ทสท.กระตุก 'เศรษฐา' ทำตามที่หาเสียง ไม่กู้แจกเงินดิจิทัล สร้างภาระ ปชช.
'ไทยสร้างไทย' กระตุก 'นายกฯเศรษฐา' ทำตามสัญญาที่หาเสียง ไหนว่าจะไม่กู้เงินมาแจกเงินดิจิทัล ชี้เสี่ยงเป็นพิษร้ายซึมลึก กระตุ้นเศรษฐกิจแบบหายุหมุนไม่ได้ สร้างกองหนี้มหาศาล 5 แสนล้าน ให้ประชาชนต้องรับภาระ
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2566 ที่พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) นายรณกาจ ชินสำราญ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรค ทสท. กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ยืนยันมาตลอดว่า จะไม่มีการกู้เงินมาแจกประชาชน ในการทำนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท แต่จะใช้การจัดสรรงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ หรือรีดไขมัน 200,000 ล้าน เช่น งบกลาโหม รวมทั้งกล่าวว่าจะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มอีก 360,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 560,000 ล้านบาท ว่า ณ เวลานี้ ประเด็นที่น่ากังวลมากที่สุดคือ เรื่องของการกู้เงินมาแจก พรรคไทยสร้างไทย ยืนยันว่า พรรคเห็นด้วยกับการช่วยเหลือประชาชนอย่างการทำ Helicopter Money แจกเงินและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน แต่สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่นี้ ได้สวนทางกับสิ่งที่พูดไว้อย่างชัดเจน และจะก่อให้เกิดปัญหาที่เป็นพิษร้ายซึมลึก ในอนาคต โดยเฉพาะประเด็นการกู้เงิน 500,000 ล้านมาแจก
นายรณกาจ กล่าวอีกว่า ขณะที่ IMF และ World Bank ได้ออกมาเตือนว่า เศรษฐกิจของโลก ประเทศในกลุ่ม Emerging Market และประเทศไทย กำลังเริ่มฟื้นตัว สิ่งที่รัฐบาลควรจะหลีกเลี่ยงคือการกู้เงินมาแจก แต่ควรจะเป็นการหาเงินจากสิ่งที่นายเศรษฐาได้ประกาศไว้ อย่างการบริหารงบประมาณ และรายได้จัดเก็บภาษีเพิ่ม ซึ่งจากการแถลงของรัฐบาลในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนเงื่อนไขโครงการให้ใช้เงินได้ถึงปี 2570 ไม่ได้เป็นไปตามที่ประกาศไว้ คือพายุหมุนทางเศรษฐกิจ ที่จะกระตุ้นอย่างรวดเร็ว รุนแรง ให้ได้ผลทันทีภายใน 6 เดือน
นายรณกาจ กล่าวด้วยว่า ดังนั้นมีความเสี่ยง ที่โครงการนี้ จะไม่สามารถทำให้การหมุนของเศรษฐกิจได้ 5-6 รอบ ตามที่ประกาศไว้ แต่จะกลายเป็นกองหนี้มหาศาลถึง 500,000 ล้าน ฝากภาระไว้เป็นพิษร้ายซึมลึกทิ้งไว้ให้คนรุ่นต่อไป การบริหารประเทศ ต้องการคนที่มีฝีมือ ไม่ใช่ต้องการคนที่สักแต่พูดแต่ไม่เป็นไปตามที่พูด การกู้มาแจก ใครก็ทำได้ไม่ต้องอาศัยฝีมืออะไรเลย แต่การที่นายกได้กล่าวว่าจะใช้ความสามารถการบริหารจัดการงบโดยที่ไม่ต้องกู้ เท่ากับเป็นการหลอกลวงประชาชนใช่หรือไม่