ซุ้ม ‘2 ส.’ รีเทิร์น รวมพลัง ‘มนพร’ ใจถึงพึ่งได้
"...จะว่าไปแล้ว สส.อีสาน เพื่อไทย ไม่ค่อยแปลกใจ หาก สส.เดือนจะได้เป็นรัฐมนตรี เพราะใครก็รู้ว่า เธอเป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตน ทำงานแข็งขัน และไม่มีคำถาม หากผู้ใหญ่จะเรียกใช้ไหว้วาน..."
การเป็นนักการเมืองกับนักธุรกิจ แตกต่างกันอย่างไร เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มาจากอาณาจักรแสนสิริ ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว
“ผมในฐานะเพิ่งเข้าสู่การเมือง ไม่เคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อน วันนี้มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผมเองผมก็ไม่มีความชำนาญในการที่จะใช้เวทีทางการมากนัก...”
นายกฯเศรษฐา สรุปจากการพูดคุยในวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล และถ่อมตัวขอเป็นนักเรียนน้อย เพื่อเรียนรู้ทางการเมืองจากผู้อาวุโส
ตัวอย่างของนักธุรกิจที่เข้าสู่เวทีการเมืองมากว่า 30 ปี อย่างสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม มีประสบการณ์โชกโชน จึงปรับตัวได้ทุกสถานการณ์
บังเอิญตอนที่สุริยะ ทิ้งอาณาจักรไทยซัมมิทเข้าสู่การเมืองนั้น ได้มี สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นพี่เลี้ยง คอยติวเข้มวิชาการเป็นรัฐมนตรี
สุริยะ-สมศักดิ์ จึงกลายเป็นคู่หูคู่ร่วมชะตากรรม ตั้งแต่สมัยกลุ่มวังบัวบาน ก่อนแยกออกมาตั้งกลุ่มวังน้ำยม ตอนปลายรัฐบาลทักษิณ 1 และจบภารกิจเมื่อเกิดรัฐประหาร 2549
ปี 2561 สุริยะโคจรมาร่วมงานกับสมศักดิ์อีกครั้ง ในนามกลุ่มสามมิตร สมัยรัฐบาลประยุทธ์ ซึ่งในวันนี้ กลุ่มสามมิตรปิดฉากไปแล้ว
ระยะหลัง สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เริ่มออกเดินสายร่วมกัน โดยมีเป้าหมายพื้นที่สีแดงเข้มของพรรคเพื่อไทย
วันที่ 3 พ.ย.2566 สมศักดิ์-สุริยะ พร้อมกับ มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ลงติดตามการพัฒนาพื้นที่ ที่แขวงทางหลวงสุรินทร์ จ.สุรินทร์ โดยมี สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทยในพื้นที่ให้การต้อนรับ
ถัดจากนั้น สมศักดิ์ และคณะ เดินทางต่อไปยังโรงเรียนปรางค์กู่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ โดยมี สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ร่วมต้อนรับ
สมรภูมิสุรินทร์ เคยเป็นฐานที่มั่นสีแดง แต่เที่ยวที่แล้ว พลาดท่าแพ้ภูมิใจไทย เหลือ สส.อยู่ 4 คน จากทั้งหมด 8 คน
ส่วนศรีสะเกษ เพื่อไทยยังครองพื้นที่ส่วนใหญ่ไว้ได้ แต่คณะของสมศักดิ์ไปดูเรื่องน้ำ ที่เขต 7 ของ สส.วิลดา อินฉัตร และมี สส.นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร จากเขต 9 มาร่วมต้อนรับด้วย
มีข้อน่าสังเกต 2 สส.ศรีสะเกษ เป็น สส.สมัยแรก ไม่ได้สังกัดกลุ่มเสี่ยเบี้ยว-เกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย
ในยุครัฐบาลประยุทธ์ สมศักดิ์-สุริยะ ไปไหนมาไหน ต้องมี อนุชา นาคาศัย แต่สมัยรัฐบาลเศรษฐา 2 ส. ขึ้นเหนือล่องใต้ ก็ต้องมี สส.หญิงเหล็กจากนครพนม มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม
