเทศผิดกฎหมาย เราจึงควรมาหาทางออกร่วมกัน"
เมื่อถามว่านโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทยที่ถูกนำมาใส่ในนโยบาบรัฐบาล นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า นโยบายพรรคร่วมรัฐบาลมีหลายนโยบายที่นำมายำรวมกันในนามรัฐบาลบางครั้งก็ต้องเจอปัญหา
เหมือนรัฐบาลที่แล้วที่พรรคภูมิใจไทยเคยเสนอนโยบายกัญชาทางการแพทย์เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลก็กลายเป็นนโยบายรัฐบาลแต่เมื่อเดินหน้าไม่ได้ก็ต้องถอยกลับมาเพื่อแก้ไขอย่าไปฝืนในสิ่งที่ทำไม่ได้ ตอนเราเขียนนโยบายเราอาจคิดไม่ถึงหรือมองไม่ขาด ว่าจะต้องมีกฎหมายหลายฉบับที่จะต้องเข้ามาควบคุม
ถามย้ำว่า พรรคเพื่อไทยอาจเกรงว่า นโยบายดังกล่าวหากทำไม่ได้จะเสียคะแนนนิยมเหมือนตอนภูมิใจไทยที่ดันนโยบาบกัญชาไม่ได้ นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องยอมรับความจริงเช่นเรือดำน้ำที่เปลี่ยนเป็นเรือฟริเกต เหตุการเช่นนี้เกิดขึ้นได้ตลอด
ส่วนท่าทีของส.ส.ภูมิใจไทยขณะนี้ จะสื่อสารไปยังรัฐบาลหรือไม่อย่างไร ส่วนตัวไม่ทราบความคิดของสมาชิกพรรคแต่สำหรับตนและนายกรวีร์คิดตรงกันและมีโอกาสในเรื่องที่จะพูดเพราะมีแรงกดดันจากพี่น้องประชาชนที่ไม่เห็นด้วย ถ้าเราเก็บงำเอาไว้ไม่สื่อถึงผู้นำรัฐบาลคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งไม่ดี
อย่างไรก็ดีเรื่องนี้ยืนยันว่าไม่ได้ติดใจหากพรรคเพื่อไทยทำได้จะได้คะแนนนิยมมากว่าภูมิใจไทยเพราะพรรคก็ได้คะแนนน้อยกว่าพรรคเพื่อไทยอยู่แล้วในอนาคตมีขึ้นมีลงเป็นธรรมดา แต่ขอให้คิดถึงพี่น้องประชาชน และไม่ทำให้ประเทศชาติเกิดความเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกเหนือจากนายสฤษฏ์พงษ์ ที่ออกมาคัดค้านนโยบายเงินดิจิทัล ยังมีนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว โดยตั้งคำถามว่า “ถ้าเลือกได้เงิน 500,000 ล้านบาท ไปทำประปาให้สะอาดทั่วไทย หรือเอาเงินดิจิทัลไว้ใช้ดีกว่า??”