ย้อนไปเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2566 สส.เดือน มนพร ได้พา สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม พร้อมครอบครัว ไปประกอบพิธีถวายเครื่องบวงสรวง พานบายศรีพญานาค และพิธีห่มผ้าสีแดงรอบองค์พระธาตุพนมถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
การทำบุญครั้งนี้ สุริยะ และมนพร เคยร่วมกันขอพรให้ครอบครัวประสบความสำเร็จด้านการงาน รวมถึงขอให้ตั้งรัฐบาลสำเร็จ หลังเป็นไปตามคำขอจึงมากราบขอพรทำบุญอีกครั้ง
ปัจจุบัน มนพร เจริญศรี สส.นครพนม 3 สมัย กลายเป็นมือประสาน งาน เป็นตัวเชื่อมระหว่าง สส.เพื่อไทย กับนายกฯ เศรษฐา
คนนครพนมรู้จัก สส.เดือน มนพร มานานกว่า 20 ปี เริ่มจากเป็น ส.อบจ.นครพนม และเป็นนายก อบจ.นครพนม โดยการสนับสนุนของ สส.นครพนม พรรคไทยรักไทย ปี 2547
นักการเมืองที่เป็นลมใต้ปีกของ สส.เดือน ในยุคแรกๆคือ นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีต สส.นครพนม
ด้วยความเป็นนักธุรกิจท้องถิ่น มีบุคลิกใจถึงพึ่งได้ เมื่อลงเล่นการเมือง จึงเข้าถึงชาวบ้านทุกหมู่บ้าน
ช่วงที่เป็นแกนนำเสื้อแดงนครพนม เดือน-มนพร ก็เข้าคลุกวงในนอนกลางดินกินกลางม็อบ จึงเป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้าน เมื่อลงสมัคร สส.ปี 2554 ก็ได้รับคะแนนท่วมท้น
ปี 2565 พรรคเพื่อไทยปรับปรุงโครงสร้างพรรคใหม่ สส.เดือน ได้รับตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค และรับผิดชอบเป็นแม่ทัพนครพนม โดยการสนับสนุนของมาดามแจ๋น พวงเพ็ชร ชุนละเอียด
ปี 2566 เพื่อไทย ได้ สส.นครพนม 2 ที่นั่ง จาก 4 ที่นั่ง ถ้าประเมินแบบคณิตศาสตร์การเมือง ก็ถือว่า เสมอตัว
แต่ที่มีคนโจษขานทั้งประเทศ เมื่อศึกช้างชนช้างที่เขต 2 อ.เมืองนครพนม ระหว่างมนพร เจริญศรี กับสหายแสง ศุภชัย โพธิ์สุ ปรากฏว่า สส.เดือนเอาชนะสหายแสง แบบทิ้งห่าง
เขต 1 อ.ศรีสงคราม ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ เพื่อไทย ก็ชนะ พูนสุข โพธิ์สุ ภรรยาสหายแสง
ชัยชนะของ สส.เดือน เหนือตระกูลโพธิ์สุ ทำให้คนในเพื่อไทยรู้สึกสะใจ ที่มีคนเพื่อไทยดับอหังการ์สหายแสงได้
ช่วงหลังเลือกตั้งใหม่ๆ สส.เดือน รวบรวมเพื่อน สส.อีสาน 20 คน เข้าร่วมทำกิจกรรมกับ สมศักดิ์ เทพสุทิน ออกเดินสายไปภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคใต้ เพื่อดูงานด้านการเกษตร
ตอนนั้น ก็มีข่าวทำนองว่า สมศักดิ์ กำลังรวบรวมไพร่พลเหมือนสมัยตั้งกลุ่มวังน้ำยม เพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการจัดตั้งรัฐบาล โดยการนำของพรรคเพื่อไทย
หลังเศรษฐา ทวีสิน ได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี ชื่อของ สส.เดือน มนพร ก็ติดโผจะได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีในกลุ่มแรกๆ แถมระบุตำแหน่ง รมช.คมนาคม
จะว่าไปแล้ว สส.อีสาน เพื่อไทย ไม่ค่อยแปลกใจ หาก สส.เดือนจะได้เป็นรัฐมนตรี เพราะใครก็รู้ว่า เธอเป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตน ทำงานแข็งขัน และไม่มีคำถาม หากผู้ใหญ่จะเรียกใช้ไหว้วาน
ด้วยเหตุนี้ สุริยะ-สมศักดิ์ จึงชื่นชอบ และที่สำคัญ สส.เดือน เป็นที่รักของ สส.ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะ สส.หน้าใหม่ที่ต้องการพี่เลี้ยง
จากนี้ไป น่าติดตามว่า 2 ส.คู่หูคู่ชะตากรรม และหญิงเหล็ก มนพร เจริญศรี จะก้าวเดินต่อไปอย่างไร จะตั้งซุ้มใหม่ หรืออยู่กันแบบหลวมๆแบบนี้